21.00 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน H (แถว H) ประตูทางเข้าที่ 4 อาคารผู้โดยสาร ชั้น 4 สายการบินไทย ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
00.35 น. ออกเดินทางสู่เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG970 (ใช้เวลาบินประมาณ 11.30 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์และจอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง ทั้งนี้สายการบินฯ มีบริการ อาหารค่ำ และอาหารเช้า บนเครื่องบิน
06.55 น. เดินทางถึงสนามบินซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
นำท่านเดินทางสู่ เมืองชาร์โมนิกซ์ (Chamonix) (ระยะทาง 294 กม. ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง) เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่อยู่ในประเทศฝรั่งเศส ตรงพรมแดนระหว่างสามประเทศ คือ สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และ อิตาลี
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านขึ้นเคเบิ้ลคาร์ (Cable Car) ที่สถานีไอกูลดูมิดิ (Aiguille du Midi) หรือแปลว่า “Needle of South” ในภาษาท้องถิ่น ขึ้นสู่จุดชมวิวยอดเขามงบลังค์บนระดับความสูง 3,842 เมตร ท่านสามารถชมเทือกเขาแอลป์ อันงดงาม รวมถึงเป็นจุดชมวิวยอดเขามงบลังค์ (Mont Blanc) ที่ดีที่สุด ยอดเขามงบลังค์เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขาแอลป์ นับเป็นอีกหนึ่งยอดเขาสูงที่มีชื่อเสียงและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนระหว่างประเทศฝรั่งเศสกับประเทศอิตาลี เป็นยอดเขาสูงที่สุดอันดับ 11 ของโลก โดยยอดเขามีความสูง ประมาณ 4,810 เมตร เป็นยอดเขาที่มียอดแหลมขรุขระบนยอดมีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี นำท่านเดินทางสู่ เมืองอีวัวร์ (Yvoire) (ระยะทาง 100 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชั่วโมง) หมู่บ้านดอกไม้อันเก่าแก่ ถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองที่สวยที่สุดเมืองหนึ่งในประเทศฝรั่งเศส สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคกลาง อายุกว่า 700 ปี แต่ยังคงรักษาสภาพสิ่งก่อสร้างต่างๆ รวมถึงประตูเมืองและกำแพงอันเก่าแก่ไว้ได้อย่างดี ส่วนมากทำมาจากหินและไม้ โดยตลอดสองข้างทางถนนที่เราเดินจะเต็มไปด้วยดอกไม้สีสันสดใสประดับตามอาคารบ้านเรือนเห็นแล้วสดชื่น จนได้ชื่อว่าหมู่บ้านดอกไม้ หมู่บ้านอีวัวร์เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านห้ามพลาดในฝรั่งเศส ซึ่งสามารถเดินเที่ยวโบสถ์ประจำเมือง ปราสาท ป้อมปราการ และสำหรับคนที่ชอบช้อปปิ้ง ก็มีร้านให้เลือกซื้อของเพลินๆกันได้อีกด้วย อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและเก็บภาพความสวยงามของหมู่บ้านอีวัวร์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดหากมาเที่ยวฝรั่งเศส
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอันซี (Annecy) (ระยะทาง 71 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากเป็นอันดับต้นๆของแคว้น โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทะเลสาบอันซี (Annecy Lake) ในฝรั่งเศส เมืองอันซีเป็นเมืองหลวงของจังหวัดโอต-ซาวัว (Haute-Savoie) บริเวณใจกลางเมืองนั้นถือว่าเป็นส่วนที่โดดเด่นของเมืองเนื่องจากยังคงความเป็นเมืองยุคกลางและยังเป็นที่ตั้งของปราสาทโบราณ (Annecy Castle) จากศตวรรษที่ 14 มีคลองขนาดเล็กไหลผ่านใจกลางเมือง นำท่านถ่ายรูปกับปาเลส์เดอไลล์ (Palais d’Isle) หรือ “คุกเก่า” สัญลักษณ์ของเมืองอันซีและเป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดของฝรั่งเศส