20.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตูหมายเลข 9 เคาน์เตอร์ U สายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ (TURKISH AIRLINES) เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก
23.00 น. ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่ สนามบินอิสตันบูล โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ โดยเที่ยวบิน TK69 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง พร้อมจอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง, กระเป๋าจะทำการเช็คทรูจากสนามบินสุวรรณภูมิ จนถึงสนามบินทบิลิซี ประเทศจอร์เจีย น้ำหนักกระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่อง ท่านละ 1 ใบ น้ำหนักรวมสูงสุดไม่เกิน 30 กิโลกรัม และถือขึ้นเครื่องได้อีกท่านละ 1 ใบ ไม่เกิน 7 กิโลกรัม )
05.15 น. เดินทางถึง สนามบินอิสตันบูล เพื่อทำการเปลี่ยนเครื่อง
06.30 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติทบิลิซี ประเทศจอร์เจีย
09:45 น. เดินทางถึง สนามบินนานาชาติทบิลิซี ประเทศจอร์เจียเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ
นำท่านเดินทางเข้าสู่ “กรุงทบิลิซี” ชมเมืองทบิลิซี หัวใจแห่งจอร์เจีย โดยเริ่มต้นที่ วิหารศักดิ์สิทธิ์ของทบิลิซี (Holy Trinity Cathedral) หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นมหาวิหาร Sameba Sameba เป็นโบสถ์หลักของคริสตจักรนิกายออร์โธดอกของจอร์เจีย สร้างขึ้นระหว่างปี 1995 และปี 2004 และเป็นวิหารที่สูงที่สุดสูงที่สุดในจอร์เจีย และโบสถ์ออร์โธดอกที่สูงเป็นอันดับสามในยุโรป มีความสูงถึง 101 เมตร ตั้งอยู่บนเนินเขา Elia
ชม โบสถ์เมเตคี (Metekhi Church) โบสถ์ที่มีประวัติศาสตร์อยู่คู่บ้านคู่เมืองของทบิลิซี สร้างขึ้นในศตวรรษที่ห้า ตั้งอยู่บริเวณริมหน้าผาของแม่น้ำมัตควารี โดยกษัตริย์วาคตังที่ 1 แห่งจอร์กาซาลี ต่อมาในปี ค.ศ.1278-1284 ได้มีการต่อเติมโดยกษัตริย์ เซ้นต์ เดมิทรีอัส ที่ 2 ให้มีโดมสูงเป็นสัญลักษณ์ของโบสถ์ในนิกายออร์โธด๊อก และมีชะตาเช่น เดียวกับคริสตจักรคริสเตียนอื่น ๆ ในจอร์เจียทั้งหมด ที่ถูกทำลายและถูกสร้างขึ้นใหม่อีกหลายครั้ง ก่อสร้างขึ้นอีกหลายครั้ง จนกระทั่งในปี ค.ศ.1235 ได้ถูกพวกมองโกลบุกเข้าทำลาย และก็ได้สร้างขึ้นใหม่ในช่วงระหว่างปี ค.ศ.1278 ถึงปี ค.ศ. 1289
นำท่านถ่ายรูปกับ สะพานสันติภาพ (Peace bridge) สะพานคนเดินรูปโค้งโครงสร้างจากเหล็กและแก้วที่มีไฟ LED จำนวนมาก เหนือแม่น้ำ Kura ในเมืองทบิลิซีความยาว 150 เมตร ซึ่งเชื่อมระหว่างตัวเมืองเก่าและเมืองใหม่
เปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2010 ออกแบบโดย สถาปนิกชาวอิตาลีและประกอบด้วยแสงไฟน้อย 10,000 ดวงซึ่งสวยงามมากในตอนกลางคืน จัดว่าเป็นงานสถาปัตยกรรมยุคใหม่ที่สวยงามชิ้นหนึ่งซึ่งพาดผ่านแม่น้ำคูรา
