กัสโต้ เวิล์ด ทัวร์

บริการคุณภาพ ทุกเส้นทางท่องเที่ยว

เลขที่ 11/03295

ทัวร์ยุโรป Germany Switzerland France

ทัวร์ยุโรป
รหัส 036-2046
วันที่เดินทาง
ธ.ค.65
ช่วงเวลา
10 วัน 7 คืน
ราคาเริ่มต้น
399,999 บาท
แผนการเดินทาง
วันที่ 1
กรุงเทพ(สนามบินสุวรรณภูมิ)

17.00 น. : คณะพร้อมกัน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น4 สนามบินสุวรรณภูมิเคาน์เตอร์สายการบินโอมาน แอร์(WY) พบเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก

20.05 น. : ออกเดินทางสู่สนามบินแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี โดยสายการบินโอมานแอร์ (WY) เที่ยวบินที่ WY816 (20.05–23.25) // WY115 (02.45–07.05(+1)) ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 17 ชั่วโมง บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง

วันที่ 2
แฟรงค์เฟิร์ต-วูร์ซบวร์ก-ศาลาว่าการเมืองวูร์ซบวร์ก-มหาวิหารวูร์ซบวร์ก-นูเรมเบิร์ก ปราสาทนูเรมเบิร์ก

07.05 น. : เดินทางถึงสนามบินแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5-6 ชั่วโมง) หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านเดินทางสู่ เมืองวูร์ซบวร์ก (Wurzburg) ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 1.10 ชม. เมืองบนเนินเขาทางตอนเหนือของแคว้นบาวาเรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเมนซึ่งเป็นอีกแหล่งเพาะปลูกองุ่นเพื่อผลิตไวน์ของเยอรมันและเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก

นำท่านชมความงดงามของเมืองมรดกโลกเมืองนี้ โดยเริ่มจาก ศาลาว่าการเมือง (City Hall) และแวะถ่ายรูปกับ มหาวิหารแห่งเมืองวูร์ซเบริ์ก (Wurzburg Cathedral) สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 788 และในการก่อสร้างระหว่างปี 1040 – 1225 ได้รับอิทธิพลจากศิลปะแบบโรมาเนสก์ จึงทำให้ภายนอกมหาวิหารสร้างแบบโรมาเนสก์ จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ พระราชวังวูร์ซบวร์ก (Wurzburg Residence) สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 10 ซึ่งอดีตคือพระราชวังเก่า สร้างแบบสถาปัตยกรรมบาโรก

นำท่านชม ป้อมมาเรียนแบร์ก (Marienberg Fortress) ถูกสร้างมาตั้งแต่ช่วงก่อนคริสตกาลโดยชาวเคลท์ เพื่อใช้เป็นที่หลบภัย กระทั่งคริสต์ศตวรรษที่ 13 ก็ได้สร้างเพิ่มเติมบนพื้นที่เดิมของโบสถ์มาเรียนเคียเชอร์ ชมสะพานอัลเทอไมน์บรอค (Altemainbruecke) สะพานเก่าข้ามแม่น้ำไมน์ จุดเด่นที่สุดคือรูปปั้นของนักบุญทั้งหลายที่ตั้งเรียงรายอยู่ทั้งสองข้างสะพาน ซึ่งสะพานหินแห่งนี้ตามประวัติคือสร้างในปี 1473-1543 และได้มีการบูรณะหลายครั้งเนื่องจากถูกทำลายจากสงครามโลกครั้งที่ 2

กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

เดินทางสู่เมืองนูเรมเบิร์ก (Nuremberg) เมืองที่ได้รับสมญานามว่าเมืองแห่งเทพนิยายของเยอรมัน หากใครเป็นคนที่ชื่นชอบความสวยงามของธรรมชาติ ขุนเขาสลับซับซ้อน ปราสาทราชวังแบบในการ์ตูนทางเดินโรยกรวด ปูหินแบบยุคกลาง โบสถ์สวยเก่าแก่ หิมะที่ปกคลุมขาวโพลนไปทั่วทั้งเมือง ต้องที่นี่เลยเพราะนูเรมเบิร์กนั้นเสมือนดังเมืองแห่งเทพนิยายที่ได้รับการรักษาเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ จากนั้นนำท่าน เดินชมเมืองโบราณที่มีอายุกว่า 900 ปี ผ่านชม เม้าท์ฮาล์ โรงเก็บส่วยภาษีอากรในอดีตที่ถือเป็นอาคารประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งของเมืองนูเรมเบิร์ก

