16:30 น. : พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออกชั้น 4 ประตู9 เคาน์เตอร์ T สายการบิน OMAN AIR โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร ติดแท็กกระเป๋าก่อนขึ้นเครื่อง
20.40 น. : นำท่านเดินทางสู่ เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน โดยสายการบิน OMAN AIR เที่ยวบินที่ WY816
23:35 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต ประเทศโอมาน แวะพักเปลี่ยนเครื่อง
02:00 น. : นำท่านเดินทางสู่ถึง ท่าอากาศยานแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน เที่ยวบินที่ WY115
07:05 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทางศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทางศุลกากรและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้วนำท่านขึ้นรถโค้ชปรับอากาศเดินทางสู่ เมืองแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt) (ระยะทาง 14 กม. / 30นาที) เป็นเมืองขนาดใหญ่ติดหนึ่งในห้าของประเทศเยอรมัน มีความเจริญและทันสมัยสมกับเป็นศูนย์กลางของทั้งการบินและเศรษฐกิจ เขตเมืองเก่าของเมืองมีขนาดเล็ก ถูกห้อมล้อมด้วยตึกระฟ้า ความเจริญรอบด้าน
นำท่านเดินชม จัตุรัสโรเมอร์ (Romerberg) เป็นจัตุรัสกลางใจเมืองที่มีความสวยงาม เป็นจัตุรัสที่คงความงามของสถาปัตยกรรมยุคศตวรรษที่ 14-15 ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชม ที่นี่เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการกลางเมือง สถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค ที่เคยรุ่งเรืองในยุคนั้น แต่สิ่งที่เห็นในปัจจุบันคือการสร้างขึ้นใหม่เพราะอาคารเดิมถูกทำลายสิ้นซากตั้งแต่ครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 ศิลปะเก่าแม้ถูกสร้างใหม่แต่คงเสน่ห์ความงดงามเอาไว้ มีน้ำพุสวยงามอยู่ตรงกลางของจัตุรัส เป็นที่รู้จักในนามน้ำพุแห่งความยุติธรรม ประติมากรรมรูปเทพธิดา ที่มือซ้ายถือตาชั่ง แต่มือขวาถือดาบ เป็นสัญญาณให้รู้ถึงมีความเที่ยงตรงแต่ก็เด็ดขาดอยู่ในตัวเอง
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ มหาวิหารแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt Cathedral) เป็นโบสถ์เก่าแก่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองแฟรงเฟิร์ต วิหารแห่งนี้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ความสามัคคีของคนในชาติ มีลักษณะทรงสูงใช้สีน้ำตาลแดง มีความสูงถึงยอดประมาณ 95 เมตร จึงโดดเด่นอยู่ท่ามกลางอาคารอื่นๆ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซังกอร์ (St.Goar) (ระยะทาง 116 กม. / 1ชม. 30นาที) เมืองนี้ตั้งอยู่ที่ใจกลางช่องเขา Rhine Gorge เลื่องชื่อเรื่องปราสาทโบราณ ไร่องุ่น และเนินเขาหินในตำนาน เป็นเมืองที่น่าดึงดูดใจซึ่งตั้งอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำไรน์ด้านตะวันตก ท่ามกลางสภาพภูมิประเทศอันเขียวขจี และวัฒนธรรมการผลิตไวน์ของภูมิภาคนี้ เมืองซังกอร์ห้อมล้อมด้วยส่วนพื้นที่ช่องเขา Rhine Gorge ซึ่งได้รับการอนุรักษ์โดยยูเนสโก
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่1)
นำท่าน ล่องเรือแม่น้ำไรน์ ชมความสวยงาม ระหว่างเมืองซังกอร์ St.Goar และเมืองบอบพาร์ด Boppard ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง และคุณจะเห็นความงดงามของยุคกลางประวัติศาสตร์ของเยอรมัน ทิวทัศน์งดงาม ทำให้ทุกท่านสามารถเก็บภาพทิวทัศน์อันตระการตาและสถาปัตยกรรมอันวิจิตรของยุคกลาง
เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่2)
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่3)