จากนั้นเดินผ่านชมสวน Rike Park หนึ่งในสวนสาธารณะใหม่ล่าสุดที่ตั้งอยู่ใจกลาง เมืองทบิลิซี เพื่อนำท่านขึ้น กระเช้าไฟฟ้า สู่ป้อมนาริคาล่า (Narikala Fortress) ให้ท่านชมป้อมปราการ ซึ่งเป็นป้อมโบราณที่ถูกสร้างในราวศตวรรษที่ 4 ในรูปแบบของ ชูริส-ทซิ-เค อันหมายถึง รูปแบบที่ไม่มีความสม่ำเสมอกัน ในราวศตวรรษที่ 7 สมัยของราชวงศ์อูมัยยาด ได้มีการก่อสร้างขยายเพิ่มเติม และในสมัยของกษัตริย์เดวิด (ปี ค.ศ.1089-1125) ได้มีการสร้างเพิ่มเติมขึ้นอีก ต่อมาเมื่อพวกมองโกลได้ เข้ามายึดครองก็ได้เรียกชื่อป้อมแห่งนี้ว่า นาริน กาลา (Narin Qala) ซึ่งมีความหมายถึง ป้อมอันเล็ก (Little Fortress) ตัวป้อมประกอบด้วยกำแพงยาว 4 กิโลเมตร สูง 25 เมตร และหอคอย 25 หลัง ต่อมาบางส่วนก็ได้พังทลายลงเพราะว่าเกิดแผ่นดินไหวและได้ถูกรื้อทำลายไป และท่านยังสามารถมองเห็น Mother of Georgian อนุสาวรีย์ในเมืองหลวงทบิลิซีของจอร์เจีย รูปปั้นถูกสร้างขึ้นบนยอดเขา Sololaki ในปี 1958 ในปีทบิลิซีฉลองครบรอบ 1500 ปี ช่างแกะสลักชาวจอร์เจียชื่อ Elguja Amashukeli ออกแบบรูปอลูมิเนียมยาวยี่สิบเมตร ของผู้หญิงในชุดประจำชาติของจอร์เจีย เธอเป็นสัญลักษณ์ของตัวละครประจำชาติจอร์เจีย ในมือซ้ายของเธอถือชามไวน์เพื่อทักทายผู้ที่มาเป็นเพื่อนและในมือขวาของเธอคือดาบสำหรับผู้ที่มาเป็นศัตรู
จากนั้น นำท่านลงเขาสู่พื้นที่ราบ บริเวณรอบๆจะมีโรงอาบน้ำกำมะถันมากมาย นำท่านเดินมุ่งหน้าสู่ เขตเมืองเก่า โดยเริ่มจากพื้นที่ ที่มีชื่อเสียงที่สุดที่เรียกว่า Abanotubani (บริเวณที่อาบน้ำ) ที่นี่เราจะเยี่ยมชมสถานที่สำคัญด้านล่าง Abanotubani – เขตโบราณของทบิลิซีเป็นที่รู้จักสำหรับอาบน้ำกำมะถัน น้ำตก Leghvtakhevi ซึ่งสูง 22 เมตร
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตราคาร อาหารไทย
จากนั้นนำท่านเดินผ่าน ถนนคนเดิน จาน ชาร์ดีนี่ (Jan Shardni street) เป็นถนนคนเดินย่านเมืองเก่า ที่มีร้านค้า ร้านอาหาร และร้านกาแฟมากมาย และมีบรรยากาศบ้านเมืองเก่าในแบบจอร์เจียนที่โดดเด่น นอกจากนั้นยังจะพบเห็นผู้คนนำสินค้ามาวางขายมากมายให้ท่านอิสระได้มีเวลาช็อปปิ้งตามอัธยาศัย ผ่านชม หอนาฬิกา Gabriadze Theatre ซึ่งสร้างขึ้นในปี 2010 โดย Rezo Gabriadze และทุก ๆ ชั่วโมง จะได้ยินเสียงระฆัง ซึ่งชาวพื้นเมืองเรียกว่าเป็นเสียงจากทูตสวรรค์ ในช่วงเวลาเที่ยงตรง และ หนึ่งทุ่ม จะมีการแสดงหุ่นละครเล็ก “วงกลมแห่งชีวิต” ในบริเวณนี้
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ห้าง EAST POINT ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้ง สินค้าแบรนด์เนม และอื่นๆอีกมากมาย ได้เวลาอันสมควร นำท่านเข้าสู่ที่พักเพื่อทำการเช็คอิน
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่ที่พัก SOLE PALACE HOTEL หรือ เทียบเท่า ณ เมืองทบิลีซี (Tbilisi)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเยี่ยมชม อนุสรณ์ทางประวัติศาสตร์ของจอร์เจีย (The Chronicle of Georgia) ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใกล้กับทะเล ทบิลิซี สร้างขึ้นโดย Zurab Tsereteliในปี 1985 แต่ยังสร้างไม่เสร็จ อนุสาวรีย์ มี 16 เสาหลักที่มีความสูงระหว่าง 30-35 เมตร และครึ่งบนเป็นราชา ราชินี และฮีโร่ ในขณะที่ส่วนล่างแสดงถึงเรื่องราวจากชีวิตของพระเยซูคริสต์