จากนั้นนำท่านชมบริเวณ จัตุรัสกลางใจเมือง (Hauptmarkt) ซึ่งมีตลาดนัดขนาดใหญ่ประจำเมือง อันถือเป็นตลาดนัดคริสต์มาสที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี ด้านตะวันออกของตลาดมี โบสถ์พระแม่มาเรีย (Frauenkirche) จุดเด่นคือ มีนาฬิกาตุ๊กตาไขลานที่หน้าจั่วของโบสถ์พระแม่มาเรีย ตัวนาฬิกาและตุ๊กตาประดับนี้ถูกสร้างเพิ่มเติมภายหลังในปี ค.ศ. 1509 เพื่อเป็นการรำลึกถึง พระราชกฤษฎีกาทองคำปี 1356 ที่ตราขึ้นตามพระราชบัญชาของจักรพรรดิคาร์ลที่ 4 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์

นำท่านเข้าชม ปราสาทเนิร์นแบร์ค (Nürnberger Burg) เป็นหมู่อาคารป้อมปราการในสมัยกลาง

ตั้งบนสันเขาหินทรายในเมืองนูเรม ประเทศเยอรมนี ปราสาทแห่งนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในปราการที่ยากจะเอาชนะที่สุดของทวีปในโรปในสมัยกลาง สะท้อนความสำคัญของเมืองนี้ในฐานะเมืองที่ขึ้นต่อจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์โดยตรงอาคารหลังแรกเริ่มก่อสร้างขึ้นราว ค.ศ. 1000ปราสาทนี้สามารถแบ่งออกได้สามยุคคือ :

– ยุคแรก คือการเริ่มลงหลักปักฐานภายใต้ราชวงศ์ซาลีเออร์ (ค.ศ. 1027–1125)

– ยุคที่สอง คือการสร้างอาคารหลังใหม่ภายใต้ราชวงศ์โฮเอินชเตาเฟิน (ค.ศ. 1138–1254)

– ยุคที่สาม คือการบูรณะครั้งใหญ่ในสมัยกลาง

ปราสาทหลังนี้เริ่มสูญเสียสถานะความสำคัญภายหลังสงครามสามสิบปีในช่วงปี 1618 ถึง 1648 ปราสาทหลังนี้ได้รับความเสียหายมากจากการทิ้งระเบิดทางอากาศในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สองพื้นที่ส่วนใหญ่กลายเป็นซากปรักหักพัง เหลือแต่เพียงโบสถ์น้อยและหอคอยเท่านั้นที่อยู่รอด ต้องใช้เวลากว่าสามสิบปีในการบูรณะขึ้นใหม่จนมีสภาพเฉกเช่นในปัจจุบัน

 เย็น : รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

วันที่ 3
นูเรมเบิร์ก-โรเธนเบิร์ก-เขตเมืองเก่า-ไฮเดลเบิร์ก-ปราสาทไฮเดลเบิร์ก

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโรเธนบวร์ก (Rothenburg) เป็นเมืองเก่าแก่ของจักรวรรดิฟรังค์ ในเขตบาวาเรียปัจจุบันเมืองโรเธนบวร์กได้กลายมาเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก จนได้ชื่อว่าเป็นเมืองยุคกลางที่มีความสมบูรณ์มากที่สุดของเยอรมนี มีกำแพงเมืองล้อมรอบอย่างสมบูรณ์พร้อมด้วยประตูเมือง และหอคอยทั้ง 8 ภายในเมืองเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค และสไตล์เรอเนสซองส์ พร้อมบ้านเรือนรูปแบบเยอรมันขนานแท้ที่บ่งบอกถึงความรุ่งเรืองและบรรยากาศราวกับว่าวันเวลาได้หยุดนิ่งมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 นำท่านเดินเล่นชมเมือง ที่ประกอบไปด้วยถนนสายแคบๆที่สร้างขึ้นแบบสลับซับซ้อน งดงามด้วยบรรยากาศสองข้างทางที่เต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนสไตล์กอธิค และเรอเนสซองส์ ที่ยังคงสภาพเดิมได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดการเดินเล่นในเมืองนี้ จึงมีคนเปรียบเปรยว่าเสมือนการเดินชมอยู่ใน “พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง”

นำท่านถ่ายภาพกับ ศาลาว่าการเมือง (Rathaus) ที่ตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมือง เป็นอาคาร 2 หลังสร้างติดกัน อาคารด้านหน้าเป็นสไตล์เรอเนสซองส์ ส่วนอาคารสีขาวด้านหลังเป็นสไตล์โกธิค เป็นอาคารที่สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของเมือง หอนาฬิกาที่สร้างขึ้นในปี 1446 ทุก ๆ ชั่วโมง หน้าต่างของหอนาฬิกาแห่งนี้จะเปิดออก โดยจะมีตุ๊กตารูปปั้นชายสองคนที่เรียกว่า Meistertrunk หรือ The Master Draught ทำท่ากำลังดื่มไวน์จากเหยือกขนาดใหญ่ โดยชายผู้ที่ดื่มไวน์นี้ถือได้ว่าเป็นวีรบุรุษของเมืองเลยทีเดียว โดยมีเรื่องเล่าว่า ในช่วงระหว่างสงครามสามสิบปีนั้น เมืองนี้ได้ถูกรุกรานโดยท่านเคาน์ทิลลี่ (Count Tilly) ซึ่งประกาศว่า หากใครสามารถดื่มไวน์จากเหยือกขนาดใหญ่นี้ได้โดยไม่มีการหยุดพัก จะยกเว้นไม่ยึดเมือง ปรากฏว่าท่านเจ้าเมืองคือ ท่านลอร์ด นุช (Mayor Nusch) รับคำท้า และดื่มรวดเดียวจนหมด เมืองโรเธนบวร์กจึงรอดพ้นจากการรุกรานนี้