เป็นปราสาทโบราณที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1132 ตัวอาคารถูกสร้างขึ้นในรูปทรงสามเหลี่ยมคล้ายหัวเรือโบราณที่ทอดสมออยู่ในแม่น้ำและถูกประกาศให้เป็นอนุสาวรีย์ประวัติศาสตร์ในปี 1900 จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารแซ็ง-ปีแยร์แห่งอานซี (Cathedrale Saint-Pierre d’Annecy) มหาวิหารนิกายโรมันคาทอลิกและเป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติที่สำคัญแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16 ปัจจุบันมหาวิหารแห่งนี้ได้กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของจังหวัดโอต-ซาวัว และของแคว้นโรนาลป์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Novotel Annecy Center Atria Hotel **** หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองบูร์ก ออง เบรซเซ่ (Bourg-en-Bresse) (ระยะทาง 110 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง) เป็นอีกเมืองเล็กๆน่ารักๆตั้งอยู่ริมแม่น้ำโรน ซึ่งยังคงกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมในสมัยศตวรรษที่ 15-16 นำท่านเข้าชมอารามบูร์ก (Brou Royal Monastery) ซึ่งเป็นอารามที่สวยงามในศิลปะแบบโกธิก และยังเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดเก็บศิลปะในสมัยศตวรรษที่ 15 – ศตวรรษที่ 20 ได้เวลานำท่านเดินชมความงดงามของอาคารสถาปัตยกรรมโบราณในสมัยศตวรรษที่ 15-16 ในเมืองเก่าแห่งบูร์ก (Bourg Historical Centre) อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและเก็บภาพบรรยากาศอันสวยงามของเมืองบูร์ก ออง เบรซเซ่ ได้เวลานำท่านเที่ยวชมเมือง Pérouges เป็นชุมชนในเขต Ain ทางตะวันออกของประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบยุคกลางอยู่ห่างออกไป 30 กม. ทางตะวันออกเฉียงเหนือของลียง ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ ที่มองเห็นทุ่งราบของแม่น้ำ Ain
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองมากง (Macon) (ระยะทาง 72 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชั่วโมง) เป็นเมืองหลวงของจังหวัดโซเนลัวร์ในแคว้นบูร์กอญ ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของฝรั่งเศส เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ แต่แฝงด้วยมนต์เสน่ห์ เนื่องจากเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโรน และตั้งอยู่ในแคว้นเบอร์กันดี เป็นเมืองที่มีธรรมชาติสวยงาม โดยเฉพาะสวนดอกไม้ที่มีการจัดสวนอย่างสวยงาม นำท่านเดินชมความน่ารักของเมืองมากง จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับสะพานโรมันแซงต์โรลอง (Saint Laurent Roman Bridge) ที่สร้างทอดยาวข้ามแม่น้ำโรน ได้เวลานำท่านถ่ายรูปโบสถ์ อิกลิส แซงต์ ปิแอร์ (Eglise Saint Pierre) ซึ่งเป็นโบสถ์ใจกลางเมืองสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 18 นำท่านเข้าชมความสวยงามและความเก่าแก่ของโบสถ์แห่งนี้ จากนั้นนำท่านเที่ยวชมบริเวณเมืองเก่า (old town) ให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของตัวเมืองเก่ามากง อีกเมืองสวยแห่งลุ่มแม่น้ำโรน ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองชาลง ซูร์โซน (Chalon-sur-Saone) เป็นเมืองเล็กอีกเมืองที่ตั้งริมแม่น้ำชาลง (Saone) ในภูมิภาคบูร์กอนน์ ฟรองซ์ กงเต ของฝรั่งเศส เป็นอีกเมืองเก่าแก่อีกเมืองของฝรั่งเศสตะวันออก และเป็นอีกเมืองที่ถูกยึดครองโดยอาณาจักรโรมันโบราณ นำท่านเที่ยวชมเมืองชาลง ซูร์โซน จากนั้นนำท่านเข้าชมมหาวิหารชาลง-ซูร์-โซน หรือเรียกชื่อเต็มว่า อาสนวิหารนักบุญวินเซนต์แห่งชาลง-ซูร์-โซน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11 แล้วเสร็จสมบูรณ์ในสมัยศตวรรษที่ 18 และได้มีการบูรณะในสมัยศตวรรษที่ 19 มหาวิหารแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่นักบุญวินเซนต์แห่งซารากอสซา และมหาวิหารแห่งนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ เมื่อปี ค.