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองสกีรีสอร์ทกูเดาริ (Gudauri) (ระยะทาง 118 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาน 2ช.ม.) เมืองกูเดาริ ช่วงหน้าหนาวที่นี่จะกลายสภาพเป็นภูเขาหิมะขนาดใหญ่เพื่อเล่นสกี และกีฬาฤดูหนาวทุกรูปแบบ บนความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 2,200 เมตร มีความยิ่งใหญ่อลังการ ระหว่าทาง แวะชม ป้อมอนานูรี (Ananuri Fortress) ป้อมปราการนี้ มีกำแพงล้อมรอบ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Aragvi หนึ่งในแม่น้ำสายสำคัญของประเทศจอร์เจีย สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16 ที่นี่สร้างโดย Duke of Aragvi เพื่อเป็นป้อมปราการไว้หลบภัยในสงคราม ป้อมอันนานูรีนั้นประกอบขึ้นด้วยสองหอคอย หอคอยที่สูงกว่ามีชื่อว่า เชอโปวารี (Sheupovari) สร้างเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมและยังคงอยู่ในสภาพเกือบสมบูรณ์แบบ ส่วนหอคอยที่เตี้ยกว่านั้นเป็นหอคอยกลมที่เป็นซากปรักหักพัง แทบไม่เหลือเค้าเดิม จากมุมสูงของป้อมปราการนี้ มองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของ อ่างเก็บน้ำซินวาลี (Zhinvali) เป็นสถานที่ที่สำคัญสำหรับนำน้ำที่เก็บไว้ส่งต่อไปยังเมืองหลวง พร้อมกับ ผลิตกระแสไฟฟ้าอีกด้วย
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Hofbräuhaus (HB) Gudauri Royal Door Beer (พิเศษ เบียร์ HB ท่านละ 1 แก้ว)
นำท่านชม อนุสาวรีย์มิตรภาพรัสเซีย-จอร์เจีย (Russia-Georgia Friendship Monument) เป็นอนุสาวรีย์ที่โครงสร้างทั้งหมดทำจากหินและคอนกรีตเป็นรูปทรงกลมขนาดใหญ่ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1983 เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในสนธิสัญญาที่แสดงถึงมิตรภาพระหว่างโซเวียตจอร์เจียและโซเวียตรัสเซีย ภายใน มีการวาดภาพบอกเล่าถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตของชาวรัสเซียและชาวจอร์เจียเอาไว้ สามารถชมวิวได้แบบพาโนรามา 360 องศา โอกาสครบรอบ 200 ปี ของสนธิสัญญา ตกแต่งด้วยประเบื้องโมเสกสีสันสดใส Georgievsk และยังสามารถมองเห็นหุบเขาปีศาจ (Devil’s Valley) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาคอเคซัส และภายในบริเวณรอบๆ มีร้านค้าขายของที่ระลึกอยู่ด้วย
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่เมือง Kezbegi (ชื่อเดิม) หรือ Stephantsminda (ระยะทาง 28.4 กิโลเมตร เดินทางประมาน 40 นาที)
นำท่านชม หมู่บ้านสเตฟานมินด้า (VillageStephantsminda) เมืองเล็กๆในเขต Mtskheta-Mtianeti ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจอร์เจีย เมืองนี้เป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดเควี ตามประวัติศาสตร์และชาติพันธุ์ เป็นศูนย์กลางของเทศบาล Kazbegi เมืองนี้ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาขนาดใหญ่ทุกด้าน