นำท่านผ่านชมโบสถ์เซนต์ จอร์จ ซึ่งสร้างในสไตล์กอธิค บริเวณโดยรอบมีอาคารสมัยยุคกลางสไตล์บาร๊อคหลายหลัง ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นโรงแรมและร้านอาหาร รวมถึงเป็นที่ตั้งของ อ่างน้ำพุเซนต์จอร์จ (St.George’s Fountain) ที่สร้างในสไตล์เรอเนสซองส์ที่สวยงาม เป็นอ่างน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดของเมือง ลึก 8 เมตร แต่เดิมมีไว้ให้ประชาชนใช้น้ำ และกักตุนน้ำไว้ยามเกิดเพลิงไหม้ ชมความงดงามของอาคารบ้านเรือนหลากสีสัน และพลาดไม่ได้กับการถ่ายภาพบริเวณจัตุรัส Plönlein ซึ่งมีความหมายในภาษาเยอรมันว่า “จัตุรัสเล็ก” เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดของเมืองด้วยความลงตัวของทัศนียภาพ และสถาปัตยกรรมยุคกลางอันโดดเด่น มีหอคอยโดดเด่นชื่อว่า Siebers Tower ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1385 และประตูเมืองโบราณ (Kobolzeller Gate) เป็นจุดสังเกตสำคัญ ถือเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวแวะชม และถ่ายภาพมากที่สุด

กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

เดินทางสู่เมืองไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg) ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 2 ชม. เมืองที่สุดแสนโรแมนติก ตั้งอยู่ในรัฐบาเดน-เวิร์ทเทมแบร์ก บริเวณฝั่งแม่น้ำเน็กคาร์ ซึ่งเป็นรัฐทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเยอรมนี โดยที่เมืองหลวงของรัฐนี้คือเมืองสตุ๊ดการ์ท เมืองไฮเดลเบิร์กมีความน่าสนใจมากทั้งประวัติศาสตร์ของเมือง อีกทั้งยังเป็นเมืองมรดกโลก ซึ่งในอดีตเมืองแห่งนี้เคยเป็นศูนย์กลางการศึกษาที่สําคัญของเยอรมัน เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์ก ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของเยอรมัน ด้วยความสวยงามของเมืองนี้ทำให้มีนักท่องเที่ยวนับล้านคนในแต่ละปีต้องมาเยือนเมืองแห่งนี้เดินทางถึง เมืองไฮเดลเบิร์ก (HELDELBERG)

นำท่านชมปราสาทไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg Castle) เป็นปราสาทเก่าในเมืองไฮเดิลแบร์ค ประเทศเยอรมนี เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างจากยุคเรอแนซ็องส์ที่สำคัญที่สุดในตอนเหนือของเทือกเขาแอลป์ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อใด แต่ปราสาทหลังนี้ได้รับการกล่าวถึงครั้งแรกในปีค.ศ. 1214 เมื่อจักรพรรดิฟรีดริชที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ได้พระราชทานปราสาทหลังนี้ให้แก่ลุดวิจที่ 1 ดยุกแห่งบาวาเรีย ตั้งแต่นั้นมา ปราสาทหลังนี้ก็อยู่ในการครอบครองโดยตระกูลวิทเทลส์บัค จากการที่ปราสาทขนาดนี้มีขนาดใหญ่และตั้งอยู่บนเชิงเขา หน้าปราสาทมีแม่น้ำเนคคาร์ไหลผ่าน ปราสาทหลังนี้จึงเป็นป้อมปราการอย่างดีในการป้องกันข้าศึก

 เย็น : รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

วันที่ 4
สตุ๊ทการ์ด-เดินเล่นชมเมือง-จัตุรัสกลางเมือง-Outlet Metzingen-สตราสบูร์ก เดินเล่นชมเมือง-มหาวิหารนอทเทรอดาม

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเดินทางไปยังเมืองสตุ๊ทการ์ด (Stuttgart) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Neckar เมืองใหญ่อันดับ 6 ของประเทศ เมืองแห่งนี้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท โดยเป็นที่ตั้งของโรงงานและสำนักงานใหญ่ของบริษัทหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Porsche, Bosch, Mercedes-Benz, Daimler AG และ Dinkelacker