นำท่านเดินทางสู่ มหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) มหาวิหารแห่งพลังศรัทธาที่สร้างอย่างยิ่งใหญ่ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิก โดดเด่นด้วยหอคอยคู่ความสูง 157.38 เมตรที่ตั้งตระหง่านเป็นแลนด์มาร์คแห่งเมืองโคโลญคู่กับสะพานโฮเอินซอลเลิร์นที่ทอดข้ามแม่น้ำไรน์ เป็นที่ประดิษฐานของหีบสามกษัตริย์อันล้ำค่าตามความเชื่อของศาสนาคริสต์ รวมถึงเป็นแหล่งเก็บสะสมและจัดแสดงผลงานประติมากรรม โบราณวัตถุ และศิลปะเก่าแก่ทางศาสนา นำทุกท่านไปเก็บภาพความประทับใจที่ สะพานโฮเอินซอลเลิร์น (Hohenzollern Bridge) เป็นสะพานประจำเมืองโคโลญคู่กับมหาวิหารโคโลญ เป็นสะพานข้ามแม่น้ำไรน์ที่มีทั้งทางรถไฟและทางเดินเท้า โดยบริเวณรั้วที่กั้นระหว่างทางเดินและทางรถไฟเป็นบริเวณที่นักท่องเที่ยวนิยมมาคล้องกุญแจแห่งความรัก เป็นอีกหนึ่งสีสันหนึ่งของการท่องเที่ยวเมืองโคโลญในปัจจุบัน
เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่4)
นำทุกท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านกีโธร์น (Giethoorn) ประเทศเนเธอร์แลนด์ (ระยะทาง 281 กม. / 4 ชม.) โดยนำท่านนั่งเรือเที่ยวชมหมู่บ้านใช้ระยะเวลาประมาน 1 ชม. เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น เวนิสเนเธอร์แลนด์ (Venice of the Netherlands) ที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ผู้คนใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ไม่มีเส้นทางการเดินรถ เน้นการสัญจรด้วยเรือเป็นส่วนใหญ่ เหมาะสำหรับการสัมผัสบรรยากาศการใช้ชีวิตของผู้คนในพื้นที่แบบไม่เร่งรีบท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบ เส้นทางการล่องเรือจะขับไปตามตัวหมู่บ้าน จากนั้นจะเลี้ยวไปยังพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติซึ่งมีทะเลสาบขนาดใหญ่ มองเห็นเกาะตรงกลางที่มีบ้านประมาณสองถึงสามหลัง และอีกด้านของทะเลสาบยังเป็นพื้นที่แคมป์ปิ้ง มีจุดกางเต้นท์ รวมไปถึงบ้านพักเป็นหลังๆ เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาแคมป์ปิ้งในช่วงหน้าร้อนเช่นกัน
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) (ระยะทาง 118 กม. / 1 ชม. 30 นาที) เป็นเมืองหลวงของ ประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Amstel ปัจจุบันอัมสเตอร์ดัมยังเป็นศูนย์กลางทางการค้าและเศรษฐกิจและยังเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดในประเทศและมีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกด้วย
เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่5)
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่6)
นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านกังหันลมซานส์สคันส์ (Zaanse Schans) แลนด์มาร์คแห่งเนเธอร์แลนด์ เป็นพื้นที่อุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในของประเทศ มีกังหันลมนับร้อยแห่งซึ่งชาวดัชท์ใช้กังหันลมมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ปัจจุบันหมู่บ้านแห่งนี้ได้ถูกจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านขายของที่ระลึก และศูนย์ฝึกอบรม ให้ท่านเยี่ยมชมสถานที่สำคัญในหมู่บ้าน
นำท่านเก็บภาพความประทับใจกับ World of wildmills กังหันลมนับร้อยรอบๆหมู่บ้านกังหัมลม สามารถขึ้นไปชมวิวได้แบบพาโนรามา รับลมเย็นๆแบบโรแมนติกทุ่งหญ้าสีเขียวกว้างสุดลูกหูลูกตา โรงงานทำรองเท้าไม้ (Wooden shoe workshop) มีการจำลองโรงงานรองเท้าไม้ ที่เป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งที่เป็นที่รู้จักมาอย่างยาวนาน สมัยก่อนรองเท้าเป็นสิ่งที่หายาก แพง เป็นของสำหรับคนมีฐานะชาวนาผู้ห่างไกลความเจริญจึงต้องสร้างรองเท้าขึ้นมาเอง โดยทำมาจากไม้ที่พิเศษที่สามารถกันน้ำได้เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ของเนเธอร์แลนด์เป็นที่ราบลุ่มริมฝั่งที่น้ำท่วมถึง ท่านสามารถซื้อรองเท้าไม้สีสันสดใสเป็นของฝากได้ โรงงานทำชีส (Catharina Hoeve Cheese) โรงงานมีการสาธิตการทำชีส ฟังบรรยายทุกขั้นตอน นำท่านเดินชมแต่ละจุดพร้อมชิมชีสที่มีหลายชนิดรสชาติที่แตกต่างกันไปและสามารถซื้อเป็นของฝาก
เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่7)
นำท่านเยี่ยมชม โรงงานเพชร Royal coaster diamond factory ในเมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์มีโรงงานเพชรอยู่หลายโรงงานและหนึ่งในผู้ที่เก่าแก่ที่สุดก็คือที่นี้ สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1852 เพชรที่มีชื่อเสียงของที่นี้คือ “Kokhinur” ถูกดัดแปลงเป็นสมบัติของอังกฤษ นั้นก็คือมงกุฎและปัจจุบันเก็บไว้ในหอคอยลอนดอน นำท่าน ล่องเรือท่องเที่ยว รอบคลองในอัมสเตอร์ดัม(Amsterdam Canal Cruise)
ให้ถ่ายภาพความสวยงามด้านนอกกับ พระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม (Royal Palace) อาคารที่หรูหราและโอ่อ่าที่สุดของเนเธอแลนด์ สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 17 โดยพระเจ้าหลุยส์ อิสระช้อปปิ้งย่านคาลเวอร์สตรัส Kalverstraat เป็นถนนช้อปปิ้งที่พลุกพล่านในอัมสเตอร์ดัม เป็นสินค้าแฟชั่นแนวไฮสตรีท รองเท้าและกระเป๋า เช่น H&M, Zara, Lady Sting, Björn Borg, กางเกงยีนส์ Levi, Esprit, Sissy Boy, Nike, และยังมีร้านบูติก ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ น้ำหอม ของขวัญและของที่ระลึกพิเศษมากมายให้ทุกท่านได้ซื้อเป็นของฝากอีกด้วย
เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่8)
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่9)
วจากนั้นพาทุกท่านเดินทางสู่ เมืองแอนต์เวิร์ป (Antwerp) ประเทศเบลเยียม (ระยะทาง 158 กม. / 2 ชม. 30นาที) แอนต์เวิร์ป เป็นเมืองที่มีความสำคัญมานานในกลุ่มประเทศแผ่นดินต่ำของทั้งทางเศรษฐกิจและทางวัฒนธรรมโดยเฉพาะก่อนการการปล้นเมืองแอนต์เวิร์ป (Sack of Antwerp)
ที่ปากน้ำเวสเทิร์นสเกลต์ (Western Scheldt) พาท่านท่องเที่ยวแลนด์มาร์คของเมือง เริ่มต้นที่ มหาวิหารเลดี้ (Cathedral of Our Lady) มหาวิหารขนาดใหญ่สุดตระการตาใจกลางเมือง เป็นโบสถ์แบบโกธิกที่ใหญ่ที่สุดในเบลเยี่ยม อิสระให้ท่านถ่ายภาพตามอัธยาศัย แกรนด์เพลส (Grote Markt) ศาลากลางจังหวัดและบ้านพักของสมาคมหลายแห่งเป็นหัวใจของเมืองเก่า ที่ยืนตรงกลาง น้ำพุ Brabo สร้างขึ้นในปี 1887 โดย Jef Lambeaux แล้วส่วนใหญ่ของอาคารที่มีพรมแดนติดกับ Grote Markt เป็นอดีตบ้านกิลด์ (gildehuizen) ซึ่งเดิมทำหน้าที่เป็นสำนักงานใหญ่ของเมืองของศตวรรษที่ 16
เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่10)
นำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองเกนต์ (Ghent) ประเทศเบลเยี่ยม (ระยะทาง 58 กม. / 1 ชม.) เมืองลูกผสมระหว่างยุคเก่ากับยุคใหม่ที่มีเอกลักษณ์ และความน่าสนใจทางประวัติศาสตร์และการวางผังเมืองที่รอบคอบ ทำให้ทุกอย่างอยู่ในระยะเดินได้อย่างสะดวกสบาย ทำให้นักท่องเที่ยวจะได้ชมทิวทัศน์ที่งดงามของสายน้ำที่ตัดกับสถาปัตยกรรมของเมืองได้อย่างลงตัว นำท่านถ่ายภาพด้านหน้ากับแลนด์มาร์คสำคัญของเมือง ปราสาทเกรเวนสตีน The Gravensteen (Castle of the Counts)
ถ่ายภาพกับ หอระฆังแห่งเกนต์ (Het Belfort van Gent) เป็นหอระฆังสูง 95 เมตรใจกลางเมืองเกนต์ของเบลเยียม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองบรัสเซลส์ (Brussels) (ระยะทาง 56 กม. / 1 ชม.) เมืองหลวงประเทศเบลเยี่ยม เป็นเมืองที่มีความใหญ่โต เเละสวยงามเป็นอย่างมาก ที่สำคัญยังเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างประเทศอย่างคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (EU) เเละสำนักงานใหญ่ของนาโต (NATO) อีกด้วย ถึงแม้จะเป็นเมืองหลวงขนาดเล็ก แต่ด้วยความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองหลวงแห่งนี้ ได้ดึงดูดเหล่านักท่องเที่ยวให้มาค้นหาอย่างไม่ขาดสาย นำท่านเที่ยวแลนด์มาร์คที่สำคัญของเมืองแห่งนี้ที่ อะโตเมียม (Atomium sculpture) ถือเป็นสถาปัตยกรรมล้ำยุคที่ตั้งอยู่กลางกรุงบรัสเซลล์