จากนั้นนำท่านนั่งรถโฟล์วีลคันละ 4 ท่าน ขึ้นไป เยี่ยมชม โบสถ์เกอเกติ (Gergeti Trinity Church) โบสถ์เก่าแก่แห่งนี้ตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำ Chkheri ที่ระดับความสูง 2170 เมตร (7120 ฟุต ) ใต้ Mount Kazbek ใกล้กับหมู่บ้าน Gergeti เป็นสถาปัตยกรรมและภูมิทัศน์ที่กลมกลืนกัน ซึ่งเป็นแบบอย่างสำหรับสถาปัตยกรรมของจอร์เจีย สร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 เป็นคริสตจักรที่ผสมผสานแบบออร์ทอดอกซ์ และ Apostolic Church ซึ่งความงดงามของที่นี่คือ ตัวโบสถ์ที่ตั้งอยู่เหนือสุดของภูเขา โดยมีด้านหลังเป็นแนวยอดเขา Kazbegi อันยิ่งใหญ่ ทำให้โบสถ์ที่ใหญ่โต ดูเล็กลงไป
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม THE ROOM
นำท่านเข้าสู่ที่พัก THE ROOM หรือเทียบเท่า ณ เมือง คาซเบกี (KEZBEGI)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเมืองมิสเคต้า (MTSKHETA) (ระยะทาง 113 กิโลเมตร เดินทางประมาน 2.45 ช.ม.) เมืองหลวงเก่าแก่ของจอร์เจีย ห่างจากเมืองทบิลิซีราวๆ 20 กิโลเมตร ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาล มีลักษณะเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ ในหุบเขาริมแม่น้ำ Mtkvari รายล้อมไปด้วยไร่องุ่นเพื่อการทำไวน์พื้นที่กว้างขวาง และงดงามไปด้วยอาคารบ้านเรือนและโบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมแบบยุคกลาง โดยเฉพาะโบสถ์ที่ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมถึง 3 แห่ง ได้แก่ Svetitskhoveli Cathedral, Samtavro Church and Monastery และ Mtskhetis Jvari
นำท่านชม โบสถ์สเวทิชโคเวลิ (Svetitskhoveli) เป็นสถานที่ฝังศพของเสื้อคลุมของพระเยซูซึ่งเขาสวมอยู่ก่อนที่เขาจะถูกตรึงที่ไม้กางเขน เนื่องจากมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และอนุสรณ์สถานทาง วัฒนธรรมหลายแห่ง “อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ของ Mtskheta” จึงกลายเป็นมรดก โลกของ องค์การยูเนสโก ในปี 1994 ในฐานะที่เป็นแหล่งกำเนิดและศูนย์กลางศาสนาคริสต์ที่มีชีวิตชีวาที่สุดแห่งหนึ่งในจอร์เจีย Mtskheta ได้รับการประกาศให้เป็น ” เมืองศักดิ์สิทธิ์ ” โดยคริสตจักรออร์โธดอกซ์จอร์เจียในปี 2014
ชม อารามจวารี ( Jvari Monastery ) หรือโบสถ์แห่งไม้กางเขนอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นสถานศักดิ์สิทธิ์และสำคัญอีกแห่งของจอร์เจียและภูมิภาคคอเคซัส ซึ่งเป็นวิหารในรูปแบบของคริสต์ศาสนาออร์โธด๊อกที่ถูกสร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 6 วิหารแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาที่มีแม่น้ำสองสายไหลมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำมิควารี และแม่น้ำอรักวี และถ้ามองข้ามเมืองมิสเคต้าออกไปยังที่บริเวณกว้างใหญ่ ในอดีตเคยเป็นอาณาจักรของไอบีเรีย (KINGDOM OF IBERIA) เคยปกครองดินแดนบริเวณนี้ตั้งแต่ 400 ปีก่อนคริสตกาล จนถึงราวคริสต์ศตวรรษที่ 5 อิสระให้ท่านเก็บภาพทิวทัศน์ของเมืองมิสเคต้า และจุดบรรจบของแม่น้ำคูราและแม่น้ำอะรักวีซึ่งมีความงดงามเป็นอย่างมาก
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองกอรี (Gori) (ระยะทาง 150 ก.ม. เดินทางประมาณ 2.30ชม.)