ศ. 1903 อีกด้วย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Novotel Beaune Hotel **** หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองเซมูร์ อ็อง โอซัว (Semur En Auxois) (ระยะทาง 107 กม. ใช้เวลาเดินทาง 1.30 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่งดงามประหนึ่งหลุดออกมาจากเทพนิยาย ตั้งอยู่ในเขตแคว้น Burgundy ทางตอนกลางของฝรั่งเศส มีบริเวณที่ติดกับแม่น้ำ Armançon ตัวบ้านเรือนมีลักษณะแบบบ้านสไตล์ฝรั่งเศสในแถบชนบทยุคกลาง ตั้งเรียงรายกันอย่างน่ารักมีเสน่ห์แบบสุดๆ ยิ่งถ้ามองจากมุมที่ตั้งมีแม่น้ำผ่าตรงกลางมีสะพาน Le pont Joly เชื่อมสองฝั่งยิ่งเป็นมุมไฮไลท์ที่ถ่ายรูปออกมาสวยมาก เดิมทีเมืองแห่งนี้เป็นป้อมปราการช่วงมีสงครามทำให้มีกำแพงขนาดใหญ่ล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน รวมถึงบ้านเรือนที่ยังคงรักษาความโบราณได้อย่างดี และยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองต่างๆ ถือได้ว่าเป็นเมืองเล็กๆทีมีเสน่ห์ที่น่าค้นหาไม่แพ้เมืองอื่นๆเลย นำท่านเที่ยวชมเมืองพร้อมเข้าชม มหาวิหารแห่งแม่พระ (Church of Our lady) มหาวิหารประจำเมือง สร้างขึ้นในปี 1225 ในศิลปะแบบโกธิก จากนั้น นำท่านชม Orle d Or Tower และสะพานหินโรมันโบราณ Pinard Bridge อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของเมืองสวยติดอันดับต้นๆของฝรั่งเศส ตามอัธยาศัย ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองเวเซอแล (Vezelay) (ระยะทาง 58 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเที่ยวชมเมืองเวเซอแล (Vezelay) เป็นชุมชนในเขต Yonne ในภูมิภาคฝรั่งเศสทางตอนเหนือของฝรั่งเศส นำท่านเข้าชมมหาวิหารนักบุญมารีย์ชาวมักดาลาแห่งเวเซอแล ( Basilique Sainte-Marie-Madeleine de Vézelay) เป็นบาซิลิกา ในอดีตเดิมเป็นแอบบีย์ของคณะเบเนดิกตินและอารามกลูว์นี (Cluniac) ตัวมหาวิหารประกอบด้วยการตกแต่งที่ซับซ้อนด้วยรูปสลักเสลาด้านหน้า, เหนือประตูทางเข้า และหัวเสาที่ถือกันว่าเป็นงานฝีมือชั้นเอกของสถาปัตยกรรมและศิลปะโรมาเนสก์ของบูร์กอญ แม้ว่าบางส่วนของงานศิลปะจะถูกทำลายไปในระหว่างการปฏิวัติฝรั่งเศส นอกจากนี้มหาวิหารเวเซอแลและเนินในบริเวณเวเซอแลยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 1979 อีกด้วย ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองบูรช์ (Bourges) (ระยะทาง 106 กม. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง) หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และยังเป็นที่ตั้งของมหาวิหารแซงต์เอเตียนน์แห่งบูร์ก มหาวิหารที่ถือว่าเป็นหนึ่งในมรดกโลกในประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย สร้างขึ้นระหว่างปลายคริสต์ศตวรรษที่ 12-13 เป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกที่ยิ่งใหญ่ของศิลปะโกธิก มหาวิหารบูร์ก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ เมื่อปี ค.