กัสโต้ เวิล์ด ทัวร์

บริการคุณภาพ ทุกเส้นทางท่องเที่ยว

เลขที่ 11/03295

ทัวร์จอร์เจีย GRAND GEORGIA

ทัวร์จอร์เจีย
รหัส 006-2045
วันที่เดินทาง
ต.ค.65
ช่วงเวลา
9 วัน 6 คืน
ราคาเริ่มต้น
66,900 บาท
แผนการเดินทาง
วันที่ 1
กรุงเทพ – อิสตันบูล
 20.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 8 เคาน์เตอร์  สายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
23.00 น. ออกเดินทางสู่ประเทศตุรกี ด้วยเที่ยวบิน TK069
วันที่ 2
อิสตันบูล– ทบิลิซี - โบสถ์เมเคตี – ขึ้นกระเช้าชมป้อมนาริกาลา - โรงอาบน้ำโบราณ - ถนนชาดินี่
05.15 น. เดินทางถึงสนามบินอิสตันบูล รอเปลี่ยนเครื่อง
06.30 น. ออกเดินทางสู่สนามบินจอเจียร์ โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK378
09.45 น. เดินทางถึงเมืองทบิลิซี (Tbilisi) ประเทศจอเจียร์ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากร เมืองทบิลิซีนั้น เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของจอร์เจีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคูรา (Kura) หรือเรียกว่า แม่น้ำมตควารี (Mtkvari) ในภาษาท้องถิ่น ทบิลิซิ มีเนื้อที่ประมาณ 372 ตร.กม. และมีประชากรประมาณ 1.1 ล้านคน เมืองนี้ถูกสร้างโดย วาคตัง จอร์กาซาลี (Vakhtang Gorgasali) กษัตริย์จอร์เจียแห่งคาร์ตลี (ไอบีเรีย) ได้ก่อตั้งเมืองนี้ขึ้นในคริสตศตวรรษที่ 4 เมืองทบิลิซิเป็นศูนย์กลางการทำอุตสาหกรรม สังคมและวัฒนธรรมในภูมิภาคคอเคซัส ในประวัติศาสตร์เมืองนี้อยู่ในสายทางหนึ่งของเส้นทางสายไหม และปัจจุบันยังมีบทบาทสำคัญในฐานะศูนย์กลางการขนส่งและการค้า เนื่องจากความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ในแง่ที่ตั้งที่เป็นจุดตัดระหว่างทวีปเอเชียกับทวีปยุโรป นำท่านชม โบสถ์เมเคตี (Metekhi Church) เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12 ตั้งอยู่บริเวณริมหน้าผาที่เบื้องล่างเป็นแม่น้ำมิตคาวารี ในอดีตถูกใช้เป็นป้อมปราการ และที่พำนักของกษัตริย์ ในบริเวณเดียวกัน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย หลังจากนั้นนำท่านขึ้นกระเช้าไฟฟ้าชมป้อมนาริกาลา(Narikala Fortress) ซึ่งเป็นป้อมปราการหินโบราณขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนเนินเขา สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 4 ผ่านผู้ปกครองมาหลายยุคหลายสมัยที่ต่างผลัดกันเข้ามารุกรานนครเล็กๆ บนเส้นทางสายไหมแห่งนี้ ราชวงศ์อุมัยยัดของชาวอาหรับได้ต่อเติมป้อมในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 7 ต่อมาพวกมองโกลตั้งชื่อให้ใหม่ว่า Narin Qala แปลว่าป้อมน้อย (Little Fortress) นักประวัติศาสตร์ยกย่องว่าป้อมนาริกาลาเป็นป้อมแห่งหนึ่งบนเส้นทางสายไหมที่แข็งแกร่งและตีได้ยากที่สุด จากนั้นนำท่านชมโรงอาบน้ำโบราณ หรือ อะบานู อุบานิ (Abanotubani) เป็นสถานที่สาหรับแช่น้ำพุร้อนที่มีแร่ถามะถัน ตามตำนานเล่าขานว่าในสมัยพระเจ้าวัคตังที่ 1 กอร์กัซลี่นกเหยี่ยวของพระองค์ได้ตกลงไปในบริเวณดังกล่าว จึงทำให้ค้นพบบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ขึ้น ลักษณะคล้ายโรงอาบน้ำเหมือนกับการออนเซ็นของชาวญี่ปุ่นผสมรวมกับการอาบน้ำแบบตุรกี