นำท่านชม พระราชวังแห่งใหม่(Neues Schloss) ที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 18 ในสถาปัตยกรรมบาโรคซึ่งนับเป็นพระราชวังขนาดใหญ่แห่งท้าย ๆ ที่สร้างขึ้นทางตอนใต้ของเยอรมนี นำท่านชม Collegiate Church สร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 10-11 ด้วยสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ นำท่านเที่ยวชม Schillerplatz ซึ่งเดิมเป็นที่ตั้งของพระราชวังเดิม ปราสาทแห่งนี้เดิมเป็นปราสาทกลางน้ำที่มีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 10 เป็นที่อยู่อาศัยของเคานต์และต่อมา ดยุกแห่งเวือร์ทเทมแบร์กและปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ Landesmuseum Württemberg โบสถ์ของปราสาทยังคงทำหน้าที่เป็นสถานที่สักการะบูชา เดินเที่ยวชม จัตุรัสกลางเมือง(Markplatz) ที่ถูกทำลายลงทั้งหมดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้อาคารรอบด้านที่เห็นในปัจจุบันเป็นส่วนที่สร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ให้ท่านได้อิสระช้อปปิ้ง Outlet Metzingen ที่ซึ่งมีร้านให้เลือกช้อปปิ้งได้อย่างเต็มที่

กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่ เมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg) ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม. เป็นเมืองหลวงของแคว้นอัลซาส ตั้งอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำไรน์ บนพรมแดนติดกับประเทศเยอรมนีได้ชื่อว่าเป็นหัวใจของยุโรป เดินทางถึง สตราสบูร์ก จากนั้นนำท่าน เดินเล่นชมย่านเมืองเก่า ที่เรียกว่า LE PETITE FRANCE ผ่านชมมหาวิหารนอทเทรอดาม (Strasbourg Cathedral) ได้รับการยกย่องให้เป็นมหาวิหารที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สร้างด้วยหินทรายสีชมพูทั้งหลังโดยสร้างขึ้นในช่วงกลางถึงปลายศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาในการก่อสร้างนานกว่า 260 ปี อิสระให้ท่านถ่ายภาพความประทับใจตามอัธยาศัย จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

เย็น : รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

วันที่ 5
สตราสบูร์ก-อองกิเซ็ม-กอลมาร์-ลูเซิร์น-ล่องทะเลสาบลูเซิร์น-นั่ง Cogwheel

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเที่ยวชม เมืองอองกิเซ็ม (Eguisheim) หมู่บ้านน่ารักในแคว้น Alsace ที่ชื่อว่า เอกีเชม (Eguisheim) ขนาดเล็กกะทัดรัด ผังเมืองเป็นตรอกซอกซอย คนไม่เยอะ มีมุมน่ารักๆ ให้ถ่ายรูปตลอดทาง นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองกอลมาร์ (Colmar) เมืองเล็กๆอันเป็นเมืองบ้านเกิดของ จิตรกร และช่างแกะพิมพ์มาร์ติน โชนเกาเออร์ และประติมากรเฟรเดริก โอกุสต์ บาร์ตอลดี ผู้ออกแบบอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ เป็นเมืองที่มีความโรแมนติก เมืองหนึ่งของฝรั่งเศส และเป็นสถานที่ที่คู่รักมัก จะให้คำสัญญาในความรักระหว่างกันและกัน ด้วยบรรยากาศที่สวยงาม สถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ จึงทำให้เมืองกอลมาร์ เป็นอีกหนึ่งในสถานที่โรแมนติกในฝันของใครอีกหลายคน

นำท่าน ชมเมืองกอลมาร์ ดินแดนแห่งความงาม ที่มีตึกราบ้านช่องสวยงาม มีจุดเด่นอยู่ที่ความงามของดอกไม้ที่มีอยู่ทั่วเมือง จัดเป็นอีกเมืองที่ถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีความโรแมนติก จนได้รับการขนานนามว่า ลิตเติ้ลเวนิซปัจจุบันเมืองเก่าแก่แห่งนี้ได้กลายเป็นเมืองที่น่ามาเยือนเป็นอันดับต้นๆของประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองที่มีลักษณะสถาปัตยกรรม และบรรยากาศของเมืองโบราณมีบ้านเรือนที่สวยงาม และได้รับการดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดี บ้านเรือนแบบนี้ เรียกว่า Colombage (ฝรั่งเศส) หรือ Fachwerkhaus (เยอรมัน) เป็นบ้านครึ่งไม้ซุงซึ่งเป็นแบบบ้านที่เป็นเอกลักษณ์และเห็นได้ทั่วไปในแคว้นอัลซาส ลักษณะพิเศษของบ้านจะขึ้นโครงบ้านด้วยไม้ทั้งหลังรวมทั้งหลังคาก่อน

กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น(Luzern) ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 34 นาที เมืองพักตากอากาศที่ได้ชื่อว่านักท่องเที่ยวบันทึกภาพไว้มากที่สุด มีทะเลสาบ ภูเขา ที่สวยงามท่ามกลางหุบเขา มองไปทางไหนก็จะเห็นภูเขาโอบล้อม ให้ท่านอิสระเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งที่มีร้านตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาชื่อดัง อาทิ บุคเคอเรอร์ กือเบอลิน เอ็มบาสซี่ ร้านขายของที่ระลึก ร้านช็อคโกแล็ตและช้อปปิ้งสินค้าชั้นดี ที่มีชื่อเสียงตามอัธยาศัย

นำท่านล่องเรือทะเลสาบลูเซิร์น (Cruise lucerne lake) เป็นการล่องเรือชมทะเลสาบที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา โอบล้อมไปด้วยอ้อมกอดแห่งเทือกเขาธรรมชาติและอาคารบ้านเรือนรูปทรงน่ารักสะดุดตา แต่งแต้มให้เกิดทัศนียภาพอันสวยงาม และให้กลิ่นอายแห่งความเป็นเมืองแห่งขุนเขาได้เป็นอย่างดี อีก 1 จุดที่น่าสนใจของเส้นทางสายนี้ก็คือ ท่านสามารถต่อ Cogwheel railway เพื่อที่จะขึ้นไปสัมผัสหมอกหยอกล้อกับยอดเขา Pilatus ที่สูง 2,132 เมตรได้ โดย cogwheel railway นี้ ได้ถูกจัดอันดับให้เป็นสายรถ cogwheel ที่ชันที่สุดในโลก โดยมีความชันถึง 48 องศา

เย็น : รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

วันที่ 6
เบิรน์-บ่อหมีสีน้ำตาล-ชมย่านเมืองเก่า-ชาโมนิกซ์-ยอดเขามองบลังค์

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น(Bern) เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์ มีหมีสีน้ำตาลเป็นสัญลักษณ์ เป็นเมืองหลวงที่มีความเก่าแก่สวยงาม เป็นเมืองที่มีแม่น้ำล้อมรอบไว้ทั้ง3 ด้าน ชื่อว่า “เบิร์น” มากจากคำว่าแบร์ ซึ่งแปลว่า หมี เป็นสัตว์ในยุตแบร์ชโทลด์นำมาตั้งชื่อเมือง เป็นการตั้งชื่อเมืองตามสัตว์ที่เจอเป็นตัวแรก หมีจึงกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมาจนถึงทุกวันนี้ แม้กระทั่งธงยังเป็นรูปหมี ถังขยะรูปหมี ร้านค้า โรงแรมหลายแห่งก็เป็นรูปหมี ของฝากของที่ระลึกก็หมี

นำท่านชมบ่อหมีสีน้ำตาล(Bear Park) สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่านชมมาร์กาสเซ ย่านเมืองเก่า ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่าอายุ 200-300 ปี นำท่านลัดเลาะชม ถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดของเมืองนี้ ถนนกรัมกาสเซ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชมนาฬิกาไซ้ท์ คล็อคเค่นทรัม อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง นำท่านแวะถ่ายรูปกับโบสถ์ Munster สิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1421 ประตูจะมีภาพที่บรรยายถึงการตัดสินครั้งสุดท้ายของพระเจ้า

กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่ เมืองชาโมนิกซ์ (Chamonix) มีชื่อย่อที่ใครๆเรียกกันว่า “ชาโมนิกซ์” มีชื่อเล่นว่า “The White Lady” (La Dame Blanche) หรือ ภูเขาสีขาว เหตุมาจากยอดเขาที่มีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดทั้งปี เป็นเมืองทางทิศตะวันออกของ ประเทศฝรั่งเศส มีอาณาเขตติดกับชายแดนประเทศสวิตเซอร์แลนด์และประเทศอิตาลี พาท่านชมหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่น่าอยู่และมีความน่ารักในตัวเอง มีทัศนียภาพที่งดงามต่อการถ่ายภาพ เห็นภูเขาหิมะขาวโพลนเป็นฉากหลัง ใจกลางหมู่บ้านมีการผสมผสานที่อยู่อาศัยของผู้คนในพื้นที่เข้ากับร้านค้า ร้านอาหาร และที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวได้อย่างลงตัว นำท่านสู่สถานีไอ กุย ดู มิดิ (Aiguille du Midi Station) ที่ความสูง 3,777 เมตร ให้ท่านได้ตื่นเต้นหวาดเสียวกับการยืนบนกระจกใสยื่นออกไปจากหน้าผาที่สูงกว่า 1,000 เมตร (A Step Into The Void) ขึ้นลิฟต์ไปยังบนจุดสูงสุดของยอดเขามองบลังค์(Mont Blanc) ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนระหว่างประเทศฝรั่งเศสกับประเทศอิตาลี เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขาแอลป์ มีความสูง 4,807 เมตร ทั้ง “มองบลังค์” และ “มอนเตเบียนโก” ต่างมีความหมายว่า “ภูเขาสีขาว”

