กัสโต้ เวิล์ด ทัวร์

บริการคุณภาพ ทุกเส้นทางท่องเที่ยว

เลขที่ 11/03295

ทัวร์จอร์เจีย-ทลิบิซี-คาซเบกี้

รหัส 036-3117
วันที่เดินทาง
มี.ค.66 - เม.ย.66
ช่วงเวลา
8 วัน 5 คืน
ราคาเริ่มต้น
66,999 บาท
แผนการเดินทาง
วันที่ 1
กรุงเทพ(สนามบินสุวรรณภูมิ)

23.00 น.   คณะพร้อมกัน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น 4 สนามบินสุวรรณภูมิเคาน์เตอร์สายการบิน EMIRATES (EK) พบเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก

วันที่ 2
สนามบินกรุงทบิลิซี - กรุงทบิลิซี - ขึ้นกระเช้าชมป้อมนาริกาลา - Mother of Georgia

02.00 น.   ออกเดินทางสู่เมืองบาทูมี ประเทศจอร์เจีย โดยสายการบิน EMIRATES (EK) เที่ยวบินที่ EK377 (02.00-06.00) / EK2200 (12.20-15.55) (ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 15 ชั่วโมง บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบ

15.55 น.   เดินทางถึงสนามบินกรุงทบิลิซี ประเทศจอร์เจีย หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองแล้ว (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง) กรุงทบิลิซี (Tbilisi) เมืองหลวงของประเทศจอร์เจีย ริมฝั่งแม่น้ำคูรา (Kura) เมืองนี้ถูกสร้างโดย วาคตัง จอร์กาซาลี กษัตริย์จอร์เจียแห่งคาร์ตลี (ไอบีเรีย) ในคริสต์ศตวรรษที่ 4 ปัจจุบันทบิลิซีเป็นศูนย์กลางการขนส่งและการค้า เนื่องจากความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์เป็นจุดตัดระหว่างทวีปเอเชียกับทวีปยุโรป

นำท่านเที่ยวชม เมืองเก่าทบิลิซี (Old town) นำท่าน ขึ้นกระเช้าชมป้อมนาริกาลา (Narikala Fortress) ป้อมปราการหินโบราณขนาดใหญ่บนเนินเขา สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 4 ผ่านผู้ปกครองมาหลายยุคหลายสมัยที่ต่างผลัดกันเข้ามารุกรานนครเล็กๆ บนเส้นทางสายไหมแห่งนี้ ราชวงศ์อุมัยยัดของชาวอาหรับได้ต่อเติมป้อมในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 7  ต่อมาพวกมองโกลตั้งชื่อให้ใหม่ว่า Narin Qala แปลว่าป้อมน้อย (Little Fortress) นักประวัติศาสตร์ยกย่องว่าป้อมนาริกาลาเป็นป้อมแห่งหนึ่งบนเส้นทางสายไหมที่แข็งแกร่งและตีได้ยากที่สุด นำท่านถ่ายรูป Mother of Georgia หรือที่รู้จักกันในชื่อ Kartlis Deda เป็นอนุสาวรีย์ในเมืองหลวงทบิลิซีของจอร์เจีย รูปปั้นนี้สร้างขึ้นบนยอดเขา Sololaki ถัดจากป้อม Narikalaในปี 1958 ซึ่งเป็นปีที่ทบิลิซีฉลองครบรอบ 1,500 ปี Elguja Amashukeli ประติมากรชาวจอร์เจียผู้โด่งดังได้ออกแบบหุ่นอะลูมิเนียมยาว 20 เมตรของสตรีในชุดประจำชาติจอร์เจีย แม่แห่งจอร์เจียเป็นสัญลักษณ์ของตัวละครประจำชาติจอร์เจีย ในมือซ้ายเธอถือชามไวน์เพื่อทักทายผู้ที่มาเป็นเพื่อนและในมือขวาของเธอถือดาบสำหรับผู้ที่มาเป็นศัตรู

เย็น   รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

พักที่ Hilton Garden Inn หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (3 คืน ***คืนที่1,4,5)