รูปปั้นแมนิเกนพีส (Manneken Pis fountain) ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมของถนนเลทุฟตัดกับถนนแซน ไปเก็บภาพความประทับใจด้านนอกต่อกันที่สถาปัตยกรรมงดงามอาคารที่สวยที่สุดในบรัสเซลล์หลังหนึ่งก็คือ พระราชวังหลวงแห่งบรัสเซลล์ (Royal Palace of Brussels) ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าสวนสาธารณะบรัสเซลล์ตรงข้ามกับอาคารรัฐสภา
อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัยที่ ถนน Avenue Louise เป็นถนนที่มีชื่อเสียงและมีราคาแพงที่สุดแห่งหนึ่งในบรัสเซลส์ เรียงรายไปด้วยร้านเสื้อผ้าแฟชั่นระดับไฮเอนด์และร้านบูติก นอกจากนี้ยังมีสถานทูตและสำนักงานหลายแห่งด้วยกัน
เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่11)
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่12)
เดินทางสู่ เมืองแร็งส์ (Reims) ประเทศฝรั่งเศส (ระยะทาง 229 กม. / 3 ชม.) เป็นเมืองในจังหวัดมาร์นในแคว้นช็องปาญาร์แดนตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของปารีส
เริ่มต้นที่ ปอร์ตเดอมาร์ส La Porte de Mars ประวัติศาสตร์โรมันของ Reims มีจำนวนไม่มากนัก หนึ่งในนั้นก็คือประตูชัยประจำเมืองแร็งส์ สิ่งก่อสร้างที่ถือได้ว่าเป็นอนุสาวรีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองแร็งส์ ซึ่งคนทั่วไปมักนิยมเรียกประตูแห่งนี้ว่า ประตูดาวอังคาร (Mars Gate) โดยประตูดาวอังคาร ถือว่าเป็นเป็นคนหนึ่งใน 4 ประตูโรมันที่มีความงดงามมากของฝรั่งเศส พาทุกท่านมาเที่ยวต่อกันที่ มหาวิหารแร็งส์ (Notre-Dame de Reims) ที่มีความสำคัญจากการเคยเป็นสถานที่จัดพระราชพิธีราชาภิเษกกษัตริย์ของประเทศฝรั่งเศส
พระราชวังโต (Tau Palace หรือ Palais du Tau) พระราชวังที่มีความสำคัญต่อราชวงศ์ฝรั่งเศส โดยเฉพาะเรื่องของพิธีบรมราชาภิเษก จากนั้นพาทุกท่านไปชม โบสถ์เซนต์แร็งส์ (Saint Remi Basilica หรือ Basilique Saint-Remi) อีกหนึ่งคริสตจักรที่สร้างแด่สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่9
เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่13)
นำทุกท่านเดินทางไปสู่ เมืองปารีส (Paris) (ระยะทาง 143 กม. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชม. 30นาที) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนแม่น้ำแซน บริเวณตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส เริ่มต้นเที่ยวเมืองปารีสด้วยการพาทุกท่านไป ล่องเรือแม่น้ำแซน บาโตมูช (Bateaux-Mouches) (ประมาณ 1 ชม.) มีการบรรยายเกี่ยวกับประวัติเมืองปารีสตลอดทั้งสายการเดินทางระหว่างสองข้างทางที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มหาวิหารน็อทร์-ดาม, หอไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ เป็นต้น จากนั้นนำทุกท่านเดินทาง จากนั้นพาทุท่านไปเก็บภาพความประทับใจกับแลนด์ม์คที่โด่งดังไปทั่วโลก เริ่มต้นที่ หอไอเฟล (Eiffel Tower) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของประเทศฝรั่งเศส
ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe) หรือเรียกเต็มๆว่า อาร์กเดอทรียงฟ์เดอเลตวล เป็นผลงานสถาปัตยกรรมที่ออกแบบโดย ฌ็อง ชาลแกร็ง มีอายุกว่า 200 ปี ถนนฌ็องเซลิเซ่ (Champs Elysees) เป็นหนึ่งในถนนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในฝรั่งเศส ย่านศูนย์การค้าระดับพรีเมียม แหล่งรวมสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกทุกแบรนด์ จากนั้นพาท่านไปเยี่ยมชมด้านนอกของ พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของเมืองปารีส
จากนั้นพาทุกท่านไปที่ จัตุรัสคองคอร์ด (Place de la Concorde) เป็นสถานที่แห่งความทรงจำทางประวัติศาสตร์ในกรุงปารีส พาทุกท่านไปอิสระช้อปปิ้งที่ ห้างปลอดภาษี Benlux Louvre duty free เป็นห้างชื่อดังใจกลางกรุงปารีส ซึ่งคุณจะได้ พบกับสินค้าแบรนด์ชั้นนำต่างๆจากทั่วโลก ในราคาที่ไม่แพงและบรรยากาศที่หรูหราตระการตา ที่ดีเด่นต่อนักท่องเที่ยวไทย เพราะมีพนักงานและข้อความภาษาไทยในห้างนี้ด้วย ห้าง La Samaritaine เป็นห้างสรรพสินค้า ขนาดใหญ่ ในกรุงปารีส เริ่มต้นจากร้านเสื้อผ้าเล็กๆ และขยายไปสู่สิ่งที่กลายเป็นชุดของอาคารห้างสรรพสินค้าที่มีแผนกต่างๆ ทั้งหมด 90 แผนก เป็นสมาชิกสมาคมห้างสรรพสินค้านานาชาติตั้งแต่ปี 2528 ถึง 2535 ห้างแกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (Galleries Lafayette) เป็นห้างหรูที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของปารีส
เย็น : รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร (มื้อที่14)
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่15)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังมากของฝรั่งเศส จากนั้นนำท่านเข้าชม พระราชวังแวร์ซาย (Versailles Palace) (ระยะทาง 24 กม. / 45 นาที) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศฝรั่งเศส นับเป็นพระราชวังที่มีความยิ่งใหญ่และงดงามอลังการมาก จนติด 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
อิสระช้อปปิ้งที่ Grain de Cuir ร้านกระเป๋าแบรนด์เนมชั้นนำ ราคาดี อาธิเช่น Hermes, Louis Vuitton, Chanel, Prada, Celine, Dior หรือแบรนด์ที่คนไทยนิยมใช้นั้นก็คือ Longchamp นั้นเอง
เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (มื้อที่16)
อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งตามอัธยาศัยที่ เอาท์เล็ท ลาวัลเล่ (La Vallée Village Outlet) (ระยะทาง 41 กม. / 1 ชม.) เป็นเอาท์เล็ทจำหน่ายสินค้าแบรด์เนมชื่อดังต่างๆ โดยจำหน่ายในราคาถูกกว่าราคาปกติอย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์ ให้เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม
17.30น. : จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกล ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพ
21.35 น. : เดินทางกลับประเทศไทย โดยสายการบิน OMAN AIR เที่ยวบินที่ WY132
06.40 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานมัสกัต ประเทศโอมาน แวะพักเปลี่ยนเครื่อง
08.50 น. : เดินทางกลับกรุงเทพฯ ประเทศโดยสายการบิน OMAN AIR เที่ยวบินที่ WY815
18.00 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ
(บริษัท ดำเนินการให้ กรณียกเลิกทั้งหมด หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่สามารถรีฟันด์เป็นเงินหรือการบริการอื่นๆได้)
กรณีวีซ่าไม่ได้รับการอนุมัติจากสถานทูต(วีซ่าไม่ผ่าน) และท่านได้ชำระค่าทัวร์มาแล้ว ทางบริษัทขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่นค่าวีซ่าและค่าบริการยื่นวีซ่า/ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน
หมายเหตุ : กรุณาอ่านศึกษารายละเอียดทั้งหมดก่อนทำการจอง เพื่อความถูกต้องและความเข้าใจตรงกันระหว่างท่านลูกค้าและบริษัท ฯ และเมื่อท่านตกลงชาระเงินมัดจาหรือค่าทัวร์ทั้งหมดกับทางบริษัทฯ แล้ว ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ทั้งหมด
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.