22.00 : คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 แถว D เคาน์เตอร์สายการบินไทย แอร์เวย์ Thai Airways
โดยมีเจ้าหน้าที่ คอยอำนวยความสะดวก
01.05 : เหินฟ้าสู่เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG940 (บินตรงสู่ซูริค)
07.50 : ถึงสนามบินนานาชาติซูริค หลังผ่านพิธีการด้านศุลกากรเรียบร้อยแล้ว จากนั้นนำคณะออกเดินทางสู่เมืองพอนเตสซิน่า ชมความงามของธรรมชาติสองข้างทาง ผ่านชมหุบเขาและย่านทะเลสาบอันสวยงาม ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแห่งขุนเขาและทะเลสาบถึง “เมืองพอนเตสซิน่า” เมืองตากอากาศแสนสวยท่ามกลางธรรมชาติของกลางหุบเขาแอล์ป มีเวลาให้ท่านเก็บภาพบรรยากาศที่สวยงาม
เที่ยง : บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย : นำคณะนั่งรถไฟสายโรแมนติก “เบอร์นิน่าเอกซ์เพรส” ซึ่งเป็นรถไฟชมวิวแบบพาโนรามาที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เพลิดเพลินกับบรรยากาศทิวทัศน์ที่สวยงามของ ภูเขาหิมะ ทะเลสาบ ทุ่งหญ้า หมู่บ้านที่สวยงามตั้งเรียงรายกระจัดการจาย เป็นภาพที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง และผ่านเส้นทางหลายจุดที่ถูกประกาศให้เป็น “เส้นทางสายมรดกโลก” ระหว่างการเดินทาง รถไฟจะแล่นผ่านเกลเชอร์ ข้ามเทือกเขาแอลป์ที่ระดับความสูง 7,390 ฟิต ท่านจะได้สัมผัสและพูดได้เต็มปากว่าได้ชมทิวทัศน์ที่สวยที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์มาแล้ว ท่านจะตื่นตาตื่นใจมิรู้เบื่อหน่าย ทิวทัศน์สองข้างทางจะเปลี่ยนไปทุกนาที อุโมงค์ลอดใต้ภูเขาทั้งลูก สะพานสูงข้ามเหวลึกและธารน้ำแข็งที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมจะช่วยเสริมความเพลิดเพลินให้ท่านตลอดการเดินทาง จนกระทั่งเข้าสู่ “เมืองเซ็นต์มอร์ริทซ์” เมืองตากอากาศและศูนย์กลางกีฬาสกีที่มีชื่อเสียงระดับโลกเมืองตากอากาศฤดูหนาวที่แสนสงบ และในปีค.ศ.1864 ได้สร้างโรงแรมแห่งแรกของเมือง และเชิญแขกชาวอังกฤษมาพัก ทำให้เกิดกิจกรรมกีฬาฤดูหนาวต่างๆ และเป็นสถานที่แข่งขันกีฬาระดับเวิลด์แชมเปี้ยนชิพ และกีฬาโอลิมปิก บรรยากาศโดยรอบตัวเมืองถูกโอบล้อมไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับนานาพันธุ์ และวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบอันสวยงาม กล่าวได้ว่าในบรรดาเมืองตากอากาศของสวิสฯ ไม่มีที่ใดจะหรูและแพงยิ่งกว่าเมืองนี้อีกแล้ว
ค่ำ : บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร / นำท่านเดินทางสู่ที่พัก
พักที่ : EUROPA HOTEL / LAUDINELLA HOTEL หรือระดับใกล้เคียง
เช้า : บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำคณะสัมผัสประสบการณ์กับการนั่งรถไฟ “กลาเซียร์เอ็กซเพรส” Glacier Express (ช่วงการเดินทางที่สวยสุดของเส้นทางกลาเซียร์ เอ็กซ์ เพรส ระหว่างเมืองเซนต์มอริทซ์ – อันเดอร์แมท) ผ่านชมภูมิประเทศที่งดงามของเทือกเขาแอลป์ มีทั้งอุโมงค์, สะพาน, หุบเหว, สวิสฯ แกรนด์แคนยอน และหุบเขาที่สูง 2,000 กว่าเมตร ตลอดเส้นทางท่านสามารถชมยอดเขาที่ปกคลุมด้วยธารน้ำแข็งเจ้าของเส้นทาง Furka–Oberralp–Bahn ที่พาดผ่านในกลางเทือกเขาแอลป์ โดยช่วงสำคัญระหว่างทาง จะผ่านสะพานข้ามช่องเขา (Landwasser Viaduct) ที่มีชื่อเสียงที่สุดของเส้นกลาเซียร์ เอ็กซ์เพรส สร้างเสร็จในปี ค.ศ.1902