ศ. 1862 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1992 โดยมหาวิหารถูกตกแต่งด้วยประติมากรรมและหน้าต่างกระจกสีมีความน่าประทับใจเป็นพิเศษ นอกจากความงามทางสถาปัตยกรรมแล้ว มหาวิหารแห่งนี้ยังเป็นสิ่งยืนยันถึงอำนาจของคริสตจักร ในฝรั่งเศสยุคกลางอีกด้วย จากนั้น นำท่านชม ฌาคส์ เคอ พาเลซ (Jacques Coeur Palace) อีกหนึ่งพระราชวังที่ปัจจุบันถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงแรมที่ถือว่าเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมโกธิกตอนปลาย เป็นอาคารที่มีความสง่างามและมีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรม ฌาคส์ เคอ พาเลซ เป็นหนึ่งในอาคารที่ดีและหรูหราที่สุด ต่อมาได้ถูกบรรจุไว้ในรายชื่อของอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ของประเทศฝรั่งเศสในปี ค.ศ.1840 ปัจจุบัน ฌาคส์ เคอ พาเลซได้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองบูร์ก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Novotel Bourges Hotel**** หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองบลัวร์ (Blois) (ระยะทาง 150 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองที่มีความสำคัญของศาสนาคริสต์ของฝรั่งเศสตั้งแต่ยุคกลางจนมาถึงปัจจุบัน มีชัยภูมิติดริมแม่น้ำ Loire ตั้งอยู่ในจังหวัด Loir-et-Cher แคว้น Centre อยู่ทางตอนกลางของฝรั่งเศส นำท่านเข้าชม พระราชวังบลัวร์ (Château de Blois) ที่มีความงดงามอย่างคลาสสิกสไตล์เรอเนซองซ์ ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดก็คือ บันไดเวียนหลักที่ปีกพระเจ้าฟร็องซัวที่ 1 อีกองค์ประกอบหนึ่งของพระราชวังที่มีสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ บริเวณเมืองอาจได้รับความเสียหายอยู่ไม่น้อยจากช่วงสงคราม แต่ก็มีการบูรณะปรับปรุงให้กลับมางดงามแม้ไม่เต็มร้อย หากก็ให้กลิ่นอายยุคโบราณไม่น้อยทีเดียว นอกจากนี้บริเวณลุ่มแม่น้ำลัวร์(Loir Valley) ยังเป็นที่อยู่ของกลุ่มปราสาทมากมาย จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกอีกด้วย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองอองเช่ร์ (Angers) (ระยะทาง 159 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.45 ชั่วโมง) เมืองเก่าแก่อีกเมืองทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส เป็นเมืองหลวงของจังหวัดอังจู ตัวเมืองตั้งอยู่บนน้ำเมน (La Maine) อีกสาขาย่อยของแม่น้ำลัวร์ นำท่านถ่ายรูปกับปราสาทอองเช่ร์(Chateau of angers) ลักษณะเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำลัวร์ นับเป็นอีกหนึ่งปราสาทที่มีประวัติอันยาวนานและเดินทางเข้าถึงได้ไม่ยาก ในกลุ่มปราสาทลุ่มแม่น้ำลัวร์ ป้อมปราการแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1230 โดยพระราชินีบลานซ์แห่งกัสเตลและลูกชายคนเล็กของเธอเซนต์หลุยส์ โดยมีลักษณะเป็นกำแพงที่มีความยาวเกือบครึ่งกิโลเมตรประกอบไปด้วยเสาหินและหินปูน ในช่วงหนึ่งในทศวรรษที่ 14 และ 15 นั้นสถานที่แห่งนี้ได้เป็นที่พำนักที่ราชวงศ์มักมาพำนักอยู่บ่อยครั้ง เมื่อปลายศตวรรษที่ 16 มีการบูรณะปรับเปลี่ยนปราสาทและลดความสูงลงเล็กน้อยเพื่อให้กลายเป็นป้อมปราการที่แข็งแกร่งและพร้อมสำหรับการทำสงคราม นำท่านเที่ยวชม Maison d Adam และ ถ่ายรูปกับ Verdun Bridge ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองน็องต์ (Nantes) (ระยะทาง 90 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Oceania De France Hotel/ BW De La Regate Hotel **** หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเที่ยวชมเมืองน็องต์ (Nantes) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจังหวัดลัวรัตล็องติกในแคว้นเปอีเดอลาลัวร์ในฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำลัวร์ทางตะวันตกของฝรั่งเศส และเป็นเมืองที่ใหญ่ลำดับที่หก น็องต์เป็นเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ของอดีตจังหวัดบริตานี ในปี ค.