เย็น : รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

วันที่ 7
ชาโมนิกซ์-เจนีวา-สวนอังกฤษ-นาฬิกาดอกไม้-น้ำพุเจ็ดโด้-นั่งรถไฟ TGV ชั้นโดยสารที่ 1 ปารีส

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองที่มีมนต์เสน่ห์อันเหลือล้น ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือนมากที่สุด ปัจจุบันเมืองเจนีวาเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ นำท่านเข้าชม สวนอังกฤษ (Jardin Anglais) เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจริมทะเลสาบเจนีวาที่ชาวสวิสและนักท่องเที่ยวนิยมเข้ามาเยี่ยมชมความสวยงามของดอกไม้และวิวทะเลสาบสีฟ้า ชม นาฬิกาดอกไม้ (L’ horloge Fleurie), อนุเสาวรีย์แห่งการรวมชาติ(Monument National), น้ำพุเจ็ดโด้  (The Jet d’ Eau)

กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟ TGV Geneve เพื่อนั่งรถไฟ TGV ชั้นผู้โดยสารที่ 1 สู่กรุงปารีส ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 13 นาที เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส(France) เมืองที่มีมนต์เสน่ห์อันเหลือล้น ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือนมากที่สุด ปัจจุบันเมืองปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ เดินทางถึง กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

เย็น : รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร Le Train Bleu

ร้านอาหาร Paris ถ้าใครอยากสัมผัสบรรยากาศราวกับนั่งกินอาหารในพระราชวัง รับรองจะปลื้มกับที่นี่แน่ๆ เพราะ Le Train Bleu ดีไซน์ได้เรียบหรู โดดเด่นไปด้วยสีทองเหลืองอร่าม มีเฟอร์นิเจอร์และของประดับตกแต่งที่ดูแพงสุดๆ อย่าง โคมไฟแชนเดอร์เลียร์ Le Train Bleu มีเมนูให้เลือกหลากหลาย แต่ที่ห้ามพลาดเลยคือ เมนู Foie gras (ฟัวกราส์) ของขึ้นชื่อที่ฝรั่งเศส

วันที่ 8
พิพิธภัณฑ์ลูฟว์-ล่องเรือบาโตมูซ-Countdown New Year @ Kong Restaurant

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์ลูฟว์(Louvre Museum) พิพิธภัณฑ์ทางศิลปะที่มีชื่อเสียง เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตัวอาคารเดิมเคยเป็นพระราชวังหลวง แต่ปัจจุบันเป็นสถานที่ที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็นจำนวนมาก กว่า 35,000 ชิ้น เช่น ภาพวาดโมนาลิซา (Mona lisa),The Virgin and Child with St. Anne, Madonna of the Rocks ผลงานอันโด่งดังของลีโอนาร์โด ดาวินชี

กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนู หอยเอสคาโก (Escargots) และไวน์แดง

นำท่าน ล่องเรือบาโตมูซ(Bateaux Mouches) แม่น้ำแซนน์ ผ่านชมหลายสถานที่สวยงาม หอไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟว์ และโบสถ์นอธเทอดาม สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 เรือสองชั้น โดยชั้นล่างจะมีกระจกโดยรอบ สำหรับชั้นบนจะเป็นโซนเปิดหลังคา ระยะเวลาในการล่องเรือประมาณ 1 ชั่วโมง ผ่านชม พิพิธภัณฑ์ออร์แซ (Musée d’Orsay หรือ The Orsay museum) ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ และ เป็นอันดับที่ 10 ของโลก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเซน เคยเป็นสถานีรถไฟเก่ามาก่อน แต่ตอนนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมงานศิลปะทางประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสไว้ ภายในมีผลงานศิลปะหลากหลายแขนงตั้งโชว์ไว้ที่นี่ มากกว่า 2,000 ชิ้น รวมประติมากรรมต่างๆ

เย็น : รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร Kong Restaurant พิเศษ Countdown New Year  ตัวร้านอาหารจะอยู่ชั้นบนของตึกและหลังคาจะเป็นโดมใส ทำให้สามารถเห็นวิวเมืองปารีสได้

วันที่ 9
Duty Free-La Sa Maritaine-Galleries Lafayette-สนามบินปารีส

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม นำท่านช้อปปิ้ง Duty Free สินค้าปลอดภาษีแห่งกรุงปารีส ให้ท่านได้อิสระช้อปปิ้งกันอย่างเต็มที่