นำท่านชมหมู่โรงอาบน้ำที่มีการสร้างและให้บริการตั้งแต่ยุคกลางจนถึงปัจจุบันที่มีรูปแบบตัวอาคารที่หลากหลาย หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ถนนชาดินี่ (Shardini Street) ถนนคนเดินย่ายเมืองเก่า เป็นแหล่งศูนย์รวมทางวัฒนธรรมและสังคมของกรุงทบิลิซี  อิสระให้ท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย หลังจากนั้นนำท่านถ่ายภาพกับสะพานสันติภาพ (Bridge Of  Peace) สะพานข้ามแม่น้ำคูราที่ใช้เชื่อมระหว่างตัวเมืองเก่าและตัวเมืองใหม่ โดยตัวสะพานเป็นเหล็กและกระจกใสมีความยาว 150 เมตร เปิดใช้งานเมื่อปี 2010 ได้รับการยกย่องว่าเป็นสถาปัตยกรรมยุคใหม่ที่สวยงามของจอเจียร์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
วันที่ 3
ทบิลิซี – เทลาวี – ควาเรลิ – ชิมไวน์พื้นเมืองของเมืองควาเรลิ – ซิกนากิ – กำแพงเมืองโบราณซิกนากิ – อารามนักบุญนีโน่แห่งบอดบี – ชมการแสดงพื้นเมืองของจอเจียร์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
  หลังอาหารเช้านำท่านเดินทางสู่เมืองเทลาวี(Telavi) เพื่อเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์กษัตริย์จอเจียร์ อีเรเคิลที่ 2( King Erekle II Museum) เป็นพระราชวังและป้อมปราการในยุคกลางที่ได้รับการดูแลรักษาไว้ดีที่สุดของประเทศ สร้างโดยกษัตริย์อาร์ชิล (King Archil) ระหว่างปี 1667-1675 และทำหน้าที่เป็นบัลลังก์และศูนย์กลางการปกครองอาณาจักรคาเคติระหว่างศตวรรษที่ 17-18 และได้รับการขยายเพิ่มเติมโดยกษัตริย์อีเรเคิลที่ 2 จนได้รับสมญานามว่า ‘เมืองคาเคเทียนน้อย’ (The Little Kakhetian) ปัจจุบันปรับให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงให้เห็นถึงชีวิตความเป็นอยู่ของราชสำนักในสมัยกษัตริย์อีเรเคิลที่ 2 ทั้งห้องพระบรรทม พระราชฐานส่วนใน บัลลังก์ และศาสตราวุธ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย หลังจากนั้นนำท่านเดินทางควาเรลิ (Kvarelli) ซึ่งเป็นเมืองหนึ่งในภูมิภาค Kakheti ตั้งอยู่ในหุบเขา Alazani ใกล้เชิงเขา Greater Caucasus อีกทั้งยังมีชื่อเสียงเรื่องไวน์ ให้ท่านได้ลิ้มลองไวน์พื้นเมืองของเมืองควาเรลิ (Wine Tasting) ที่มีรสชาติเฉพาะตัวไม่เหมือนที่ไหน หลังจากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองซิกนากิ (Signagi หรือ Sighnaghi ) เมืองบนเนินเขาสูงกว่า 800 เมตรจากระดับน้ำทะเลในเขตจังหวัด Kakheti จังหวัดทางตะวันออกสุดของประเทศจอร์เจีย หนึ่งในเมืองที่เล็กที่สุดของประเทศซึ่งมีประชากรเพียง 2,000 กว่าคนแห่งนี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจอร์เจียให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของประเทศเนื่องด้วยทัศนียภาพทางธรรมชาติอันงดงามและความร่ำรวยของประวัติศาสตร์บ้านเมือง โดยมีชื่อเสียงจากการผลิตไวน์ การทอพรมท้องถิ่น หลังจากนั้นนำท่านชมกำแพงเมืองโบราณซิกนากิ (Sighnaghi City Wall) ที่เหลือเพียงแห่งเดียวในจอร์เจียที่ล้อมรอบตัวเมือง หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่  อารามนักบุญนีโน่แห่งบอดบี (Monastery of St. Nino at Bodbe) จุดหมายปลายทางของผู้แสวงบุญชาวจอร์เจียน เป็นอารามสงฆ์ในนิกายจอร์เจียนออร์โธดอกซ์ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 แต่ได้รับการบูรณะใหม่ทั้งหมดในศตวรรษที่ 17 ปัจจุบันเป็นอารามนางชี อุทิศให้นักบุญนีโน่ สตรีผู้ประกาศศาสนาคริสต์ในศตวรรษที่ 4 โดยหลุมศพของนักบุญนีโนก็ได้รับการบรรจุไว้ในอารามแห่งนี้เช่นกัน หลังจากนั้นนำท่านเดินทางกลับสุ่เมืองทบิลิซี