ศ. 2004 นิตยสารไทม์บรรยายน็องต์ว่าเป็น “เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในบรรดาเมืองต่างๆ ในยุโรป” นำท่านเข้าชม Chateau of the dukes of Brittany in Nantes เป็นปราสาทขนาดใหญ่ริมแม่น้ำลัวร์ ซึ่งเป็นปราสาทที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์โดยกระทรวงวัฒนธรรมฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 1862 ปราสาทแห่งนี้เคยเป็นถิ่นที่อยู่ของดุ๊กแห่งบริตตานีระหว่างศตวรรษที่ 13 และศตวรรษที่ 16 และในภายหลังก็ได้กลายเป็นถิ่นที่อยู่ของราชวงศ์ฝรั่งเศสในเขต เบรอตง รวมทั้งได้ขึ้นทะเบียนโดยกระทรวงวัฒนธรรมของฝรั่งเศสให้เป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ในปี 1862 จากนั้นนำท่านเข้าชมมหาวิหารเซ็นต์ปีแอร์ (Cathedral St. Pierre et St. Paul) นำท่านชม The Machines of the Isle of Nantes เป็นโครงการศิลปะการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมที่ตั้งอยู่ในเมืองน็องต์ ในอาคารเดิมของอู่ต่อเรือเดิมในเมืองที่เคยใช้ในการก่อสร้างเรือ นำท่านชมการจัดแสดงผลงานชิ้นใหญ่ๆที่มีชื่อเสียงแห่งเมืองน็องต์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองโรซฟอร์ อ็อง แตร์ (Rochefort En Terre) (ระยะทาง 96 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) มีบรรยากาศเมืองแบบย้อนยุคที่ติดหนึ่งใน 100 ชุมชมที่งดงามมากที่สุดของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ในเขตจังหวัด Morbihan แคว้น Brittany ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เดินเข้าไปแล้วเหมือนหลุดเข้าไปในฝรั่งเศสยุคกลาง สถาปัตยกรรมอาคารที่ยังคงรักษาบรรยากาศแบบดั้งเดิมอย่างน่าประทับใจ ยิ่งช่วงฤดูร้อนยิ่งยกระดับความสวยด้วยดอกไม้นานาชนิดที่บานสะพรั่งรายล้อมเมือง ทำให้เมืองดูโบราณมีสีสันขึ้นทันตาเห็น ตัวถนนก็ยังคงแบบโบราณ แม้กระทั่งสิ่งของต่างๆอย่างบ่อที่ใช้ตักน้ำก็ยังมีให้เห็น ถือเป็นเมืองที่สวยงามและน่ามาเยือนอีกแห่งหนึ่ง
ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองแร็นส์ (Rannes) (ระยะทาง 104 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 ชั่วโมง) เมืองที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของตึกอาคารสไตล์เรอเนซองซ์ของยุคกลาง ตั้งอยู่ในเขตแคว้น Brittany ทางตะวันตกของฝรั่งเศส ในส่วนตัวเมืองอยู่บนเนินระหว่างที่มีแม่น้ำอีลและแม่น้ำวีแลนไหลมาบรรจบกันโดยเฉพาะ จัตุรัส Place du Champ Jacquet ตั้งอย่างโดดเด่นเป็นสง่าบริเวณใจกลางเมือง ล้อมรอบไปด้วยอาคารบ้านเรือนที่มีสถาปัตยกรรมการสร้างสไตล์ฝรั่งเศสดั้งเดิม นำท่านชมมหาวิหารแซ็ง-ปีแยร์แห่งแรกที่อาจไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่เรียกได้ว่ามีความงดงามแบบคลาสสิกมาก นำท่านเดินเล่นเที่ยวชมเมืองและให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงาม
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Mercure Rennes Centre Gare Hotel **** หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองดีน็อง (Dinan) (ระยะทาง 54 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) เป็นเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบใน Breton และเป็นชุมชนในเขต Côtes-d’Armor ทางตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส บ้านในเมืองดีน็องส่วนใหญ่นั้นจะเป็นบ้านที่สร้างขึ้นมาด้วยไม้ทั้งสิ้น และส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า (Old town) โดยจะมีจุดที่สังเกตุเห็นได้ง่ายๆนั่นก็คือ คานไม้แบบโค้ง และชานบ้านที่วางพักอยู่บนเสาไม้ต้นใหญ่ เจ้าชานบ้านแบบนี้ ชาวฝรั่งเศสเรียกกันว่า “Maison à Porche” นำท่านเดินเล่นและชมความคลาสสิกและความสวยงามของบ้านไม้ยุคโบราณในสมัยศตวรรษที่ 15 สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองแซ็งมาโล (St. Malo) เมืองประวัติศาสตร์ริมทะเลทางตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส และเคยเป็นศูนย์กลางของ โจรสลัด ที่บุกปล้นเรือสินค้าระหว่างการเดินทางในช่องแคบอังกฤษอีกด้วย เมืองนี้ตั้งอยู่ในแคว้นบริททานี (Brittany) หรือแคว้นเบรอตาญ (Bretagne) มีชื่อเสียงเรียงนามว่าเป็นเมืองท่าที่สวยงามและเป็นที่ชื่นชอบของชาวยุโรปเป็นพิเศษ ตรงท่าเรือจะถูกล้อมรอบไปด้วยกำแพงสูงและป้อมปราการที่มีความยาวกว่า 2 กิโลเมตร ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในเมืองโจรสลัด นำท่านแวะถ่ายรูปกับ ประตูเมืองของแซงต์มาโลนั้นมีชื่อว่า “The Saint Vincent Gate” เริ่มสร้างขึ้นเมื่อต้นศตวรรษที่ 17 และแล้วเสร็จในศตวรรษที่ 18 ประตูเมืองนี้เป็นทางเข้าไปสู่ตัวเมืองเก่าหรือ Old Town ของแซงต์มาโล นำท่านเดินเล่นชมเมืองประวัติศาสตร์ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองมงแซ็ง มีแชล (Mont Saint Michel) (ระยะทาง 58 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) วิหารที่ตั้งอยู่บนเกาะโดดเดี่ยวกลางทะเลชายฝั่งตะวันตก บริเวณจังหวัดม็องช์ แคว้นบัส-นอร์มังดีของประเทศฝรั่งเศส ได้รับประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี 1979 ในปีหนึ่งจะมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือนมงแซงต์ มิแชลกว่า 3 ล้าน 2 แสนคน ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับที่ 3 ของประเทศฝรั่งเศสรองลงมาจากหอไอเฟลและพระราชวังแวร์ซาย นำท่านเข้าชมวิหารมงแซ็ง มีแชล (Abbaye Mont Saint Michel) โบสถ์บนยอดเขาที่มีความโดดเด่น สร้างอยู่บนเกาะเริ่มตั้งแต่ ค.ศ.708 เมื่อ Aubert เจ้าอาวาสโบสถ์เมือง Avranches สร้างโบสถ์บนเกาะนี้ตามบัญชาของ นักบุญมิเชล (Saint-Michel) ซึ่งมาให้นิมิตหลายครั้ง การสร้างโบสถ์นี้ลำบากยากเข็ญเพราะต้องนำหินแกรนิตมาจาก Iles Chaussey หรือจาก Bretagne
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Mercure Mont St. Michel Hotel / Relais St. Michel Hotel **** หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองบาเยอ (Bayeux) (ระยะทาง 113 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง) เมืองนี้เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยร่องรอยของประวัติศาสตร์ในช่วงสงครามเย็น และสงครามโลกครั้งที่สอง นำท่านเดินเล่นเที่ยวชมเมืองบาเยอ จากนั้นนำท่านเข้าชมอาสนวิหารแม่พระแห่งบาเยอ (Cathédrale Notre-Dame de Bayeux) เป็นอาสนวิหารโรมันคาทอลิก สถาปัตยกรรมที่เห็นอยู่ในปัจจุบันเป็นแบบนอร์มัน–โรมาเนสก์ อาสนวิหารบาเยอมีฐานะเป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติแห่งฝรั่งเศสด้วย อาสนวิหารบาเยอที่ได้รับการเสกเป็นอาสนวิหารในปี ค.ศ. 1077 เฉพาะ พระพักตร์ของวิลเลียม ดยุกแห่งนอร์ม็องดีและพระมหากษัตริย์อังกฤษ อาสนวิหารบาเยอเป็นสถานที่ที่ดยุกวิลเลียมแห่งนอร์ม็องดีบังคับให้ฮาโรลด์ กอดวินสันให้สัตยาบันที่นำไปสู่การพิชิตอังกฤษของชาวนอร์มัน และอาสนวิหารบาเยอได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์เมื่อปี ค.