วันที่ 3
เมืองอาคัลท์ชิกเค่ - ปราสาทราบาติ - เมืองบอร์โจมี - ขึ้นกระเช้าสู่จุดชมวิว

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอาคัลท์ชิกเค่ (Akhaltsikhe) นำท่านชม ปราสาทราบาติ (Rabati Castle) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 ปราสาทด้านในประกอบด้วยอาคารหลายส่วน ซึ่งล้อมรอบด้วยแนวกำแพงหินที่ใช้เป็นป้อมปราการป้องกันข้าศึก อาณาเขตของปราสาทมีพื้นที่ถึง 7 เอเคอร์ ประกอบด้วยอาคารหลากหลายศิลปะและวัฒนธรรมที่ผสมกันมากมาย เช่น จอร์เจีย ออตโตมัน ยิว ปราสาทราบาติ (Rabati Castle) ปราสาทเก่าแก่ที่มีความสวยงามและมีขนาดใหญ่มาก โดยปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ภายในเมืองอัคคาซิเค่ สามารถมองเห็นตัวปราสาทได้ตั้งแต่ไกล ตัวปราสาทที่สร้างด้วยศิลา ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 9 โดย Guaram Mampal และมีชื่อปราสาทในตอนแรกว่า Lomisa Castle ตัวปราสาทมีการต่อเติมหลายครั้ง รวมทั้งมีกำแพงที่ใหญ่โตมาก เพราะพื้นที่บริเวณนี้ในสมัยอดีตเคยเป็นสถานที่รบพุ่งกับศัตรูต่างๆ อยู่เป็นประจำ โดยในช่วงศตวรรษที่ 13-14 ที่เมืองอัคคาซิเค่ได้กลายเป็นเมืองหลวงของแคว้น Samtskhe-Javakheti ปราสาทแห่งนี้ก็ได้ถูกต่อเติมหลายส่วนเพื่อใช้เป็นที่ประทับของเจ้าชาย Javakheti กับครอบครัว จนกระทั่งช่วงปลายศวตวรรษที่ 15 ดินแดนทั้งหมดของแคว้น Samtskhe-Javakheti ก็ได้ตกไปอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิออตโตมัน และนั่นทำให้ในปี ค.ศ. 1752 ปราสาทแห่งนี้ได้มีการสร้างมัสยิดไว้ภายใน แต่หลังจากที่จักรวรรดิวรรดิออตโตมันครอบครองปราสาทและพื้นที่เมืองอัคคาซิเค่ได้ประมาณ 200 ปี เจ้าชาย Paskevich แห่งรัสเซียก็ได้ทำการพิชิตปราสาทแห่งนี้และดึงกลับมาอยู่ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียต และในเวลาต่อมาก็ได้เกิดการแบ่งแยกดินแดนมีการแยกประเทศจอร์เจียออกมาจากสหภาพโซเวียต ก็เลยทำให้ปราสาทราบาติแห่งเมืองอัคคาซิเค่นี้อยู่ภายใต้การดูแลของประเทศจอร์เจียจวบจนถึงปัจจุบัน และกลายเป็นหนึ่งในปราสาทที่มีความสวยงามมีความอลังการมากของประเทศจอร์เจีย

กลางวัน   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่ เมืองบอร์โจมี (Borjomi) เมืองตากอากาศเล็กๆ ทางในหุบเขาทางตอนใต้ของประเทศจอร์เจีย มีประชากรอาศัยอยู่ไม่ถึง 15,000 คน ที่มีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่องน้ำแร่ โดยน้ำแร่ยี่ห้อบอร์โจมีได้มีการบรรจุ ณ ธารน้ำแร่บริสุทธิ์ที่ไหลรินจากยอดเขาบาคุเรียนี (Bakuriani Mountain) และส่งออกไปขายกว่า 40 ประเทศทั่วโลก โดยในอดีตชาวเมืองเชื่อกันว่าจะทำให้มี สุขภาพแข็งแรงและสามารถรักษาโรคร้ายได้ นำท่านเข้าชม Borjomi City Park สถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนของชาวเมืองบอร์โจมีที่นิยมมาเดินเล่นและผ่อนคลายโดยการแช่น้ำแร่ในวันหยุด จากนั้นนำท่านขึ้นกระเช้าสู่จุดชมวิวบนหน้าผาเหนือสวนบอร์โจมี อิสระให้ท่านเก็บภาพวิวทิวทัศน์ธรรมชาติจากมุมสูงตามอัธยาศัย

