14.00 น. : คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิฯ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์ สายการบินแอร์ เอเชียเอ็กซ์ เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอินรับบัตรโดยสาร
16.20 น. : ออกเดินทางสู่ กรุงทบิลิซี ประเทศจอร์เจีย โดย สายการบินแอร์ เอเชียเอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ 910 ใช้เวลาเดินทาง 9 ชั่วโมง 55 นาที เสิร์ฟอาหารและน้ำดื่มบนเครื่อง
22.50 น. : เดินทางถึง สนามบินทบิลิซี ประเทศจอร์เจีย (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง) หลังผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้า
เมืองและรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย
07.30 น. : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
09.00 น. : นำท่านออกเดินทางสู่ เทือกเขาคอเคซัส (Greater Caucasus) เป็นเทือกเขาสูงขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของทวีปยุโรป มีความ
ยาวประมาณ 1,100 กม. .และเป็นเส้นกั้นพรมแดนระหว่าง สหพันธรัฐรัสเซียและสาธารณรัฐจอร์เจีย ระหว่างทางให้ท่านได้แวะเยี่ยมชม ป้อมอนานูรี (Ananuri Fortress) ป้อมปราการอนานูรี เป็นป้อมปราการเก่าแก่สร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 16 – 17 ปัจจุบันยังคงมีซากกำแพงที่ล้อมรอบป้อมปราการ เปรียบเสมือนม่านที่ซ่อนเร้นความงดงามของโบสถ์ ทั้ง 2 หลังที่ตั้งอยู่ภายใน ซึ่งเป็นโบสถ์ของชาวเวอร์ ภายในมีหอคอยทรงเหลี่ยมขนาดใหญ่ตั้งตระหง่าน หากมองจากมุมสูงของป้อมปราการนี้ลงมา จะมองทัศนียภาพที่สวยงามของอ่างเก็บน้ำชินวารี (Zhinvali)
นำท่านเดินทางต่อไปยัง เมืองกูดาอูรี (Gudauri) เป็นเมืองพักตากอากาศและสกีรีสอร์ทยอดนิยม ที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่บริเวณที่ราบเชิงเขาของเทือกเขาคอเคซัสใหญ่ ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,100 เมตร สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งที่พักผ่อนเล่นสกีของชาวจอร์เจียที่จะนิยมมาเล่นในช่วงเดือนธันวาคมจนถึงเดือนเมษายน มีหิมะปกคลุมซึ่งเป็นช่วงที่สวยงามระหว่างทางแวะชม อนุสรณ์สถานรัสเซีย – จอร์เจีย อนุสรณ์สถานหินโค้งวงแหวนขนาดใหญ่ สร้างขึ้นในปี 1983 เพื่อเฉลิมฉลองครอบรอบ 200 ปี ของสนธิสัญญาจอร์จีเอฟสกี (Treaty of Georgievski) และความสัมพันธ์ระหว่างสหภาพโซเวียต และจอร์เจีย
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน (ท้องถิ่น)
จากนั้นนำท่านเปลี่ยนยานพาหนะ (รถขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD) เพื่อเดินทางขึ้นสู่ใจกลางหุบเขาทรานส์คอเคเซีย (Transcaucasia)) ชมความงามของ โบสถ์เกอร์เกตี้ (Gergeti Trinity Church) สร้างขึ้นในยุคกลาง ราวศตวรรษที่ 14 มีอีกชื่อเรียกกันว่า ทัสมินดา ซามีบา (Tsminda Sameba) โบสถ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในใจกลางหุบเขาที่ทอดยาวจากแนวกั้นพรมแดนระหว่างจอร์เจียและรัสเซีย และยังเป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับที่ 3 ของจอร์เจีย ที่ตั้งของโบสถ์มีความสูงจากระดับน้ําทะเลมากถึง 2,170 เมตร เบื้องล่างมีแม่น้ำชื่อ ชัคเฮรี หลังจากฟังบรรยายคร่าวๆ อิสระให้ท่านเก็บภาพความประทับใจ (ในกรณีที่ถนนถูกปิดกั้นด้วยหิมะและส่งผลกระทบต่อการเดินทางขึ้นไปยังโบสถ์และจุดชมวิว ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงสถานที่ท่องเที่ยวหรือสลับรายการตามความเหมาะสม)