ศ. 1862 อีกด้วย ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองอ็องเฟลอร์ (Honfluer) (ระยะทาง 85 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเที่ยวชมเมืองอ็องเฟลอร์ เมืองท่าเล็กๆของแคว้นนอร์มองดี ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งทางตอนใต้ของบริเวณปากแม่น้ำแซน ปัจจุบันเมืองเล็กๆแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันในนามของเมืองท่าเก่าแก่ที่งดงามแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส นำท่านเดินชมท่าเรือเก่าแก่ รวมไปถึงอาคาร ร้านอาหาร ที่มีไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมากมาย สัมผัสเสน่ห์ ของเมืองท่าแห่งนี้ด้วยการเดินไปชมเรือยอชท์และเรือประมงที่มากไปด้วยสีสันอันสดใส จากนั้นนำท่านสู่ย่านเมืองเก่า เพื่อไปชมความเก่าแก่ของ โบสถ์ เซนต์ แคทเทอรีนส์ (Saint-Catherine’s Church) โบสถ์ไม้อันเก่าแก่ของเมือง ที่ถูกสร้างขึ้นโดย shipmakers ในช่วงศตวรรษที่ 15 ชื่นชมในความงดงามของตัวอาคารที่สร้างขึ้นด้วยประติมากรรมจากไม้ สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่กรุงปารีส (Paris) (ระยะทาง 198 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.45 ชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Novotel Pont De Sevres Hotel **** หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่บริเวณ จตุรัสทรอคาเดโร ซึ่งเป็นจุดชมหอไอเฟลที่สวยที่สุด สัญลักษณ์ของนครหลวงปารีส หอคอยโครงสร้างเหล็กตั้งอยู่บนชองป์เดอ มารส์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส หอไอเฟลเป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ทั้งยังเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอีกด้วย อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจกับหอไอเฟลตามอัธยาศัย
10.00 น. นำท่านสู่สนามบิน เพื่อเช็คอิน และทำ Tax Refund
13.20 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ เที่ยวบินที่ TG931 (ใช้เวลาในการเดินทาง 10.20 ชั่วโมง)
09.50 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)
ข้อแนะนำและแจ้งเพื่อทราบ
การชำระเงิน งวดที่ 1 : สำรองที่นั่งจ่าย 50,000 บาท/ท่าน ภายใน 3 วันหลังมีการยืนยันกรุ๊ปออกเดินทางแน่นอน
งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่เหลือ 30 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง
กรณียกเลิก
***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิก
วีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***
กรณีเดินทางโดยลูกค้าจัดการตั๋วเครื่องบินเอง (Land Only)
*ในกรณีลูกค้าดำเนินการเรื่องตั๋วเครื่องบินเองและมาเที่ยวร่วมกับคณะ (Join Tour) ลูกค้าต้องดำเนินการมาพบคณะทัวร์ด้วยตัวเอง และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการมาพบคณะใหญ่ด้วยตัวเอง รวมถึงหากกรณีเที่ยวบินของคณะใหญ่เกิดความล่าช้าหรือยกเลิกเที่ยวบินอันด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม
หมายเหตุ :
ตั๋วเครื่องบิน
โรงแรมและห้อง
(TRIPLE ROOM ) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรม ซึ่งมักมีความแตกต่างกัน ซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการ หรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้
กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน
สัมภาระและค่าพนักงานยกสัมภาระ
การชดเชยค่ากระเป๋าในกรณีเกิดการสูญหาย
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.