นำท่านเข้าสู่เมืองแห่งถ้ำ อัพลิสต์ซิเคห์ (Uplistsikhe) (ระยะทาง 14.1 ก.ม. เดินทางประมาณ 30 นาที) เมืองแห่งนี้ดัดแปลงจากถ้ำมาเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ยุคก่อนคริสตกาล ซึ่งเป็นสถานที่โบราณมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของจอร์เจีย นำท่านชมหมู่บ้านถ้ำ โดยแบ่งออกเป็น 3ส่วน ส่วนกลางนั้นมีพื้นที่กว้างและใหญ่ที่สุด มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่มากมาย โดยสร้างจากการตัดหิน และเจาะลึกเข้าไปเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ ภายในถูกสร้างให้เชื่อมโยงกันผ่านช่องอุโมงค์และทางเดินแคบๆ และ บางจุดมีการทำขั้นบันได ไปยังจุดต่างๆภายในถ้ำ จากการสำรวจโดยนักโบราณคดีได้พบเครื่องใช้มากมาย รวมทั้งเครื่องทองเครื่องเงินโบราณ ยังมี ของใช้ทำจากเซรามิคและแกะสลักลวดลายที่สวยงามอีกด้วย ข้าวของต่างต่างเหล่านี้ได้ถูกนำไปเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์สตาร์ลิน
นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ โจเซฟ สตาร์ลิน (Joseph Stalins Museum) เป็นสถานที่เก็บรวบรวมสิ่งของเครื่องใช้ที่บอกเล่าเรื่องราวของ สตาร์ลิน อดีตผู้นำคอมมิวนิสโซเวียตที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีการแสดงอัตชีวประวัติตั้งแต่เกิดจนตาย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองบอร์โจมิ (BORJOMI) (ระยะทาง 141 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองแห่งธรรมชาติ อันสวยงามของจอร์เจีย เมืองที่มีสายน้ำแร่อันบริสุทธิ์ ส่งออกน้ำแร่ไปขายหลายประเทศทั่วโลก
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL GOLDEN TULIP หรือ เทียบเท่า ณ เมืองบอร์โจมิ (BORJOMI)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม สวนบอร์โจมิ (Borjomi Central Park) ชมบรรยากาศสดชื่นด้วย สีสันของมวลดอกไม้นานาชนิด โดยเฉพาะวิสทีเรียสีม่วงที่ห้อยระย้าต้อนรับแขกผู้มาเยือน ทั้งยังส่งกลิ่นหอมชวนให้หมู่ภมรบินมาดอมดมจากนั้น นำท่านขึ้นกระเช้าสู่จุดชมวิว บนหน้าผาเหนือสวนบอร์โจมิ ให้ท่านถ่ายภาพตามอิสระ
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง คูไทซี (Kutaisi) (ระยะทาง 154ก.ม. เดินทางประมาณ 3 ชม.) เมืองที่มีความเจริญเป็นอันดับสองรองจากกรุงทบิลีซี ชมความสวยงามของเมืองคูไทซี ที่มีชื่อเสียงทางด้านวัฒนธรรม และได้รับการขึ้นทะเบียน ให้เป็นมรดกโลก ซึ่งถ้าย้อนกลับไปเมื่อสมัยศตวรรษที่ 12-13 คูไทซีได้เคยเป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของอาณาจักรโคลคลิส (Empire of Colclis) และ อาณาจักรอีเมรีเทีย (Kingdom of Emeretia) ที่อยู่ทางด้านของตะวันตกของประเทศ