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (พิเศษชมการแสดงพื้นเมืองของจอเจียร์อันน่าตื่นตาตื่นใจ)
วันที่ 4
ทบิลิซี – อนุสาวรรีย์ประวัติศาสตร์จอร์เจีย – มิสเคต้า – วิหารจวารี – วิหารสเวติสโคเวลี – ป้อมอันนานูรี – คาซเบกี้ - โบสถ์เกอร์เกตี้
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
  จากนั้นนำท่านเดินทางสู่อนุสาวรรีย์ประวัติศาสตร์จอร์เจีย (The Chronicle of Georgia) ซึ่งมีลักษณะเป็นแท่งหินสีดำขนาดใหญ่ แกะสลักเป็นรูปต่างๆที่สื่อถึงเรื่องราวในอดีตของประเทศจอร์เจีย สร้างขึ้นโดย ซุราป สถาปนิกชื่อดังก่อสร้างเมื่อปี 1985 ประกอบด้วยแท่งเสา 16 แท่ง แต่ละแท่งสูง 35 เมตร แต่ละเสาจะแบ่งเรื่องราวออกเป็น 3 ส่วนนั่นคือ ส่วนล่างสุดเกี่ยวกับพระคัมภัร์ของศาสนาคริสต์ ส่วนกลางเกี่ยวกับเรื่องของข้าราชการชนชั้นสูงของจอร์เจีย และส่วนบนเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญต่างๆของประเทศ ท่านสามารถชมวิวเมืองจากมุมสูงได้จากสถานที่แห่งนี้ นำท่านเดินทางสู่เมืองมิสเคต้า (Mtskheta) ซึ่งเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของประเทศจอร์เจียสมัยอาณาจักรไอบีเรีย (Kingdom of Iberia) ซึ่งเป็นราชอาณาจักรของจอร์เจียในช่วง 500 ปีก่อนคริสตกาลตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือห่างจากกรุงทบิลิซี ประมาณ 20 กม. เมืองนี้ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีความเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งของประเทศ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1994 นำท่านชมวิหารจวารี (Jvari Monastery) หรือโบสถ์แห่งไม้กางเขนอันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาคริสต์นิกายออโธด๊อก สร้างขึ้นเมื่อคริสตวรรษที่ 6 ชาวจอร์เจียสักการะนับถือวิหารแห่งนี้เป็นอย่างมาก ภายในโบสถ์มีไม้กางเขนขนาดใหญ่ โบสถ์นี้ตั้งอยู่บนภูเขาที่มีแม่น้ำสองสายมาบรรจบกันคือแม่น้ำมิควารี (Mtkvari river) และแม่น้ำอรักวี (Aragvi river) จากนั้นนำท่านชมวิหารสเวติสโคเวลี (Svetitskhoveli Cathedral) หรือหมายถึงเสาที่มีชีวิต(The Living Pillar Cathedral) สร้างราวศตวรรษที่ 11 โบสถ์แห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของจอร์เจีย สร้างขึ้นโดยสถาปนิกชาวจอร์เจีย ชื่อ Arsukisdze  มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่ทำให้ชาวจอร์เจียเปลี่ยนความเชื่อและหันมานับถือศาสนาคริสต์ และให้ศาสนาคริสต์มาเป็นศาสนาประจำชาติของจอร์เจียเมื่อปี ค.ศ.337 และถือเป็นสิ่งก่อสร้างยุคโบราณที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศจอร์เจีย ภายในมีภาพเขียนสีเฟรสโก้อย่างงดงาม