เย็น   รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

พักที่ Hotel Crowne Plaza Borjomi หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

วันที่ 4
เมืองกอรี - พิพิธภัณฑ์ของท่านสตาลิน - เมืองคาซเบกี้ - หุบเขาคอเคซัส - โบสถ์เกอร์เกตี้

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองกอรี (Gori) ซึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของเมืองมิสเคต้า เมืองนี้เป็นเมืองบ้านเกิดของ โจเซฟ สตาลิน (Joseph Stalin) ชาวจอร์เจียที่ในอดีตเป็นผู้ปกครองสหภาพโซเวียต ในยุคศตวรรษที่ 1920 ถึง 1950 และมีชื่อเสียงเรื่องความโหดเหี้ยมในการปกครองในเมืองกอรีแห่งนี้

นำท่านชม พิพิธภัณฑ์ของท่านสตาลิน (Musuem of Stalin) ซึ่งเป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราว และสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ของสตาลินเอาไว้ รวมไปถึงตัวอาคารที่สตาลินเกิดด้วย ภายในพิพิธภัณฑ์สตาลิน มีการจัดแสดงชีวประวัติของสตาลิน ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งเสียชีวิต

กลางวัน   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

ท่านเดินทางสู่ เมืองคาซเบกี้ (Kazbegi) หรือปัจจุบันเรียกว่า เมืองสเตปันสมินดา (Stepantsminda) ชื่อนี้เพิ่งเปลี่ยนเมื่อปี 2006 หลังจากนักบุญนิกายออร์โธด๊อก ชื่อ สเตฟาน ได้มาพำนักอาศัยและก่อสร้างสถานที่สำหรับจำศีลภาวนาขึ้น เมืองนี้อยู่ห่างจากเมืองหลวงทบิลิซี ประมาณ 157 กิโลเมตร เป็นเมืองเล็กๆตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเทอร์กี้ ถือเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวบนเทือกเขาคอเคซัส (Caucasus) ที่สำคัญของประเทศจอร์เจีย มีภูมิทัศน์ที่สวยงามโดยรอบ รวมทั้งเป็นจุดชมวิวของยอดเขาคาซเบกี้ นำท่าน ขึ้นรถ 4WD (รถขับเคลื่อน 4 ล้อ) เพื่อเข้าสู่ใจกลาง หุบเขาคอเคซัส (Caucasus) นำท่านชมความสวยงามของโบสถ์เกอร์เกตี้ (Gergeti Trinity Church) หรือเรียกว่าโบสถ์สมินดา ซาเมบา (Tsminda Sameba) สร้างด้วยหินแกรนิตขนาดใหญ่ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 เป็นโบสถ์ชื่อดังกลางหุบเขาคอเคซัส ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญหนึ่งของประเทศจอร์เจีย ตั้งอยู่บนเทือกเขาคาซเบกี้ ที่ระดับความสูงจากน้ำทะเล 2,170 เมตร (ในกรณีที่มีหิมะตกหนัก จนไม่สามารถเดินทางได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ ปรับเปลี่ยนโปรแกรมตามความเหมาะสม)

เย็น   รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

พักที่ Gudauri Lodge หรือเทียบเท่าระดับ 5 ดาว

(โรงแรมแสนโรแมนติกติดเทือกเขาคอเคซัส วิวสวยแสนล้านติดลานสกี)

หรือ พักที่ Room Hotel Kazbegi หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

(โรงแรมแสนโรแมนติกติดเทือกเขาคอเคซัส วิวสวยแสนล้าน)