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าชม ถ้ำโพรมีธีอุส(Prometheus Cave) ถ้ำที่มีหินงอกหินย้อย เกิดเป็นความงดงามตามธรรมชาติที่หาชมได้ยาก ถ้ำแห่งนี้ ค้นพบครั้งแรก เมื่อราวคริสตศักราช 1984 และในปี 2012 ได้มีการปรับปรุงด้านในให้เหมาะแก่การท่องเที่ยวซึ่งมีการประดับไฟงดงามตระการตา ตัวถ้ำมีแบ่งออกเป็นทั้งหมด 22 ห้อง ความยาวทั้งหมด 11 กิโลเมตร แต่ส่วนที่เปิดให้เข้าชมเพียง 6 ห้องระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ส่วนชื่อของถ้ำโพรมีธีอุสเป็นหนึ่งในชื่อของเทพในปรนัม กรีกเป็นเทพผู้นำไฟมาให้มนุษย์ใช้ ทำให้มนุษย์เกิดการพัฒนา
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก KUTAISI INN หรือ เทียบเท่า ณ เมืองคูไทซี (KUTAISI)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านชม อารามเกลาติ (Gelati Monastery) อารามหลวงของเมืองคูไทซึ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียน ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกสถาน จากองค์กร UNESCO ในปี ค.ศ.1944 สร้างขึ้นตามพระประสงค์ของกษัตริย์เดวิดที่ 4 กษัตริย์ผู้ปกครองประเทศจอร์เจียเมื่อช่วงศตวรรษที่ 10-11 ตัวอารามประกอบด้วยโบสถ์ 2 แห่งคือโบสถ์พระแม่มารี และโบสถ์เซนต์จอร์จ / เซนต์นิโคลัส ภายในตัวโบสถ์มีภาพเขียนเฟรสโก้อันสวยงามมากมายหลายภาพด้วยกัน นอกจากนี้อารามเกลาติยังเป็นสถาบันชั้นนำของประเทศที่ผลิตนักวิทยาศาสตร์, นักเทววิทยา, และนักปราชญ์ชื่อดังมากมาย
ชม โบสถ์บรากาติ(Bahrati Church) โบสถ์ออโธดอกซ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจอร์เจีย โบสถ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 11ตอนที่รบได้รับชัยชนะจากสงครามและรวบรวมจอร์เจียกลับมาเป็นปึกแผ่นได้ ซึ่งต่อในปี ค.ศ.1692 วิหารถูกทำลายจากการระเบิดโดยทหารออตโตมัน ส่งผลทำให้ โดมและเพดานโบสถ์ถล่มได้รับความเสียหาย แต่เนื่องจากโบสถ์นี้มีความสำคัญทั้งทางศาสนาและวัฒนธรรมของประเทศ ทาง UNESCO จึงได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1944 ปีเดียวกับที่ขึ้นทะเบียน อารามเกลาติ แต่ภายหลังถูกทาง UNESO ถอดชื่อออก เนื่องจากทางรัฐบาลจอร์เจียได้มีการปรับปรุงซ่อมแซมโบสถ์แห่งนี้เพิ่มเติมครั้งใหญ่ เพื่อใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่ดึงดูดผู้แสวงบุญและนักท่องเที่ยวให้มามากขึ้น จนทำให้องค์การ UNESCO ได้ทำการถอนชื่อของโบสถ์แห่งนี้ออกจากมรดกโลกในปี ค.ศ. 2017 เพราะพิจารณาว่าการบูรณะครั้งใหญ่นี้มันเป็นอันตรายต่อความสมบูรณ์และความถูกต้องของโครงสร้างเดิมในสมัยอดีต
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางไปยัง เมืองบาตูมี (Batumi) (ระยะทาง 198 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชม.) ระหว่างทางนำท่านเยี่ยมชมอุทยาน Shekvetili Dendrological Park ตั้งอยู่ในเขตเทศบาล Ozurgeti ทางตะวันตกของจอร์เจีย มีต้นไม้ยักษ์กว่า 200 ต้น ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีนก 58 สายพันธุ์จากทุกทวีป และป่าไผ่พร้อมต้อนรับผู้มาเยือน อุทยาน Shekvetili Dendrological Park มีพื้นที่กว่า 60 เฮกตาร์และมีพืชพันธุ์แปลกตาทั้งในประเทศและต่างประเทศหลายพันธุ์ชนิด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีการนำเข้าต้นไม้แปลกใหม่หลายพันต้นในจอร์เจียจากห้าทวีป