โดยมีช่องโค้งรับน้ำหนังถึงหกช่อง และมีความสูงถึง 65 เมตร จากนั้นรถไฟจะค่อยๆไต่ระดับความสูงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดสูงสุดของเส้นทางรถไฟ(2,033 เมตร) ในบริเวณโอเบอราลพ์ พาส(Oberalp Pass) ท่านจะเห็นวิวที่สวยงามของเทือกเขาแอล์ป จะทำให้ท่านประทับใจไปตลอดทั้งชีวิต
เที่ยง : บริการอาหารมื้อกลางวันแบบเซ็ทเมนูแบบเอ็กซ์คลูซีฟบนรถไฟกลาเซียร์ เอ็กซ์เพรส พร้อมชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม https://youtu.be/zALXRoysJA0
บ่าย : จากนั้นรถไฟจะค่อยๆวิ่งลงเขาสู่ “เมืองอันเดอร์แมท” Andermatt เมืองสกีรีสอร์ทเล็กๆ ที่น่ารัก https://www.glacierexpress.ch/en/services/image-gallery / มีเวลาให้ท่านเก็บภาพความประทับใจในเมืองอันเดอร์แมท จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ “เมืองเซอร์แมท” Zermatt โดยรถโค้ชปรับอากาศและเส้นทางจะต้องผ่านอุโมงค์ฟูร์ก้า พาส(Furka Pass) ที่มีความยาวถึง 15,407 เมตร ที่สำคัญคือต้องเอารถโค้ชขึ้นโดยสารรถไฟเพื่อรอดอุโมงค์นี้ เป็นการเดินทางที่น่าทึ่งยิ่งนัก จากนั้นรถโค้ชจะวิ่งผ่านเมืองเล็กๆ จนกระทั่งถึงเมืองแทส(Tasch) เราต้องเปลี่ยนพาหนะเป็นรถไฟแทน(ใช้เวลา เดินทาง 15 นาที) เนื่องจากหมู่บ้านเซอร์แมทไม่อนุญาตให้รถยนต์(น้ำมัน) วิ่งในเมือง / เซอร์แมทตากอากาศที่สวยงามดุจสวรรค์บนดิน ตั้งอยู่บนความสูงกว่า 1,620 เมตร (5,350 ฟุต) เป็นเจ้าของ ยอดเขาแมทเธอร์ฮอร์น สัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเมืองซึ่งสงวนสถานที่ไว้ให้มีแต่อากาศบริสุทธิ์ โดยห้ามรถที่ใช้แก๊สและน้ำมันเข้ามา นอกจากรถไฟฟ้า และรถม้าที่มีไว้บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งท่านจะประทับจากประสบการณ์ในการเดินทางครั้งนี้ อิสระกับการเดินเที่ยวชมเมืองหรือถ่ายรูปตามอัธยาศัย
ค่ำ : บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร / นำคณะเดินทางเข้าสู่ที่พัก
พักที่ : Sonne Hotel, Simi Hotel Zermatt / หรือระดับใกล้เคียง
เช้า : บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำคณะเดินสู่สถานีรถไฟกรอนเนอแกรต นั่งรถไฟไต่เขาสู่ “ยอดเขากรอนเนอแกรต” ซึ่งมีความสูงกว่า 3,000 เมตรเหนือระดับน้ำ ทะเล ชมความงามของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (จากจุดชมวิวกรอนเนอแกรต) ซึ่งมีความสูงกว่า 4,478 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งท่านสามารถเห็นอยู่ แค่เอื้อมชื่นชมกับทิวทัศน์เหนือม่านเมฆ เพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามของหิมะซึ่งปกคลุมยอดเขาตัดกับสีฟ้าเข้มของท้องฟ้า ยอดเขาทรงปิรามิดที่มีปลายคุ้มงอเหมือนตะขอแปลกตาจนราชาการ์ตูนวอล์ทดีสนีย์ นำไปเป็นแบบเครื่องเล่นบิ๊กธันเดอร์ Big Thunder ในสวนสนุกดีสนีย์แลนด์ ตลอดจนทิวทัศน์โดยรอบที่สวยงามยิ่งนัก จากนั้นระหว่างทางนำท่านแวะลงที่สถานี Rottenborden ให้ท่านถ่ายรูปคู่กับ “ทะเลสาบริฟเฟลซี (Riffelsee) ทะเลสาบบนเขาที่ท่านสามารถถ่ายรูปยอดเขาแมทเธอร์ฮอร์นอีกจุดหนึ่ง ท่านจะเห็นภาพเงาสะท้อนของยอดเขาแมทเธอร์ฮอร์นในทะเลสาบงดงาม ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่เมืองเซอร์แมท