วันที่ 5
ป้อมอันนานูรี - อ่างเก็บน้ำชินวารี - อนุสรณ์สถานรัสเซีย-จอร์เจีย - วิหารสเวติสโคเวลี วิหารจวารี - วิหารโฮลีทรินิตีแห่งทบิลิซี - โบสถ์เมเคตี - เมืองทบิลิซี – สะพานสันติภาพ จาน ชาเดอนี่ - ห้าง East Point

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเดินทางชม ป้อมอันนานูรี (Ananuri Fortress) ป้อมปราการเก่าแก่ ที่มีกำแพงล้อมรอบ ริมแม่น้ำอรักวี ถูกสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่16-17 ชมความงดงามขอโบสถ์ 2 หลังที่ตั้งอยู่ภายในกำแพง ซึ่งเป็นโบสถ์ของชาวเวอร์จิ้น ภายในยังมีหอคอยทรงสี่เหลี่ยมใหญ่ที่ตั้งตระหง่าน ทำให้เห็นทัศนีย์ภาพทิวทัศน์อันสวยงามด้านล่างจากมุมสูงของป้อมปราการนี้ รวมถึง อ่างเก็บน้ำชินวารี (Zhinvali Reservoir) และยังมีเขื่อนซึ่งเป็นสถานที่สำคัญสำหรับนำน้ำที่เก็บไว้ส่งต่อไปยังเมืองหลวงและใช้ผลิตไฟฟ้า ซึ่งทำให้ชาวเมืองทบิลิซีมีน้ำไว้ดื่มใช้

นำท่านแวะถ่ายรูป อนุสรณ์สถานรัสเซีย-จอร์เจีย (Russia–Georgia Friendship Monument) อนุสรณ์สถานหินโค้งขนาดใหญ่บนเนินเขา สร้างขึ้นในปี 1983 เพื่อเฉลิมฉลองครอบรอบ 200 ปี ของสนธิสัญญาจอร์จีเอฟสกี และความสัมพันธ์ระหว่างสหภาพโซเวียตและจอร์เจีย จุดชมวิวนี้ถือเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของจอร์เจีย

นำท่านชม วิหารสเวติสโคเวลี (Svetitskhoveli Cathedral) หรือหมายถึงเสาที่มีชีวิต (The Living Pillar Cathedral) สร้างราวศตวรรษที่ 11 โบสถ์แห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่ศักดิ์สิทธิ์ สร้างขึ้นโดยสถาปนิกชาวจอร์เจีย ชื่อ Arsukisdze  มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่ทำให้ชาวจอร์เจียเปลี่ยนความเชื่อและหันมานับถือศาสนาคริสต์ และให้ศาสนาคริสต์มาเป็นศาสนาประจำชาติของจอร์เจียเมื่อปี ค.ศ.337 และถือเป็นสิ่งก่อสร้างยุคโบราณที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศจอร์เจีย ภายในมีภาพเขียนสีเฟรสโก้ที่งดงาม

นำท่านชม วิหารจวารี (Jvari Monastery) โบสถ์แห่งไม้กางเขนอันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอก สร้างขึ้นเมื่อคริสตวรรษที่ 6 ชาวจอร์เจียสักการะนับถือวิหารแห่งนี้เป็นอย่างมาก ภายในโบสถ์มีไม้กางเขนขนาดใหญ่ โบสถ์นี้ตั้งอยู่บนภูเขาที่มีแม่น้ำสองสายมาบรรจบกันคือแม่น้ำมิควารี และแม่น้ำอรักวี