สมคมรแก่เวลา นำท่านเดินทางลงจากยอดเขา ไปยังโรงแรมที่พัก
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ร้านอาหาร หรือ ห้องอาหารโรงแรม (พักห้องละ 2 ท่าน เท่านั้น)
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
09.30 น. : นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองกอรี่ (Gori) ระยะทาง 184 ก.ม. เมืองแห่งประวัติศาสตร์ เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็น บ้านเกิดของผุ้
นำอย่าง “โจเซฟ สตาลิน” (Joseph Stalin) ผู้ปกครองสหภาพโซเวียต ในยุคศตวรรษที่ 1920 ถึง 1950 สตาลินเป็นผู้นําที่มีชื่อเสียงของสหภาพโซเวียตที่นําสงครามรุกรบเอาชนะนาซี เยอรมัน เข้าเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์สตาลิน (Joseph Stalin Museum) ผู้นำคนสำคัญของพรรคบอลเชวิด พิพิธภัณฑ์สตาลิน เป็นพิพิธภัณฑ์อย่างเป็นทางการแห่งเดียวในโลกที่ระลึกถึงสตาลิน ประกอบไปด้วยห้องจัดแสดงนิทรรศการ 7 ห้อง นับตั้งแต่เกิดจนเติบโต จนนำไปสู่การขึ้นเป็นผู้นำของพรรคบอลเชวิค ในกลุ่มประเทสสหภาพโซเวียต ภาพต่างๆ บอกเล่าเรื่องราวกิจกรรมการปฏิวัติ รวมถึงสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวของสตาลินในขณะที่ยังมีชีวิต ภายนอกพิพิธภัณฑ์ยังมีรถไฟและบ้านของสตาลิน จัดแสดงไว้กลางแจ้ง
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณอุพลิสชิเค (Uplistsikhe Cave Town) หนึ่งในเมืองถ้ำเก่าแก่ของจอร์เจีย อาณาบริเวณในแถบนี้เคยมีการตั้งถิ่นฐานกันมานานแล้วกว่า 3,000 ปี ในอดีตช่วงยุคโบราณก่อนยุคกลาง (Hellenistic and Late Antique periods) ช่วง 500 ปีก่อนคริสตกาล ถึง ค.ศ. 500 เมืองนี้เคยเป็นศูนย์กลางทางศาสนาและวัฒนธรรม และช่วงที่เมืองนี้มีความเจริญสูงสุด อยู่ในช่วงคริสตวรรษที่ 9 ถึง 11 ก่อนจะถูกรุกรานโดยชาวมองโกลในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13 และถูกปล่อยให้เป็นเมืองร้าง ท่านจะได้พบกับศาสนสถานที่มีห้องโถงขนาดใหญ่ที่ชาวเพแกน (ลัทธิท้องถิ่น) ใช้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมซึ่งเป็นลัทธิบูชาไฟ เป็นลัทธิของคนในแถบนี้ก่อนที่ศาสนาคริสต์จะเข้าเมื่อ 1,700 ปีก่อนคริสตกาลและยังมีห้องต่างๆ ซึ่งคาดว่าเป็นโบสถ์เก่าแก่ของชาวคริสต์ที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 9
สมควรแก่เวลา นำท่านออกเดินทางไปยัง เมืองบอร์โจมี (Borjomi) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) บอร์โจมี เมืองพักตากอากาศเล็กๆ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Mtkvari ในเขตซัมซเค-จาวาเคตี บอร์โจมีเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับอุตสาหกรรมน้ำแร่คุณภาพของประเทศจอร์เจีย เพราะมีแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ดีที่สุด บวกกับธรรมชาติที่งดงามและอุดมสมบูรณ์จึงทำให้เมืองนี้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ มีโรงแรมหลากหลายสไตล์เปิดให้บริการ อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ทั้งนี้ก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจให้ไปเที่ยวชมมากมาย