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางต่อสู่เมืองอันนานูรี เพื่อชมป้อมอันนานูรี (Ananuri Fortress) ป้อมปราการเก่าแก่ มีกำแพงล้อมรอบตั้งอยู่ริมแม่น้ำอรักวี ถูกสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่16-17 ชมความงดงามขอโบสถ์ 2 หลังที่ตั้งอยู่ภายในกำแพง ซึ่งเป็นโบสถ์ของชาวเวอร์จิ้น ภายในยังมีหอคอยทรงสี่เหลี่ยมใหญ่ที่ตั้งตระหง่าน ทำให้เห็นทัศนีย์ภาพทิวทัศน์อันสวยงามด้านล่างจากมุมสูงของป้อมปราการนี้ จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยังเมืองคาซเบกี้ (Kazbegi) หรือปัจจุบันเรียกว่า เมืองสเตปันสมินดา(Stepansminda) ชื่อนี้เพิ่งเปลี่ยนเมื่อปี 2006 หลังจากนักบุญนิกายออร์โธด๊อก ชื่อ สเตฟาน ได้มาพำนักอาศัยและก่อสร้างสถานที่สำหรับจำศีลภาวนาขึ้น เมืองนี้อยู่ห่างจากเมืองหลวงทบิลิซี ประมาณ 157 กิโลเมตร เป็นเมืองเล็กๆตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเทอร์กี้ ถือเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวบนเทือกเขาคอเคซัส (Caucasus) ที่สำคัญของประเทศจอร์เจีย มีภูมิทัศน์ที่สวยงามโดยรอบ รวมทั้งเป็นจุดชมวิวของยอดเขาคาซเบกี้อีกด้วย จากนั้นนำท่านขึ้นรถ 4WD (รถขับเคลื่อน 4 ล้อ) เพื่อเข้าสู่ใจกลางหุบเขาคอเคซัส(Caucasus) นำท่านชมความสวยงามของโบสถ์เกอร์เกตี้ (Gergeti Trinity Church) หรือเรียกว่าโบสถ์สมินดา ซาเมบา (Tsminda Sameba) สร้างด้วยหินแกรนิตขนาดใหญ่ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 เป็นโบสถ์ชื่อดังกลางหุบเขาคอเคซัส ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญหนึ่งของประเทศจอร์เจีย ตั้งอยู่บนเทือกเขาคาซเบกี้ ที่ระดับความสูงจากน้ำทะเล 2,170 เมตร (***ในกรณีที่มีหิมะตกหนัก จนไม่สามารถเดินทางได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ ปรับเปลี่ยนโปรแกรมตามความเหมาะสม***)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
วันที่ 5
คาซเบกี้ – กูดาอูรี - อนุสรณ์สถานรัสเซีย-จอร์เจีย – อ่างเก็บน้ำชินวารี – อัพลิสต์ชิเคห์ – กอรี – พิพิธภัณฑ์ของท่านสตาลิน - บอร์โจมี
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
  นำท่านออกเดินทางไปยังเมืองกูดาอูรี (Gudauri) ไปตามทางเส้นทางหลวงที่สำคัญของจอร์เจียที่มีชื่อว่า Georgian Military Highway หรือเส้นทางสำหรับใช้ในด้านทหาร ถนนสายนี้เป็นถนนสายสำคัญที่สุดที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยที่จอร์เจียอยู่ภายใต้การควบคุมจากสหภาพโซเวียต เพื่อใช้เป็นเส้นทางหลักในการข้ามเทือกเขาคอเคซัสจากรัสเซียมายังที่ภูมิภาคนี้ ถนนแห่งประวัติศาสตร์นี้เป็นเส้นทางที่จะนำท่านขึ้นสู่เทือกเขาคอเคซัส (Caucasus Mountain) เป็นเทือกเขาที่ตั้งอยู่ระหว่างทวีปยุโรป และเอเชีย ประกอบด้วย 2 ส่วน คือเทือกเขาคอเคซัสใหญ่ และเทือกเขาคอเคซัสน้อย ที่มีความยาวประมาณ 1,100 กม. ที่เป็นเส้นกั้นระหว่างพรมแดนรัสเซียกับจอร์เจีย นำท่านชมอนุสรณ์สถานรัสเซีย-จอร์เจีย(Memorial of Friendship) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Russia–Georgia Friendship Monument เป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นมาในปี ค.ศ. 1983 เพื่อเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงความสัมพันธ์อันดีของประเทศจอร์เจียและประเทศรัสเซีย โครงสร้างทั้งหมดทำมาจากหินและคอนกรีต ภายในมีการวาดภาพประวัติศาสตร์ของประเทศจอร์เจียและประเทศรัสเซียไว้อย่างสวยงาม ให้ท่านได้อิสระถ่ายรูปบรรยากาศและทิวทัศน์อันสวยงาม
กลางวัน