กลางวัน   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านชม วิหารโฮลีทรินิตีแห่งทบิลิซี (Sameba Church) ร้างขึ้นระหว่างปี 1995 และ 2004 เป็นมหาวิหารอีสเติร์นออร์โธดอกซ์ที่สูงเป็นอันดับสาม ของโลกและเป็นหนึ่งใน อาคารทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในโลกตามพื้นที่ทั้งหมด Sameba เป็นการสังเคราะห์รูปแบบดั้งเดิมที่มีอิทธิพลเหนือสถาปัตยกรรมโบสถ์จอร์เจียในหลายช่วงอายุของประวัติศาสตร์ และมีกลิ่นอายของไบแซนไทน์อยู่บ้าง จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ โบสถ์เมเคตี (Metekhi Church) ตั้งอยู่บนหน้าผา Metekhi ตรงข้ามเมืองเก่าของทบิลิซี โครงสร้างส่วนใหญ่ที่มีอยู่มีอายุย้อนไปถึงยุคกลางและสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1278 ถึง 1289 ในรัชสมัยของกษัตริย์ เดเมตริอุสที่ 2 แห่งจอร์เจีย แม้ว่าประเพณีปากเปล่าจะติดตามต้นกำเนิดของ Metekhi ไปจนถึงศตวรรษที่ 5

นำท่านเดินกลับสู่ เมืองทบิลิซี (Tbilisi) นำท่านชม สะพานสันติภาพ (The Bridge of Peace) ข้ามแม่น้ำคูราเพื่อเชื่อมระหว่างตัวเมืองเก่า และตัวเมืองใหม่ของทบิลิซี สะพานสร้างจากเหล็กและกระจกใส เปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2010 ได้รับการยกย่องว่าเป็นงานสถาปัตยกรรมยุคใหม่ที่มีความสวยงามออกแบบโดยสถาปานิกชาวอิตาเลียนชื่อ Michele De Lucchi โครงสร้างถูกออกแบบและสร้างที่ประเทศอิตาลี และได้นำเข้ามาโดยรถบรรทุก 200 คัน เพื่อเข้ามาติดตั้งในเมืองทบิลิซี

ท่านสู่ถนน จาน ชาเดอนี่ (Jan sharden street) เป็นถนนคนเดินย่านเมืองเก่าที่เป็นแหล่งศูนย์รวมทางสังคมและวัฒนธรรม ต่อมาศตวรรษที่ 9 ต่อมาจึงเปลี่ยนชื่อ ถนนมาเป็น Chardin Street เพื่อเป็นเกียรติแก่นักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส Jean Chardin ปัจจุบันถนนสายนี้เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารพื้นเมือง ร้านกาแฟมากมาย บริเวณนี้จะมีบ้านเมืองเก่าในแบบทบิลิซีที่โดดเด่น นอกจากด้านอาหารแล้วยังมีพ่อค้าแม่ค้านำสิ่งของต่างๆมาวางขายมากมาย ให้ท่านได้อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง ห้าง East Point ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้ง สินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น ADIDAS, ALDO, BERSHKA, COLUMBIA, CHARLES & KEITH, CONVERSE, H&M, LOREAL, LEVI’S, LOTTO, MANGO, MINI SO, NEW BALANCE, NEW YORKER, SAMSONITE, OVS, POLO, ZARA และอื่นๆอีกมากมาย

เย็น   รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

พักที่ Hilton Garden Inn หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (3 คืน ***คืนที่1,4,5)

วันที่ 6
เมืองอัพลิสต์ชิเคห์ - โบสถ์บอดี - เมืองซิกนากิ - เมืองควาเรลี - ไวน์เทสติ้ง - เมืองทบิลิซี

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอัพลิสต์ชิเคห์ (Uplistsikhe) ซึ่งเป็นเมืองถ้ำเก่าแก่ของจอร์เจีย มีการตั้งถิ่นฐานในดินแดนแถบนี้กันมานานแล้วกว่า 3000 ปีก่อน ในอดีตเป็นเส้นทางการค้าขายสินค้าจากอินเดียไปยังทะเลดำและต่อไปถึงทางตะวันตก ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนเหนือ ส่วนกลาง และส่วนใต้ ซึ่งส่วนกลางจะเป็นบริเวณที่ใหม่ที่สุด ประกอบไปด้วยสถาปัตยกรรมการสร้างตัดหินและเจาะลึกเข้าไปเป็นที่อยู่อาศัย ถ้ำส่วนมากจะไม่มีการตกแต่งภายในใดๆ และยังมีห้องต่างๆ ซึ่งคาดว่าเป็นโบสถ์เก่าแก่ของชาวคริสต์ ที่สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 9 ให้ท่านอิสระชมหมู่บ้านที่สร้างขึ้นจากถ้ำนี้ตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ โบสถ์บอดี (Bodbe Monastery) เดิมทีสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 ได้รับการปรับปรุงใหม่โดยเฉพาะในศตวรรษที่ 17 ปัจจุบันอารามทำหน้าที่เป็นสำนักแม่ชีและเป็นหนึ่งในสถานที่แสวงบุญที่สำคัญในจอร์เจีย เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับนักบุญนีโน ผู้เผยแพร่ศาสนาหญิงชาวจอร์เจียในศตวรรษที่ 4 ซึ่งมีพระธาตุประดิษฐานอยู่ที่นั่น