ขณะที่ท่านเข้าใกล้ต้นไม้ ระบบจะเปิดระบบเสียงอิเล็กทรอนิกส์และเซ็นเซอร์ และไกด์เสมือนจริง ซึ่งบอกให้ผู้เยี่ยมชมทราบชื่อ ขนาด และข้อมูลเกี่ยวกับต้นไม้ ท่านสามารถพบต้นลูกเกดญี่ปุ่น ต้นการบูร และต้นซีดาร์ประเภทต่างๆ ท่ามกลางสายพันธุ์เฉพาะถิ่น ทะเลสาบเทียมที่ตั้งอยู่ใจกลางอุทยานมีความลึกประมาณหกเมตร อุทนยานถูกปรับให้เข้ากับความต้องการของนกที่อาศัยอยู่ใกล้ทะเลสาบ นักท่องเที่ยวสามารถพบกับนกฟลามิงโกสีชมพู นกกระทุง นกกระสา และนกกว่า 50 สายพันธุ์
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองบาตูมี นั่งรถผ่านชมความสวยงามของ ถนนบาตูมี บูเลวาร์ด (Batimi Boulevard) บริเวณที่มีความเก่าแก่ที่ได้รับความสนใจถูกสร้างขึ้นในราวปี ค.ศ. 1881 มีการตกแต่งและประดับต้นไม้สวยงามไปตามความยาวของหาดประมาณ 7 กิโลเมตร ซึ่งได้ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนเก่าดั้งเดิมที่ยังคง เก็บรักษาไว้ และได้เพิ่มพื้นที่ของส่วนใหม่ให้มีความสวยงาม โดยการเพิ่มม้านั่งและน้ำพุ ในหน้าร้อนจะได้รับความนิยมและเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่บริเวณชายหาด นอกจากนั้นยังมีร้านกาแฟ ร้านอาหาร คลับ ตามชายหาดอีกมากมาย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีการนำเข้าต้นไม้แปลกใหม่หลายพันต้นในจอร์เจียจากห้าทวีป
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก The Wyndham Hotel หรือ เทียบเท่า ระดับ ดาว ณ เมืองบาตูมี (BATUMI)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่าน ชม เมืองบาตูมี เมืองบาทูมิเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญของจอร์เจีย ตั้งอยู่ในเขตอัดยารา เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเขตร้อนริมทะเลดำของประเทศจอร์เจีย มีอุตสาหกรรมส่งออกผลิตผลทางการเกษตร และ แปรรูปอาหารทะเล ชมบรรยากาศของบ้านเรือนใน ย่านเมืองเก่า (Old Town of Batumi) อาคารที่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกที่มีชื่อเสียงสร้างขึ้นในรูปแบบของสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานกันเป็นพิเศษที่มีความสวยงามน่ารัก
ชม จตุรัสเปียซซ่า (Piazza Square) หนึ่งในจัตุรัสสำคัญของเมืองบาตูมี ซึ่งรายล้อมด้วยร้านอาหารและโรงแรมมากมายบนเนื้อที่กว่า 5,700 ตารางเมตร ใกล้ริมอ่าวทะเลดำ สถาปัตยกรรมโดยรอบนับว่าได้แรงบันดาลใจจากประเทศอิตาลีโดยแท้ สังเกตได้จากภาพโมเสคและงานกระจกสีที่หาดูได้ตามอาคารรอบจัตุรัส