บ่าย

 

 

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านถ่ายรูปคู่กับอ่างเก็บน้ำชินวารี (Zhinvali Reservoir) และยังมีเขื่อนซึ่งเป็นสถานที่สำคัญสำหรับนำน้ำที่เก็บไว้ส่งต่อไปยังเมืองหลวงและใช้ผลิตไฟฟ้า ซึ่งทำให้ชาวเมืองทบิลิซีมีน้ำไว้ดื่มไว้ จากนั้นนำท่านเดินทางไปยังเมืองอัพลิสต์ชิเคห์ (Uplistsikhe) ซึ่งเป็นเมืองถ้ำเก่าแก่ของจอร์เจีย มีการตั้งถิ่นฐานในดินแดนแถบนี้กันมานานแล้วกว่า 3000 ปีก่อน ในอดีตเป็นเส้นทางการค้าขายสินค้าจากอินเดียไปยังทะเลดำและต่อไปถึงทางตะวันตก ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนเหนือ ส่วนกลาง และส่วนใต้ ซึ่งส่วนกลางจะเป็นบริเวณที่ใหม่ที่สุด ประกอบไปด้วยสถาปัตยกรรมการสร้างตัดหินและเจาะลึกเข้าไปเป็นที่อยู่อาศัย ถ้ำส่วนมากจะไม่มีการตกแต่งภายในใดๆ และยังมีห้องต่างๆ ซึ่งคาดว่าเป็นโบสถ์เก่าแก่ของชาวคริสต์ ที่สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 9 ให้ท่านอิสระชมหมู่บ้านที่สร้างขึ้นจากถ้ำนี้ตามอัธยาศัย หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่เมืองกอรี(Gori) ซึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของเมืองมิสเคต้า เมืองนี้เป็นเมืองบ้านเกิดของ โจเซฟ สตาลิน (Joseph Stalin) ชาวจอร์เจียที่ในอดีตเป็นผู้ปกครองสหภาพโซเวียต ในยุคศตวรรษที่ 1920 ถึง 1950 และมีชื่อเสียงเรื่องความโหดเหี้ยมในการปกครองในเมืองกอรีแห่งนี้ นำท่านชม พิพิธภัณฑ์ของท่านสตาลิน (Musuem of Stalin) ซึ่งเป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราว และสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ของสตาลินเอาไว้ รวมไปถึงตัวอาคารที่สตาลินเกิดด้วย ภายในพิพิธภัณฑ์สตาลิน มีการจัดแสดงชีวประวัติของสตาลินตั้งแต่เกิดจนกระทั่งเสียชีวิต จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองบอร์โจมี (Borjomi) ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศเล็กๆในหุบเขาทางตอนใต้ของประเทศจอร์เจีย มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 15,000 คน บอร์โจมีเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านน้ำแร่ระดับโลก เพราะมีลำธารน้ำที่ใส บริสุทธิ์ที่ไหลมาจากยอดเขาบาคูเรียนี (Bakuriani Mountain) ที่มีความสูงประมาณ 2,300 เมตร ที่ถูกค้นพบโดยนายทหารรัสเซีย โดยในอดีตชาวเมืองเชื่อกันว่าถ้าดื่มน้ำนี้จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรงและสามารถรักษาโรคร้ายได้ และต่อมาได้เริ่มมีการตั้งโรงงานผลิตและส่งออกน้ำแร่ยี่ห้อบอร์โจมี (Borjomi) ที่มีชื่อเสียงไปยังประเทศต่างๆ มากมาย