นำท่านเดินทางสู่ เมืองซิกนากิ (Sighnaghi) ในหุบเขาอลาซานี (Alazani Valley) สถาปัตยกรรมหมู่บ้านอิฐแดงท่ามกลางหุบเขา จนได้รับอีกสมญานามว่า นครแห่งความรัก ชม กำแพงเมืองโบราณ (Sighnaghi City Wall) ที่เหลือเพียงแห่งเดียวในจอร์เจีย ยอดแหลมของโบสถ์เซนต์จิออร์กี (St. Giorgi Church) และตัวเมืองเก่า (Old Town of Sighnaghi) ที่มีจัตุรัสมากถึง 2 แห่ง นอกจากนั้นไซห์นากียังเป็นศูนย์กลางทาศิลปะของพวกช่างฝีมือแขนงต่างๆ เช่นเดียวกับชื่อเสียงด้านการทำไร่องุ่นซึ่งมีกำลังการผลิตไวน์ได้ถึง 70% ของประเทศ

นำท่านสู่ เมืองควาเรลี (Kvareli) ที่แปลว่า “ไวน์” ของแคว้นคาเคติ ที่เป็น 1ในเขตที่เป็นแหล่งผลิตไวน์ของ จอร์เจีย ที่ที่มีดินฟ้าอากาศเหมาะต่อการปลูกองุ่นทำไวน์ โดยมีการทำอุโมงค์สกัดเข้าไปในภูเขาขนาดมหึมา จำนวน 15 อุโมงค์และมีเส้นทางเชื่อมแต่ละอุโมงค์ เพื่อให้เป็นที่เก็บไวน์ในอุณหภูมิเหมาะสม ให้ท่านได้ชิมไวน์คูวาเรลีรสเลิศ ไวน์ท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงที่สุดในภูมิภาคนี้

กลางวัน   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านสู่ ไวน์เทสติ้ง (Chateau Mukhrani) ให้ท่านได้ชิมไวน์หลากหลายปีการผลิต ชมโรงบ่มองุ่นเพื่อผลิตเป็นไวน์ และเรื่องราวประวัติศาสตร์การผลิตไวน์ก่อตั้งขึ้นโดย Ivane Mukhranbatoni ตัวแทนของราชวงศ์และผู้มีบทบาททางการเมืองของจอร์เจียในช่วงศตวรรษที่ 19 ในปี1876 เขากลับมาจากฝรั่งเศสพร้อมกับความรู้เกี่ยวกับแนวคิดของการทำไวน์ และนับตั้งแต่นั้นมาประวัติศาสตร์ของการทำไวน์ของ Château Mukhani ก็เริ่มขึ้น ต่อมาในปี 2003 กลุ่มผู้ประกอบการชาวจอร์เจียเริ่มฟื้นฟูโดยมีความตั้งใจที่จะรื้อฟื้นอสังหาริมทรัพย์แห่งศตวรรษที่สิบเก้าสู่ความรุ่งโรจน์ในอดีตและสร้างการผลิตขึ้นใหม่ โดยผสมผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัยและดั้งเดิมเข้าด้วยกัน โดยเริ่มมีการพัฒนาบริการการท่องเที่ยวและบริการไวน์การโฮสต์ทัวร์ไวน์ประเภทต่าง ๆ อิสระให้ท่านเดินเล่นไร่องุ่น เดินชมมาดูขั้นตอนการบ่มไวน์ และแน่นอนว่ารวมไปถึงการลองลิ้มชิมรสไวน์ในแบบจอร์เจีย ซึ่งบอกเลยว่าราคานั้นถูกมาก ซื้อได้ในราคาที่ไม่ถึงพันบาทไทย