นำท่านช้อปปิ้ง ห้างสรรพสินค้า La Samaritaine เป็นห้างหรูที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของปารีส ที่นี่มีเสน่ห์ของอาคารแบบดั้งเดิม นั่นคือการตกแต่งแบบ Art Nouveau และ Art Déco ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ จนได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ในปี 1990 โดยกระทรวงวัฒนธรรมฝรั่งเศส  เป็นห้างสรรพสินค้าคอนเซปต์สโตร์แห่งใหม่ที่เน้นย้ำถึงเสน่ห์ของชุมชนชาวปารีส ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น อาหาร และงานศิลปะ รวมแล้วกว่า 600 แบรนด์ ให้ท่านได้เลือกช็อปปิ้งแบบจุใจ และมีการจัดนิทรรศการที่จะสลับหมุนเวียนให้ได้ชมตลอดปี

กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร พิเศษ เมนู Seafood Platter หอยนางรมสด

นำท่านช้อปปิ้งห้างแกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (Galleries Lafayette) ห้างหรูที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของปารีส ภายในอาคารที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ช้อปปิ้งแบรนด์เนม ห้างนี้มีเอกลักษณ์ที่มีความโดดเด่นอย่างมาก โดยเฉพาะหลังคาโดมภายในตัวโถงอาคาร มีการตกแต่งประดับดาอย่างสวยงาม ลักษณะโดมเป็นโครงเหล็กประดับกระจกสี มีลวดลายสไตล์อาร์ตนูโว (ผู้ออกแบบ Art Nouveau) ซึ่งเป็นแนวศิลปะที่นิยมกันมากในฝรั่งเศสช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 การตกแต่งของอาคารโดยรอบใช้ลวดลายปูนปั้นและราวระเบียงโค้ง อันเป็นทัศนียภาพที่งดงามต่อเมืองท่องเที่ยวอย่างปารีส เป็นห้างสรรพสินค้านี้มีลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมารวมกันอยู่เยอะมาก มีสินค้าต่างๆที่ทันสมัยให้เลือกซื้อได้อย่างจุใจ ไม่ตกเทรนด์ เรียกได้ว่าอะไรใหม่ๆมา Galleries Lafayette นั้นจะมีขายก่อนก่อนห้างอื่นเสมอ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า น้ำหอม มีครบทุก ยี่ห้อ ได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางสู่ สนามบินกรุงปารีส

21.10 น. : ออกเดินทางจากกรุงปารีส กลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินโอมาน แอร์(WY) เที่ยวบินที่ WY132 (21.10-07.10(+1)) // WY815 (09.00-17.45) ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 14.35 ชั่วโมง บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง

วันที่ 10
กรุงเทพ(สนามบินสุวรรณภูมิ)

17.45 น. : เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

เงื่อนไข
  1. ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ (Business Class) แบบหมู่คณะ/ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
  2. ค่ารถโค้ช ปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ
  3. ค่าห้องพักในโรงแรมที่ระบุตามรายการหรือเทียบเท่า
  4. ค่าอาหารที่ระบุตามรายการ
  5. ค่าเข้าชมสถานที่ทุกแห่งที่ระบุตามรายการ
  6. ค่าวีซ่าท่องเที่ยวยุโรปแบบ Etats Schengen
  7. ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงินประกันท่านละ 3,000,000 บาทและค่ารักษาพยาบาล 2,500,000บาทไม่คุ้มครอง โรคประจำตัวหรือโรคร้ายแรงที่แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นก่อนเดินทางรายละเอียดอื่นๆเป็นไปตามเงื่อนไขแห่งกรมธรรม์ฯ
  8. ค่าประกันรวมรักษาโควิดหากป่วยหรือต้องกักตัวในต่างประเทศ(รายละเอียดเป็นไปตามเงื่อนไขแห่ง.  กรมธรรม์)
  9. ทิปคนขับรถในยุโรปวันละ 2 ยูโร/ท่าน/วัน
  10. พนักงานยกกระเป๋าโรงแรมที่พัก
  11. น้ำดื่มวันละ 1 ขวด / ท่าน
  12. ค่าน้ำหนักกระเป๋า (น้ำหนัก 40 กิโลกรัม)
  1. ค่าธรรมเนียมจัดทำหนังสือเดินทาง, แจ้งเข้าแจ้งออกสำหรับผู้ที่ไม่ได้ถือหนังสือเดินทางของไทย
  2. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ในกรณีที่ต้องการใบกำกับภาษี
  3. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, มินิบาร์และทีวีช่องพิเศษ ฯลฯ
  4. ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษ
  5. ค่าปรับสัมภาระที่เกินกว่าที่สายการบินกำหนด
  6. ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ขึ้นอยู่กับความพอใจของท่าน