นำท่านชมภายนอก พระราชวังสีฟ้า (ฟิรูซา) (Blue Palace Firuza) บ้านพักตากอากาศฤดูร้อนของนักการฑูต ชื่อ Mirza Riza Khan เจ้าหน้าที่กงสุลอิหร่าน ประจำจอร์เจีย ฟิรูซา เป็นอาคารสถาปัตยกรรมสีฟ้าสวยสดสดุดตา เป็นการออกแบบผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมเปอร์เซีย-จอร์เจียและยุโรปเข้าด้วยกันและถือเป็นอนุสรณ์สถานทาวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ปัจจุบัน ฟิรูซา ได้รับการดูแลและบริหารงานโดยนักธุรกิจโรงแรม ในแบรนด์ Golden Tulip โดยอาคารและโครงสร้างเดิมยังคงถูกดูแลรักษาลักษณะทางประวัติศาสตร์และคุณค่าทางวัฒนธรรมที่เก่าแก่ไว้ สวนน้ำแร่ธรรมชาติบอร์โจมิ สวนน้ำแร่ธรรมชาติ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1850 ตั้งอยู่ในหุบเขาที่มีEkaterina Spring ซึ่งเป็นแหล่งน้ำแร่ดั้งเดิมของเมืองซึ่งอยู่ตรงหน้าทางเข้า ภายในสวนเต็มไปด้วยเครื่องเล่นและความบันเทิง ที่นี่คุณสามารถลิ้ม รสน้ำแร่ธรรมชาติและผ่อนคลายท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่สวยงาม
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หรือ ร้านอาหาร
08.00 น. : นำท่านออกเดินทางไปยัง เมืองอาคาลห์ซี (Akhaltsikhe) ทางตอนใต้ของประเทศจอร์เจีย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1
ชั่วโมง) นำท่านเข้าชม ปราสาทราบาติ (Rabati Castle) สร้างขึ้นครั้งแรกในช่วงศตวรรษที่ 13 และมีการล้อมรอบอาณาเขตด้วยแนวกำแพงหินเพื่อป้องกันข้าศึกโจมตี โดยตัวปราสาทนั้นรับเผชิญหน้าจากการรุกรานหลายครั้งไม่ว่าจะจากติมูแลงก์ ออตโตมัน หรือ รัสเซีย ต่อมาหลังจากจอร์เจียอยู่ใต้การปกครองของรัสเซีย ตัวป้อมก็ได้ถูกละทิ้ง จนกระทั่งมีการบูรณะฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ในปี 2012 และในปัจจุบันนั้นตัวปราสาทแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ใหญ่ๆ ได้แก่ส่วนดั้งเดิมของป้อม และส่วนที่สร้างใหม่ โดยจัดเป็นศูนย์อาหารและของฝาก แม้ว่าป้อมปราการส่วนใหญ่จะถูกสร้างขึ้นมาใหม่ แต่ก็ยังรักษารูปแบบดั้งเดิม ทั้งตัวหอคอย วิหารรูปโดม ป้อมปราการ ซึ่งเมื่อขึ้นไปชมด้านบนจะเห็นวิวสวยงาม
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
ออกเดินทางไปยัง เมืองบาทูมี (Batumi) เป็นเมืองท่าชายทะเลและเป็นหนึ่งในเมืองเศรษฐกิจตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลดำ ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ มีสถานะเป็นรัฐอิสระที่ปกครองตนเองของจอร์เจีย ในปี ค.ศ.2010 เมืองบาตูมี ได้รับการสนับสนุนให้เป็นเมืองท่องเที่ยวหลักของประเทศ ตั้งอยู่ใกล้กับ ทะเลดำ สถาปัตยกรรมส่วนใหญ่ได้รับแรงบันดาลใจมากจากประเทศอิตาลี โดยจะสังเกตได้จากภาพโมเสก และงานกระจกสีต่าง ๆ ที่หาดูได้ตามอาคารโดยรอบจัตุรัส ภูมิทัศน์ในเมืองได้รับการปรับรูปโฉมตัวอาคารและตัวเมืองเก่า ซึ่งมีโรงแรมที่มีระดับมาตรฐานโรงแรมสากลเปิดใหม่เพิ่มขึ้นตลอดเวลา เพื่อรองรับการขยายตัวของการท่องเที่ยวในอนาคตที่นับวัน จะมียอดนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นทุกปี
นำท่านเดินทางไปยัง จัตุรัสบาตูมี ปิอาซซ่า (Batumi Piazza) หนึ่งในจัตุรัสที่สำคัญของเมืองบาตูมี จากนั้นนำท่าน ชมระบำน้ำพุ (Fountain Show)กิจกรรมระบำน้ำพุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเวลา หรือ อาจมีการปิดปรับปรุงโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ดังนั้นกิจกรรมดังกล่าวทางบริษัทไม่อาจเปลี่ยนแปลงกิจกรรมอื่นใดทดแทน ชดเชย ให้ท่านได้