ค่ำ รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
วันที่ 6
บอร์โจมี – ขึ้นกระเช้าสู่สวนบอร์โจมี่ – คูไตซี - มหาวิหารบากราติ -สวนคูไตซี - น้ำพุโคลซิส
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
  นำท่านขึ้นกระเช้าชมสวนบอร์โจมี่ (Borjomi park) สถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนของชาวเมืองบอร์โจมี่ ที่นิยมมาเดินเล่นและผ่อน คลายโดยการแช่น้ำแร่ในวันหยุด อิสระให้ท่านเก็บภาพวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติจากมุมสูงตามอัธยาศัย หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่เมืองคูไตซี (Kutaisi) ที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เมืองนี้มีความเจริญเป็นอันดับสองรองจากทบิลีซี    ชมความสวยงามของเมืองคูไทซีซึ่งมีชื่อเสียงทางด้านวัฒนธรรมและได้รับการขึ้นทะเบียน ให้เป็นมรดกโลก  ซึ่งถ้าย้อนกลับไปเมื่อสมัยศตวรรษที่ 12-13 ได้เคยเป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของอาณาจักรโคลคลิส (Empire of Colclis) และอาณาจักรอีเมรีเทีย (Kingdom of Emeretia) ที่อยู่ทางด้านของตะวันตกของประเทศ
กลางวัน

บ่าย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

จากนั้นนำท่านชมมหาวิหารบากราติ (Bagradi Cathedral) ที่ตั้งชื่อตามพระเจ้าบากราตที่ 3 กษัตริย์ผู้ทรงรวมจอร์เจีย สร้างขึ้นในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 10 ตั้งอยู่ในเมืองคูไตซี โดยมหาวิหารแห่งนี้แม้จะถูกพวกเติร์กทำลายไปบางส่วน แต่ซากปรักหักพังของโบสถ์ก็ยังปรากฏจนถึงทุกวันนี้ โดยได้มีการบูรณะมาโดยตลอด ซึ่งสะท้อนถึงสถาปัตยกรรมยุคกลางได้อย่างเด่นชัด หลังจากนั้นนำท่านถ่ายรุปคู่กับ สวนสวยงามประจำเมืองคูไตซี  นำท่านถ่ายรูปคู่ น้ำพุโคลซิส (Colchis Fountain)ที่มีชื่อเสียงซึ่งสร้างขึ้นในปี 2011 เป็นโครงสร้างแบบลดหลั่นที่แสดงถึงตำนานของโคลซิสโบราณ

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
วันที่ 7
คูไตซี - อารามจีลาติ – ล่องเรือชมความงามถ้ำโพรมิธีอุส – บาทูมิ - อนุสาวรีย์อาลีและนีโน่ - ชมโชว์การแสดงน้ำพุเต้นระบำ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
  จากนั้นนำท่านชมอารามจีลาติ (Gelati Monastery) ซึ่งเป็นอารามหลวงของเมือง ถูกค้นพบในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12 โดยทางองค์การยูเนสโกได้ประกาศให้อารามจีลาตินี้ขึ้นเป็นมรดกโลกเมื่อ ปี ค.ศ.1994 ภายในบริเวณอารามแบ่งเป็นสองส่วนคือโบสถ์เซนต์ นิโคลาส (St. Nicholas) และโบสถ์เซนต์ จอร์จ (St.George) โดยในโบสถ์เซนต์นิโคลัสนั้น มีภาพเขียนสีเฟรสโกที่สวยงามตระการตามากมายหลายภาพเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับคริสต์ศาสนา ที่ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์  โดยบริเวณตรงโดมขนาดใหญ่ของโบสถ์ซึ่งเป็นภาพพระแม่มารีนั้น ใช้กระเบื้อง โมเสกสีทองประดับประดากว่า 2 ล้านชิ้น  นำท่านชมถ้ำโพรมิธีอุส (Prometheus Cave) เป็นหนึ่งในถ้ำอันน่าอัศจรรย์ของชาวจอร์เจีย ถูกค้นพบครั้งแรกปี ค.ศ.1984 และถูกตกแต่งใหม่เมื่อปี ค.ศ.2012 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเข้าชมมากมายในแต่ละปี พบความสวยงามของหินงอกหินย้อยที่สะท้อนแสงสีตระการตาภายในตัวถ้ำ ให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์ล่องเรือชมความงามของถ้ำแห่งนี้ **การล่องเรือนั้นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และสภาพแวดล้อมภายในถ้ำ ในกรณีที่ไม่สามารถล่องเรือได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ปรับเปลี่ยนโปรแกรมตามความเหมาะสม**
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองบาทูมิ (Batumi) เมืองท่าชายทะเลและหนึ่งในเมืองเศรษฐกิจที่สําคัญ ของประเทศจอร์เจีย ตัวเมืองตั้งอยู่ติดทะเลดำ ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เมืองบาทูมิเป็นเมืองหลวงของจังหวัดอัตจารา (Ajara) ที่ปกครองตนเอง เป็นเมืองท่าที่มีความสำคัญในด้านการค้าและเป็นศูนย์กลางการพาณิชย์ นอกจากนั้นยังเป็นที่ตั้งของเมืองในเขตร้อนที่เต็มไปด้วยผลิตผลของพืชผัก ผลไม้ต่างๆหลายอย่าง และที่สำคัญยังมีโรงงานอุตสาหกรรมที่สำคัญมากมายๆต่างๆของเมืองอีกด้วย จากนั้นนำท่านถ่ายรูปคู่กับอนุสาวรีย์อาลีและนีโน่ (Ali and Nino Monument) ซึ่งเป็นงานสถาปัตยกรรมโลหะสมัยใหม่รูปคู่รักชายชาวอาเซอร์ไบจานและหญิงสาวชาวจอร์เจียนในนวนิยายท้องถิ่น มีขนาดสูง 8 เมตร ตั้งอยู่ริมทะเลดำที่จะเคลื่อนไหวได้ทุกๆ 10 นาที ถูกสร้างขึ้นเพื่อแสดงถึงความรักของหนุ่มสาวต่างเชื้อชาติและศาสนา และยังแสดงถึงสันติภาพระหว่างประเทศจอร์เจีย และอาร์เซอไบจานด้วย  จากนั้นนำท่านเดินทางบนถนนเลียบชายหาด (Batumi Promenade) ที่ยาวถึง 6 กิโลเมตร สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1884 ประดับด้วยน้ำพุงดงามตลอดสาย และเป็นถนนที่ยาวที่สุดบนฝั่งทะเลดำ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ บนตึก Alphabetic Tower ซึ่งท่านสามารถชมวิวและเก็บภาพที่ระลึกของเมืองบาทูมิ