จากนั้นนำท่านเดินกลับสู่ เมืองทบิลิซี (Tbilisi)

เย็น   รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร พร้อมชมโชว์พื้นเมือง

พักที่ Hilton Garden Inn หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (3 คืน ***คืนที่1,4,5)

วันที่ 7
เดอะ โครนิเคิล ออฟ จอร์เจีย - สนามบินกรุงทบิลิซี

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านชม เดอะ โครนิเคิล ออฟ จอร์เจีย (The Chronicle of Georgia) อนุสรณ์สถานที่มีการบันทึกเรื่องราวต่างๆ ในหน้าประวัติศาสตร์ของประเทศจอร์เจียเอาไว้บนเสาขนาดใหญ่จำนวนถึง 16 ต้น ซึ่งเสาแต่ละต้นนั้นมาในไซส์ใหญ่ยักษ์ที่มีขนาดราวสิบคนโอบ และสูงถึง 35 เมตร และด้วยทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่บนภูเขา จากบริเวณนี้คุณจึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองทบิลิซี ได้แบบเต็มๆ ที่ให้ความรู้สึกตื่นตาตื่นใจและยิ่งใหญ่ชวนตะลึง

กลางวัน   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

ได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางสู่ สนามบินกรุงทบิลิซี เพื่อตรวจเช็คเอกสารการเดินทางและสัมภาระเตรียมตัวเดินทางกลับ

16.50 น.   ออกเดินทางจากกรุงทบิลิซี กลับกรุงเทพฯ โดยสายการบิน EMIRATES (EK) เที่ยวบินที่ EK2201 (16.50-20.05) / EK374 (22.35-07.35(+1)) (ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 13.15 ชั่วโมง บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบ

วันที่ 8
กรุงเทพ (สนามบินสุวรรณภูมิ)

07.35 น.   เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

เงื่อนไข

อัตรานี้รวม

  1. ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ (Economy Class) แบบหมู่คณะ
  2. ค่ารถโค้ช ปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ
  3. ค่าห้องพักในโรงแรมที่ระบุตามรายการหรือเทียบเท่า
  4. ค่าอาหารที่ระบุตามรายการ
  5. ค่าเข้าชมสถานที่ทุกแห่งที่ระบุตามรายการ
  6. ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงินประกันท่านละ 2,000,000 บาทและค่ารักษาพยาบาล 200,000 บาทไม่คุ้มครอง โรคประจำตัวหรือโรคร้ายแรงที่แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นก่อนเดินทางรายละเอียดอื่นๆ เป็นไปตามเงื่อนไขแห่งกรมธรรม์ฯ
  7. ค่าประกันรวมรักษาโควิดหากป่วยหรือต้องกักตัวในต่างประเทศ (รายละเอียดเป็นไปตามเงื่อนไขแห่งกรมธรรม์)
  8. น้ำดื่มวันละ 1 ขวด / ท่าน

อัตรานี้ไม่รวม

  1. ค่าธรรมเนียมจัดทำหนังสือเดินทาง, แจ้งเข้าแจ้งออกสำหรับผู้ที่ไม่ได้ถือหนังสือเดินทางของไทย
  2. ค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นสำหรับชาวต่างชาติ ที่ไม่ได้รับการงดเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่น
  3. ค่าภาษีน้ำมันที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่ม หากสายการบินมีการปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง
  4. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ในกรณีที่ต้องการใบกำกับภาษี
  5. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษ นอกเหนือจากรายการทัวร์, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, มินิบาร์และทีวีช่องพิเศษ ฯลฯ
  6. ค่าธรรมเนียมในกรณีที่กระเป๋าสัมภาระที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินนั้นๆ กำหนดหรือสัมภาระใหญ่เกินขนาดมาตรฐาน
  7. ค่าทิปคนขับรถ (60 EUR / ยูโร) ตลอดการเดินทาง
  8. ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ขึ้นอยู่กับความพึ่งพอใจของท่าน