นำท่านแวะถ่ายรูปกับ อนุเสาวรีย์ อาลีและนีโน่ (Ali and Nino Moving Sculptures) รูปปั้นพิเศษสูง 8 เมตร ริมทะเลดำที่สามารถเคลื่อนไหวได้ทุกๆ 10 นาทีจุดประสงค์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อแสดงถึงความรักของหนุ่มสาวต่างเชื้อชาติและศาสนา และยังแสดงถึงสันติภาพระหว่างจอร์เจียและอาร์เซอไบจานด้วย
จากนั้น นำท่านขึ้นกระเช้า Argo Batumi ชมวิวบรรยากาศเมืองบาตูมี ซึ่งสูง 250 เมตรจากระดับน้ำทะเลทั้งทะเลและภูเขา ระหว่างทางท่านจะเห็นวิวอันสวยงาม ทั้งะเลและภูเขา ซึ่งด้านบนสุดแท่นและระเบียงดาดฟ้า จะมีร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านค้าปลีก ห้องโถงกลางแจ้ง ให้ท่านได้นั่พักผ่อนและดื่มด่ำกับบรรยากาศ
นำท่านถ่ายรูปคู่กับตึกอัลฟาเบท Alphabetic Tower เป็นตึกสูงตระหง่า เป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของเมืองบาตูมี
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ภายในตึก Alphabetic Tower พร้อมชื่นชมกับบรรยากาศเมืองบาตูมี จากมุมสูงของตึก
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ห้างบาทูมี่ BATUMI MALL ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้ง เลือกซื้อสินของฝากของทีระลึกจนกระทั่งถึงเวลาอันสมควรนำท่านเดินทางไปยัง สนามบินบาทูมิ (BUS) ประเทศจอร์เจีย
20.30 ออกเดินทางจาก สนามบินบาทูมิ (BUS) ประเทศจอร์เจีย สู่ สนามบินอิสตันบูล โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ โดย เที่ยวบินที่ TK 393 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง พร้อมจอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง, กระเป๋าจะทำการเช็คทรูจากสนามบินทบิลิช จนถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย น้ำหนักกระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่อง ท่านละ 1 ใบ น้ำหนักรวมสูงสุดไม่เกิน 20 กิโลกรัม และถือขึ้นเครื่องได้อีกท่านละ 1 ใบ ไม่เกิน 7 กิโลกรัม )
21:40 เดินทางถึง สนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรกี เพื่อทำการเปลี่ยนเครื่อง
01.45 น. ออกเดินทางจากสนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรกี สู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ โดยเที่ยวบินที่ TK 068 (รับประทานอาหารและพักผ่อนบนเครื่องบิน)
15.25 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ
อัตราค่าบริการนี้รวม
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
**ราคาอาจมีการปรับขึ้น – ลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นลง แต่จะปรับตามความเป็นจริงที่สายการบินประกาศปรับและที่มีเอกสารยืนยันเท่านั้น โดยราคาที่เสนอคิด ณ วันที่ 1 กรกฏาคม 2565**
****โปรแกรมอาจมีการเปลี่ยนตามความสภาพอากาศและความเหมาะสม โดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ****
เงื่อนไขการชำระเงิน
กรณียกเลิก
รายละเอียดเงื่อนไขเพิ่มเติม
กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน
สัมภาระและค่าพนักงานยกสัมภาระ