ชมบ้านเรือนในเขตเมืองเก่า (Old town) ชมตึก Alphabetic Tower ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญ และชม Europe Square อีกหนึ่งจัตุรัสที่สำคัญประจำเมือง อนุเสาวรีย์ อาลี และ นีโน่ (Ali and Nino Moving Sculptures) ประติมากรรมความรักที่พลัดพรากของหญิงชายต่างเชื้อชาติศาสนา รูปปั้นอาลี นีโนนี้ มีความสูงถึง 8 เมตร ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่ริมชายฝั่งทะเลดำ โดยทุกๆ 8 – 10 นาที วงรอบของรูปปั้นทั้ง 2 นี้จะบรรจบทอดผ่านระหว่างกัน สื่อถึงสายสัมพันธุ์ของความรักของทั้งสอง สัญลักษณ์นี้สร้างขึ้นมาเพื่อแสดงถึงความรักของหนุ่มสาวที่มีความแตกต่างกันทางด้านเชื่อชาติ ศาสนา เพื่อสื่อถึงความรักที่ผสานกลมเกลียว จากนั้นนำท่าน ล่องเรือริมฝั่งทะเลดำ ของบาตูมี ชมความสวยงามของทะเล บ้านเรือนที่ถูกสร้างขึ้นตามแบบรูปทรงโบราณที่ปลูกกันอย่างสวยงามตามริมทะเล พร้อมกับรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ เป็นไร่ส้ม พืชพันธุ์ธัญญาหารและต้นชา (กำหนดการเดินเรืออาจมีการเปลี่ยนแปลง หรือ มีเหตุอันทำให้ไม่สามารถทำกิจกรรมล่องเรือได้ ทางบริษัทจะปรับเปลี่ยนหรือทดแทนกิจกรรมอื่นตามเหมาะสม)
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หรือ ร้านอาหาร
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินชม เมืองเก่าบาทูมี และ จัตุรัสยุโรป ชมสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างทางเดินริมทะเลระยะทาง 7 กิโลเมตร ที่ริเริ่มขึ้นในปี 1881 โดยชาวปรัสเซียนผู้มีชื่อเสียงและภูมิสถาปนิก เรสเลอร์ ทว่าสองปีหลังจากโครงการเริ่มขึ้น เขาถึงแก่กรรมและได้มีการสานต่อโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส ต่อมาในราวคริสต์ศตวรรษที่ 20 สถาปนิกชาวสเปนได้ออกแบบศิลปะนีโอคลาสสิค ทำให้แนวชายฝั่งของถนนสายนี้ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยศิลปะหลากหลายรูปแบบอีกทั้งยังรายล้อมไปด้วบังกะโล คาเฟ่เลานจ์ ร้านอาหาร ประติมากรรม และน้ำพุเต้นรำ ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดที่สุดของ ออกเดินทางจากเมือง บาทูมี กลับไปยัง กรุงทบิลิซี ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง ระหว่างทางแวะรับประทานอาหารกลางวัน และเข้าห้องน้ำ เป็นระยะๆ
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นให้ท่านอิสระ ย่านการค้ารุสทาเวลี (Rustaveli Street) ชื่อถนนถูกตั้งขึ้นตามชื่อของกวีเอกชาวจอร์เจียในยุคกลาง ถนนสายนี้เริ่มตั้งแต่ใจกลางจตุรัสเสรีภาพ ตามรายทางมีอาคารร้านค้า ร้านอาหารและเป็นที่ตั้งสำนักงานอาคารรัฐบาล โรงละครโอเปร่า ที่มีสถาปัตยกรรมอันสวยงามตลอดสองข้างทาง และในยามค่ำคืนถนนสายนี้จะสวยงามมากเป็นพิเศษ ด้วยการตกแต่งจากการประดับไฟตามอาคารเก่าแก่ เรียกได้ว่าถนนรุสทาเวลี เป็นถนนที่สวยและคุ้มค่าแก่การเยี่ยมชม
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางไปยัง เดอะ โครนิเคิล ออฟ จอร์เจีย (The Chronicle of Georgia) เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาใกล้กับอ่างเก็บน้ำทบิลิซี อนุสาวรีย์เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ของจอร์เจีย ถูกสร้างขึ้นโดยจิตรกรประติมากรชาวจอร์เจีย–รัสเซียและสถาปนิก Zurab Tsereteli อนุสรณ์ถูกสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลอง 3,000 ปีแห่งอำนาจอธิปไตยของจอร์เจียและ 2,000 ปีแห่งศาสนาคริสต์ในจอร์เจีย เสายักษ์ทั้ง 16 หลังบนเนินเขาสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ของจอร์เจียและผู้ปกครองรวมถึงฉากทางศาสนา