การจองและการชำระ

  1. ชำระเงินมัดจำท่านละ 30,000 บาท ภายหลังจากที่ท่านส่งเอกสารการจองภายใน 2 วัน โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น
  2. ส่วนที่เหลือชำระ 30 วัน ก่อนการเดินทาง เฉพาะวันหยุดยาวและนักขัตฤกษ์ ชำระส่วนที่เหลือ 45 วันก่อนการเดินทาง เนื่องจากทางบริษัทต้องสำรองค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าที่พักและตั๋วเครื่องบิน มิฉะนั้นจะถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยอัตโนมัติ
    • หากไม่ชำระมัดจำตามที่กำหนด ขออนุญาตตัดที่นั่งให้ลูกค้าท่านอื่นที่รออยู่
    • หากชำระไม่ครบตามจำนวน บริษัทฯ ถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยอัตโนมัติ โดยไม่มีเงื่อนไข
    • เมื่อท่านชำระเงินแล้ว ไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วน ทางบริษัทฯ ถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขและข้อตกลงต่างๆที่ได้ระบุไว้ทั้งหมดนี้แล้ว
  3. ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือนและเหลือหน้ากระดาษอย่างต่ำ 2 หน้า เพื่อทำการสำรองที่นั่งภายใน 2 วัน นับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาตยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ
  4. หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
  5. หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด

เงื่อนไขการยกเลิกการจองและการปรับเงินค่าบริการ

  1. ยกเลิกการเดินทาง 45 วัน ไม่เก็บค่าใช้จ่าย (ในกรณีวันเดินทางตรงกับเทศกาลหรือหยุดยาว เช่น สงกรานต์ / ปีใหม่ เป็น 60 วัน) หรือ หักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง (ถ้ามี)
  2. ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30 วัน คืนเงิน 100% ของค่าทัวร์ที่จ่ายมาแล้ว หรือ หักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน, ค่ามัดจำโรงแรม, ค่าวีซ่า (ถ้ามี)
  3. ยกเลิกก่อนการเดินทาง 15–29 วัน คืนเงิน 50% ของค่าทัวร์ที่จ่ายมาแล้ว และหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน, ค่ามัดจำโรงแรม, ค่าวีซ่า (ถ้ามี)
  4. ยกเลิกก่อนการเดินทางน้อยกว่า 15 วัน ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ชำระแล้วทั้งหมด
  5. หากมีการยกเลิกการเดินทางโดยไม่ใช่ความผิดของบริษัททัวร์ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบและคืนค่าทัวร์ส่วนใดส่วนหนึ่งให้ท่านได้ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น เช่น สถานทูตปฏิเสธวีซ่า ด่านตรวจคนเข้าเมือง นโยบายห้ามเข้าออกประเทศ ฯลฯ
  6. กรณีต้องการเปลี่ยนแปลงผู้เดินทาง (เปลี่ยนชื่อ) จะต้องแจ้งให้ทางบริษัททราบล่วงหน้า อย่างน้อย 21 วัน ก่อนออกเดินทาง กรณีแจ้งหลังจากเจ้าหน้าที่ออกเอกสารเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ทั้งหมดทั้งนี้ขึ้นอยู่กับช่วงพีเรียดวันเดินทางและกระบวนการของแต่ละคณะเป็นสำคัญด้วย กรุณาสอบถามกับเจ้าหน้าที่เป็นกรณีพิเศษ
  7. กรณีต้องการเปลี่ยนแปลงพีเรียดวันเดินทาง (เลื่อนวันเดินทาง) ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการหักค่าใช้จ่ายการดำเนินการต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริงสำหรับการดำเนินการจองครั้งแรก ตามจำนวนครั้งที่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
Share on social networks
โปรแกรมทัวร์ที่น่าสนใจ