จากนั้นนำท่านชมโชว์การแสดงน้ำพุเต้นระบำ (Fountain Show) ซึ่งตั้งอยู่กลางเมืองบาทูมิ

** กรณีที่สภาพอากาศไม่ดี หรือโชว์มีการปิดทำการ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ปรับเปลี่ยนโปรแกรมตามเหมาะสม**

วันที่ 8
บาทูมิ - Piazza Square - จตุรัสยุโรป - ห้างบาทูมี่ มอลล์ - ล่องเรือริมฝั่งทะเลดำ - สนามบิน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
  นำท่านชมเมืองเก่าบาทูมิ (Batumi Old Town) ชมบรรยากาศของบ้านเรือนเก่า ชมจตุรัส Piazza Square ที่สร้างขึ้นในปี 2009 เป็นอาคารที่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังชาวจอร์เจีย Vazha Orbeladze สร้างด้วยสไตล์สถาปัตยกรรมแบบผสมผสาน นำท่านถ่ายรูปคู่กับอนุเสาวรีย์เจ้าหญิงมีเดีย (Statue of Medea) อนุเสาวรีย์เจ้าหญิง Colchian แห่งเทพนิยายกรีก จากนั้นนำท่านชมจตุรัสยุโรป (Europe Square) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจตุรัสที่สำคัญในยุโรป หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ห้างบาทูมี่  มอลล์ (Batumi Mall) ห้างใหญ่ประจำเมือง เพื่อเลือกซื้อสิ้นค้าที่ระลึกตามอัธยาศัย
กลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย จากนั้นนำท่านล่องเรือริมฝั่งทะเลดำของบาตูมี ชมความสวยงามของทะเล บ้านเรือนที่ถูกสร้างขึ้นตามแบบรูปทรงโบราณที่ปลูกกันอย่างสวยงามตามริมทะเล พร้อมกับรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ เป็นไร่ส้ม พืชพันธุ์ธัญญาหารและต้นชา  **การล่องเรือนั้นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ กรณีที่ไม่สามารถล่องเรือได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ปรับเปลี่ยนโปรแกรมตามความเหมาะสม**  อิสระให้ท่านได้เที่ยวชมบริเวณทะเลดำ หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบินบาทูมิ
20.30 น. นำท่านเดินทางสุ่เมืองอิสตันบูลด้วยเที่ยวบิน TK393
21.40 น. เดินทางถึงสนามบินอิสตันบูลรอเปลี่ยนเครื่อง
วันที่ 9
อิสตันบูล – กรุงเทพ
01.45 น. ออกเดินทางกลับสุ่กรุงเทพด้วยเที่ยวบิน TK068
15.25 น. เดินทางถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
เงื่อนไข
  1. ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด ( Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)
  2. ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
  3. ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ
  4. ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า
  5. ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
  6. ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
  7. ค่าประกันภัยการเดินทางรายบุคคล (หากต้องการเงื่อนไขกรมธรรม์สอบถามได้จากเจ้าหน้าที่)
    ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทางวงเงินไม่เกินท่านละ 1,000,000 บาท
    ค่ารักษาพยาบาลในกรณีเกิดอุบัติเหตุวงเงินไม่เกินท่านละ 500,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)