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองมิสเคต้า (Mtskheta) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) มิสเคต้า เคยเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของประเทศจอร์เจีย สมัยอาณาจักรไอบีเรีย (Kingdom of Iberia) ซึ่งเป็นราชอาณาจักรของจอร์เจียในช่วง 500 ปีก่อนคริสตกาล เป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญ และมีอายุเก่าแก่ที่สุดของจอร์เจีย อายุมาก กว่า 3,000 ปี ต่อมาองค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งเมืองมิสเคต้า (Historical monument of Mtskheta) เป็นมรดกโลก เมื่อปีคริสศักราช 1994
จากนั้นเดินทางไปชม วิหารสเวติสเคอเวรี (Svetitkhoveli Cathedral) ซึ่งคำว่า Sveti หมายถึง “เสา” และ Tskhoveli หมายถึง “ชีวิต” โดยความหมายรวมกัน หมายถึงวิหารเสาที่มีชีวิต โบสถ์แห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของจอร์เจีย สร้างขึ้นโดยสถาปนิกชาวจอร์เจีย มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศอีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่ทำให้ชาวจอร์เจียเปลี่ยนความเชื่อและหันมานับถือศาสนาคริสต์
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
บ่าย : นำท่านชม วิหารจวารี (Jvari Monastery) ซึ่งเป็นวิหารในรูปแบบของคริสต์ศาสนาแบบจอร์เจียนออร์โธด็อกซ์ สร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 6 วิหารแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาที่มีแม่น้ำสองสายไหลมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำมิควารี และแม่น้ำอรักวีและหากมองออกไปเมืองมิทสเคต้าไปยังบริเวณที่กว้างใหญ่ในอดีตเคยเป็นอาณาจักรของไอบีเรีย
เดินทางกลับสู่ กรุงทบิลิซี (Tbilisi) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) นำท่านชม มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ทบิลิซี (Holy Trinity Cathedral of Tbilisi) หรืออีกชื่อหนึ่งคือโบสถ์ Sameba เป็นโบสถ์หลักของคริสตจักรออร์ทอดอกซ์จอร์เจียอีกทั้งยังถูกจัดให้เป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในแถบอ่าวเปอร์เซีย และมีความสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก
จากนั้นให้ท่านอิสระ ถนนชาเดอนี (Shardeni Street) เป็นที่มีชื่อเสียงและกลิ่นไอแบบยุโรป และอาคารที่ถูกสร้างขึ้นที่มีรูปร่างลักษณะใหญ่โตแข็งแรง และยังเต็มไปด้วยร้านค้าที่มีสินค้าแบรนด์เนมต่าง ๆ มากมาย และตามบริเวณทางเท้ายังเต็มไปด้วยร้านค้าที่ขายของที่ระลึกที่เป็นสินค้าพื้นเมืองอันหลากหลาย
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หรือ ร้านอาหาร
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านขึ้นกระเช้าไฟฟ้าสู่ ป้อมนาริคาล่า (Narikala Fortress) ชมป้อมปราการซึ่งเป็นป้อมโบราณ สร้างในราวศตวรรษที่ 4 ในรูปแบบของชูริส ทซิเค และต่อมาในราวศตวรรษที่ 7 สมัยของราชวงศ์อูมัยยาดได้มีการก่อสร้างต่อขยายออกไปอีก และต่อมาในสมัยของกษัตริย์ เดวิด (ปีค.ศ.1089-1125) ได้มีการสร้างเพิ่มเติมขึ้นอีก ซึ่งต่อมาเมื่อพวกมองโกลได้เข้ามายึดครอง ก็ได้เรียกชื่อ ป้อมแห่งนี้ว่า นาริน กาลา (Narin Qala) ซึ่งมีความหมายว่า ป้อมเล็ก