เงื่อนไขการยกเลิกและการปรับเงินค่าบริการ

– ยกเลิกการเดินทาง 45 วันไม่เก็บค่าใช้จ่าย (ช่วงหน้าเทศกาลหรือหยุดยาวเช่นสงกรานต์/ปีใหม่ เป็น 60 วัน)

– ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30 วันคืนมัดจำ 100% (และหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน/ค่ามัดจำโรงแรมเป็นต้น)

– ยกเลิกก่อนการเดินทาง 15–29 วันคืนมัดจำ 50% (และหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน/ค่ามัดจำโรงแรมเป็นต้น)

– ยกเลิกก่อนการเดินทาง 0-15 วันหักค่าใช้จ่าย100%ของราคาทัวร์

– ผู้เดินทางไม่สามารถเข้า–ออกเมืองได้เนื่องจากเอกสารปลอมหรือการห้ามของเจ้าหน้าที่หักค่าใช้จ่าย 100%

– กรณียื่นวีซ่าแล้วไม่ได้รับการอนุมัติจากทางสถานทูต (วีซ่าไม่ผ่าน) และท่านได้ชำระค่าทัวร์หรือมัดจำมาแล้วทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการหักค่าบริการค่ายื่นวีซ่าและค่าใช้จ่ายบางส่วนที่เกิดขึ้นจริงเป็นกรณีไป อาทิ กรณีออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว หรือได้ชำระค่าบริการในส่วนของทางเมืองนอก เช่น โรงแรม, รถไฟ ฯลฯ ไปแล้ว ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการหักเก็บ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นแล้วกับท่านเป็นกรณีไป

หมายเหตุสำคัญเพิ่มเติม

  1. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อค่าชดเชยความเสียหายกรณีที่เกิดจากเหตุวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน, การนัดหยุดงาน, การประท้วง, การก่อจลาจล, อุบัติเหตุ, ปัญหาการจราจร, ภัยธรรมชาติ, ภูเขาไฟระเบิด, แผ่นดินไหวโรคระบาดและเหตุสุดวิสัยต่าง ๆ ฯลฯ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้
  2. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยวหรือยกเลิกจากเหตุสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน, การนัดหยุดงาน,การประท้วง,การก่อจลาจล,อุบัติเหตุ,ปัญหาการจราจร,ภัยธรรมชาติ,ภูเขาไฟระเบิด, แผ่นดินไหว, โรคระบาดและเหตุสุดวิสัยต่าง ๆฯลฯ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ ทั้งนี้ทางบริษัทจะคำนึงถึง ผลประโยชน์และความปลอดภัยของทุกท่านเป็นสำคัญ
  3. ท่านจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบดูแลทรัพย์สินของมีค่าส่วนตัวต่างๆของท่านเองหากเกิดการสูญหายของทรัพย์สินส่วนตัว ของมีค่าต่างๆระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวอันมีสาเหตุมาจากผู้เดินทาง ทางบริษัทฯจะไม่สามารถรับผิดชอบทุกกรณี
  4. บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อค่าชดเชยความเสียหายกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองไม่อนุญาตให้เดินทางออก หรือกองตรวจคนเข้าเมืองของแต่ละประเทศไม่อนุญาตให้เข้าเมืองรวมทั้งในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือ เดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทาง หากท่านถูกปฏิเสธการเดินทางเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง หรือ เนื่องจากเหตุผลหรือความผิดของตัวท่านเอง
  5. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการขายหรือไม่ขายเป็นรายกรณีเช่นผู้ที่ตั้งครรภ์, เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ, ผู้ที่นั่งวิลแชร์หรือ บุคคลที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ฯลฯ กรุณาแจ้งบริษัทฯเพื่อสอบถามและหาข้อสรุปร่วมกันเป็นรายกรณี
  6. ราคาทัวร์เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับต่างประเทศไปหมดก่อนกรุ๊ปเดินทางแล้วหากท่านไม่ได้ใช้บริการบาง รายการหรือยกเลิก ไม่สามารถเรียกร้องเงินคืนได้
  7. เนื่องจากเราเดินทางเป็นหมู่คณะ ทางบริษัท จึงคำนึงถึงประโยชน์ และความปลอดภัย ของส่วนรวมเป็นสำคัญ
Share on social networks
โปรแกรมทัวร์ที่น่าสนใจ
  • ต.ค.65 - ธ.ค.65
  • 8 วัน 5 คืน
เริ่มต้น 72,999 บาท
  • ธ.ค.65 - มี.ค.66
  • 5 วัน 3 คืน
เริ่มต้น 30,888 บาท
  • มิ.ย.65 - ธ.ค.65
  • 8 วัน 5 คืน
เริ่มต้น 74,900 บาท