** ลูกค้าท่านใดสนใจ…ซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบคลุมเรื่องสุขภาพสามารถสอบถามข้อมูล เพิ่มเติมกับทางบริษัทได้ **

  • เบี้ยประกันเริ่มต้น 341 บาท [ระยะเวลา 4-6 วัน]
  • เบี้ยประกันเริ่มต้น 395 บาท [ระยะเวลา 7-10 วัน]

**ความครอบคลุมผู้เอาประกันที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 85 ปี **  

[รักษาพยาบาล 2 ล้าน, เสียชีวิตหรือเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ 1.5 ล้านบาท]

  1. ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
  2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น  ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนด, ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
  3. ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
  4. ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง
  5. ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น  ( 35USD/ต่อท่าน)
  6. ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (27 USD /ต่อท่าน)

กรณียกเลิกการเดินทาง

  1. แจ้งยกเลิก 45 วัน ขึ้นไปก่อนการเดินทาง คืนค่าใช้จ่ายทั้งหมด
  2. แจ้งยกเลิกภายใน 30-44 วันก่อนเดินทาง เก็บค่าใช้จ่าย ท่านละ 10,000 บาท
  3. แจ้งยกเลิกภายใน 16-29 วันก่อนเดินทาง เก็บค่าใช้จ่าย ท่านละ 20,000 บาท
  4. แจ้งยกเลิกน้อยกว่า 15 วันก่อนเดินทาง ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ เก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมด
  5. บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมดกรณีท่านยกเลิกการเดินทางและมีผลทำให้คณะเดินทางไม่ครบตามจำนวนที่ บริษัทฯกำหนดไว้ (20ท่านขึ้นไป) เนื่องจากเกิดความเสียหายต่อทางบริษัทและผู้เดินทางอื่นที่เดินทางในคณะเดียวกันบริษัทต้องนำไปชำระค่าเสียหายต่างๆที่เกิดจากการยกเลิกของท่าน
  6. กรณีเจ็บป่วย จนไม่สามารถเดินทางได้ ซึ่งจะต้องมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรับรอง บริษัทฯจะทำการเลื่อนการเดินทางของท่าน ไปยังคณะต่อไปแต่ทั้งนี้ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถเรียกคืนได้คือ ค่าธรรมเนียมในการมัดจำตั๋ว และค่าธรรมเนียมวีซ่าตามที่ สถานทูตฯ เรียกเก็บ
  7. กรณียื่นวีซ่าแล้วไม่ได้รับการอนุมัติวีซ่าจากทางสถานทูต (วีซ่าไม่ผ่าน) และท่านได้ชำระค่าทัวร์หรือมัดจำมาแล้ว ทางบริษัทฯขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น ค่าวีซ่าและค่าบริการยื่นวีซ่า / ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบินหรือค่าตั๋วเครื่องบิน (กรณีออกตั๋วเครื่องบินแล้ว)   ค่าส่วนต่างในกรณีที่กรุ๊ปออกเดินทางไม่ครบตามจำนวน
  8. กรณีวีซ่าผ่านแล้ว แจ้งยกเลิกก่อนหรือหลังออกตั๋วโดยสาร บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการ ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด
  9. กรณีผู้เดินทางไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากปลอมแปลงหรือการห้ามของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าเหตุผลใดๆ ตามทางบริษัทของสงวนสิทธิ์ในการ ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด
Share on social networks
โปรแกรมทัวร์ที่น่าสนใจ
  • ก.ย.65 - ธ.ค.65
  • 5 วัน 4 คืน
เริ่มต้น 18,555 บาท
  • ธ.ค.65 - ก.พ.66
  • 4 วัน 3 คืน
เริ่มต้น 15,977 บาท
  • พ.ย.65 - ม.ค.66
  • 3 วัน 2 คืน
เริ่มต้น 23,500 บาท