ชมรูปปั้น อนุสาวรีย์มารดาแห่งจอร์เจีย (Mother of Georgia) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Kartlis Deda เป็นรูปปั้นหญิงสาวสูง 20 เมตรบนยอดเขาโซโลลากิ (Solo Laki Hill) ในนครทบิลิซี โดยรูปปั้นนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1958 เพื่อฉลองนครทบิลิซีอายุครบ 1,500 ปี และเป็นรูปปั้นที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณและนิสัยของคนจอร์เจียได้เป็นอย่างดี มือข้างหนึ่งของรูปปั้นจะถือดาบ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งจะถือแก้วไวน์ ซึ่งมีความหมายว่าหากใครที่มาเยือนจอร์เจียแบบศัตรูเธอจะใช้ดาบในมือขวาฟาดฟันให้แดดิ้นแต่หากใครที่มาเยือนอย่างเป็น มิตร เธอจะต้อนรับด้วยไวน์ในมือซ้ายอย่างอบอุ่น
นำท่านไปชม โบสถ์เมเตห์คี (Metekhi Church) โบสถ์ที่มีประวัติศาสตร์อยู่คู่บ้านคู่เมืองของทบิลิซี ตั้งอยู่บริเวณริมหน้าผาของแม่น้ำมทวารี เป็นโบสถ์หนึ่งที่สร้างอยู่ในบริเวณที่มีประชากรอาศัยอยู่ ซึ่งเป็นประเพณีโบราณที่มีมาแต่ก่อน กษัตริย์วาคตัง ที่ 1 แห่งจอร์กาซาลี ไดสร้างป้อมและโบสถ์ไว้ที่บริเวณนี้ ต่อมาในปี ค.ศ. 1278 – 1284
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
บ่าย : จากนั้นนำท่านสู่ สะพานแห่งสันติภาพ (The Bridge Of Peace) เป็นอีกหนึ่งงานสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจในเมืองทบิลิซี
ออกแบบโดย สถาปนิกชาวอิตาเลี่ยนชื่อ Michele De Lucchi สะพานมีความยาวที่ 150 เมตร ลักษณะการออกแบบร่วมสมัย เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2010 โครงสร้างนั้นถูกออกแบบและสร้างที่ประเทศอิตาลี และนำเข้าส่วนประกอบโดยรถบรรทุกมากกว่า 200 คัน เพื่อเข้ามาติดตั้งในเมืองทบิลิซี ที่ตั้งนั้นอยู่บนแม่น้ำมตควารี (Mtkvari River) สามารถมองเห็นได้หลายมุมจากในเมือง
นำท่านออกเดินทางสู่ ย่านเมืองเก่าของทบิลิซี (Tbilisi Old Town) สัมผัสบรรยากาศที่จะท่านย้อนกลับไปยังจอร์เจียเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว โดยสองข้างทางจะเต็มไปด้วยบ้านของชาวจอร์เจีย ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ บ้านบางหลังได้ปรับปรงเป้นร้านกาแฟ ร้านไวน์ คาเฟ่ และอื่นๆ อีกมากมาย ที่รอให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้มาสัมผัส นอกจากนี้ภายในเมืองเก่า ยังมีมัสยิดของชาวมุสลิมชีอะห์ และสุเหร่าของชาวลัทธิโซโรแอสเตอร์ที่ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 2 อีกด้วย
จากนั้นนำท่านชมภายนอก โรงอาบน้ำแร่เก่าแก่ (Bath Houses) ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องบ่อน้ำร้อนกำมะถันธรรมชาติ จากนั้นให้ท่านอิสระ ถนนคนเดินรุสทาเวลี (Rustaveri Street) ชื่อถนนถูกตั้งขึ้นตามชื่อของกวีเอกชาวจอร์เจียในยุคกลาง ถนนสายนี้เริ่มตั้งแต่ใจกลางจตุรัสเสรีภาพ ตามรายทางมีอาคารร้านค้า ร้านอาหารและเป็นที่ตั้งสำนักงานอาคารรัฐบาล โรงละครโอเปร่า ที่มีสถาปัตยกรรมอันสวยงามตลอดสองข้างทาง และในยามค่ำคืนถนนสายนี้จะสวยงามมากเป็นพิเศษ ด้วยการตกแต่งจากการประดับไฟตามอาคารเก่าแก่ เรียกได้ว่าถนนรุสทาเวลี เป็นถนนที่สวยและคุ้มค่าแก่การเยี่ยมชม
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หรือ ร้านอาหาร
สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่ สนามบินทบิลิซี เช็คอินและรับบัตรโดยสาร
09.15 น. : ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดย สายการบินแอร์ เอเชียเอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ 909 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง 55 นาที เสิร์ฟอาหารและน้ำดื่มบนเครื่อง
20.10 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
หมายเหตุ ; จำนวนเงินจำกัดความรับผิดสูงสุดต่อเหตุแต่ละครั้ง 50,000,000 บาท
เงื่อนไขการให้บริการ