เที่ยง : บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย : นำคณะออกเดินทางผ่าน “เมืองมองเทรอซ์” (139 กม.) เมืองพักผ่อนตากอากาศที่มีชื่อเสียงทั้งในฤดูร้อน และหนาวริมทะเลสาบเจนีวา ซึ่งได้รับสมญานามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิสฯ” คฤหาสน์ และโรงแรมหรูของเมืองนี้เรียงรายริมถนนเรียบทะเลสาบที่ยาวถึง 7 กิโลเมตร แวะถ่ายภาพที่ระลึกกับ “ปราสาทชิลลอง” (ภายนอก) ซึ่งสร้างขึ้นโดยบัญชาของท่านเคาท์ ปีเตอร์ ออฟ ซาวอย หรือที่รู้จักกันแพร่หลายในสมญานามชาร์ลมาญน้อยในครึ่งหลังศตวรรษที่ 13 เป็นที่ประทับโปรดปรานของเคาน์และดยุคแห่งซาวอย ในฤดูร้อนของทุกปีที่เมืองมองเทอรซ์จะมีการจัดงานแจ๊สเฟสติวัลระดับโลกขึ้นและยังเป็นที่เฟดดี้ เมอร์คิวรี่ นักร้องนำวงควีน มาใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายอีกด้วย นำคณะเดินทางสู่ “เมืองโลซานน์” (30 กม.) นำคณะชื่นชมบรรยากาศของเมืองพร้อมชมตัวเมืองเก่า แวะให้ท่านได้ถ่ายรูปหน้า “พิพิธภัณฑ์โอลิมปิก” เมืองโลซานน์ ตั้งอยู่บนฝั่งเหนือของทะเลสาบเจนีวา นับได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ในสมัยที่ชาวโรมันมาตั้งหลักแหล่งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบที่นี่ มีทิวทัศน์ที่สวยงาม และมีอากาศที่ปราศจากมลพิษ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศ นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 โลซานน์”ยังเป็นเมืองที่สมเด็จพระบรมราชชนกทรงโปรดมาก ตั้งแต่ครั้งที่เสด็จฯไปดูงานและศึกษาด้านสาธารณสุข และเมืองโลซานน์ถูกเลือก เป็นที่ประทับถาวรของในหลวง 2 พระองค์ (รัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9) ในปี 2476-2488 ซึ่งมีพระชนนีเป็นผู้นำครอบครัวเพียงลำพังในการอภิบาลพระธิดาและพระโอรสที่เป็นในหลวงของชาวไทย 2 พระองค์
ค่ำ : บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร / นำคณะเดินทางเข้าสู่ที่พัก
พักที่ : MOVENPICK HOTEL / DE LA PAIX HOTEL หรือระดับใกล้เคียง
เช้า : บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำคณะเดินทางสู่ “เมืองเจนีวา” (63 กม.)พันธรัฐที่เล็กที่สุดของสวิสฯ ตั้งอยู่บริเวณตอนปลายแหลมของ ทะเลสาบเจนีวาทะเลสาบที่มีรูปคล้ายพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว ยามข้างแรม นำคณะชมเมืองเจนีวา เมืองที่ว่ากันว่าเป็นพันธรัฐสวิสที่แทบจะไม่มีอะไรเป็นสวิสเลยเนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่ใช้ภาษาฝรั่งเศส และตัวเมืองรายล้อมด้วยสวนสาธารณะที่สวยงาม และองค์การนานาชาติต่างๆ อาทิเช่น ตึกสหประชาชาติ,สภาแรงงานโลก, องค์การกาชาดสากล ชมทะเลสาบเจนีวา และ น้ำพุจรวดเจทโด (Jet d’eau) ที่สามารถส่งน้ำขึ้นท้องฟ้าได้สูงถึง 140 เมตร และเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเจนีวา ถ่ายรูปกับ “นาฬิกาดอกไม้” และชื่นชมไม้ดอกไม้ประดับหลากสีสันภายในสวนอังกฤษริมทะเลสาบเจนีวา บ่งบอกถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกาที่มีต่อเจนีวา นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านกรูแยร์(Gruyere) หมู่บ้านน่ารักมีปราสาทตั้งอยู่บนเนินเขากลางเมือง นำท่านเข้าสู่โรงงานของฟาร์มผลิตชีส ชีสกรูแยร์ เป็นชีสสวิสฯ กลิ่นหอม เนื้อแข็งมีสีเหลืองมีต้นกำเนิดในบริเวณ Fribourg, Vaud, Neuchâtel, Jura และ Berne แต่หมู่บ้านกรูแยร์นี้ผลิตออกมามีรสชาติดีที่สุดจึงได้รับการตั้งชื่อตามเมืองกรูแยร์ นำท่านชมขั้นตอนการผลิตและการเก็บรักษารวมถึงการแปรรูปลิตภัณฑ์ ให้ท่านเลือกซื้อกลับบ้านเป็นของฝาก(นิยมใช้ทำฟองดูชีส)
เที่ยง : บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนูพื้นเมืองในฟาร์มชีสกรูแยร์
บ่าย : นำคณะเดินทางสู่ “กรุงเบิร์น”(157 กม.) นครหลวงอันเก่าแก่ของสวิตเซอร์แลนด์ เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงสวยงามเป็นอย่างยิ่งจนได้รับการอนุรักษ์ และประกาศให้เป็น “มรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้” (Unesco) ชม “เบเร็นกราเบ็นหรือบ่อหมี” สัญลักษณ์ของเมือง เนื่องจากหมีเป็นสัตว์ประจำเมือง นำท่านเดินเข้าสู่ย่าน“มาร์คกาสเซ” ย่านเมืองเก่าซึ่งปัจจุบัน เต็มไปด้วยร้านดอกไม้และร้านบูทีคเป็นเขตที่ปลอดมลพิษ ไม่ให้รถยนต์วิ่งผ่าน จึงเหมาะกับการเดินเที่ยว และเป็นเมืองเดียวในสวิสที่ทางเดินช้อปปิ้งมีหลังคาคลุมแถมบางร้านยังอยู่ชั้นใต้ดินอีกด้วย นำชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี ชมถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดๆ ของเมืองนี้เข้าสู่ “ถนนครัมกาสเซ” เต็มไปด้วยร้านภาพวาด และร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชม “นาฬิกาไซ้ท์ กล็อคเค่น” อายุกว่า 800 ปี ที่มีโชว์ให้ดูทุกๆ ชั่วโมงที่นาฬิกาตีบอกเวลา ชมมหาวิหารเซนต์วินเซนต์รัทฮาวน์ และกรุงเบิร์นยังเป็นเมืองที่มีน้ำพุมากที่สุดเมืองหนึ่งในยุโรป
ค่ำ : บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร/ นำคณะเดินทางเข้าสู่ที่พัก
พักที่ : Holiday Inn Westside Hotel / ALLEGRO HOTEL หรือระดับใกล้เคียง
เช้า : บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางเข้าสู่ “หมู่บ้านเลาเทอร์บรุนเนน” ชมวิว น้ำตกชเตาบ์บาค (Staubbach Waterfall) ที่ไหลลงมาจากหน้าผาเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของหมู่บ้านแห่งนี้ จากนั้นนั่ง รถไฟฟันเฟือง สู่ “ยอดเขาจุงเฟรา” ที่ได้ชื่อว่า “สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป” เป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป เปลี่ยนขบวนรถไฟ (Cog Wheel) ณ “สถานีไคลน์ไชเด็ค” ขึ้นสู่ความสูงถึง 3,464 เมตร จนถึง “สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป” ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น Top of Europe ชม “ถ้ำน้ำแข็ง 1,000 ปี” ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี ชมงานแกะสลักน้ำแข็งที่สวยงามอยู่ใต้ธารน้ำแข็ง 30 เมตร เก็บภาพความสวยงามและยิ่งใหญ่ของของธารน้ำแข็ง Aletsch ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ สนุกสนานบนลานหิมะอย่างเต็มอิ่ม ท่านสามารถส่งโปรการ์ดถึงคนพิเศษเพื่อเป็นที่ระลึกจากยอดเขาแห่งนี้
เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา
บ่าย : นำท่านเดินทางลงเขาด้วยรถไฟ ฟันเฟืองสู่สถานีไอเกอร์ (Eiger) นำท่านโดยสารกระเช้าชมวิวเทือกเขาแอล์ป (THE V-CABLEWAY) ลงสู่สถานีกริลเดลวาล์วกรุนด์ จากนั้นนำคณะเดินทางสู่ “เมืองอินเทอร์ลาเก้น” เมืองหลวงของแบร์นเนอร์โอเบอร์ลันด์ เมืองตากอากาศสวยงามพร้อมทะเลสาบ 2 แห่งกลางเมือง ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบสองแห่งคือ Thunersee และ Brienzersee ท่ามกลางเทือกเขาน้อยใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านจะได้เห็นเขาจุงเฟราอันลือชื่อ, นาฬิกาดอกไม้, สถานคาสิโน ฯลฯ
ค่ำ : บริการอาหารมื้อค่ำ เมนูพิเศษ ! อาหารพื้นเมืองชาวสวิส “ฟองดู” (Fondue) ทั้งสามชนิด ชีส, เนื้อสัตว์, ช๊อคโกแล๊ต สัมผัสวัฒนธรรมแบบสวิตเซอร์แลนด์ ฟองดูชีส ปรุงโดยการนำเอาชีส มาตั้งไฟและหลอมละลายรวมกับไวน์ขาว
พักที่ : METROPOL HOTEL / BELLEVUE HOTEL, INTERLAKEN หรือระดับใกล้เคียง
***กรณีที่ห้องพักในอินเทอลาเค่นเต็มหรือติดงานเทรดแฟร์ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการจัดพักที่เมืองใกล้เคียงแทน***
เช้า : บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นเดินทางสู่ “เมืองลูเซิร์น” Luzern นำคณะชม “เมืองลูเซิร์น” Luzern เมืองที่ได้ชื่อว่านักท่องเที่ยวบันทึกภาพไว้มากที่สุดนำคณะไปถ่ายรูปกับ “อนุสาวรีย์สิงโต” อนุสรณ์รำลึกถึงการเสียชีวิตของทหารสวิสฯผู้ถวายการอารักขาแด่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ในสงครามปฏิวัติใหญ่ฝรั่งเศส นำท่านเดินชมเมืองเก่าเดินข้าม “สะพานไม้คาเปล” ที่มีชื่อเสียงที่สุดของลูเซิร์น ซึ่งเป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาคลุมตลอด ทอดตัวข้าม “ แม่น้ำรุซซ์” (Reuss) ซึ่งสร้างมากว่า 660 ปี เพื่อเชื่อมเขตเมืองใหม่ในฝั่งใต้และเขตเมืองเก่าในฝั่งเหนือ สะพานแห่งนี้เคยถูกไฟไหม้เมื่อปี 1993 แต่ก็ได้บูรณะใหม่จนมีสภาพใกล้เคียงของเดิม อิสระตามอัธยาศัยกับการเที่ยวชมบรรยากาศของเมืองเก่าที่สวยงาม นำท่านเดินทางเข้าสู่บริเวณจัตุรัสใจกลางเมือง “ชวาเน่นท์พลัทซ์” ให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าขึ้นชื่อของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นานาชนิด อาทิ มีดพับสวิสฯ ช็อคโกแล็ต ของซูวีเนียร์ต่างๆ และที่ท่านไม่ควรพลาดคือ นาฬิกายี่ห้อต่างๆที่มีชื่อเสียงของสวิสเซอร์แลนด์ จากร้านตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาชื่อดัง อาทิ บุคเคอเรอร์, กือเบอลิน, เอ็มบาสซี่ ฯลฯ หรือท่านที่เบื่อการช้อปปิ้ง สามารถเดินชมความงามของเมืองเก่าได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากในเขตเมืองเก่าลูเซิร์นจะมีอาคารเก่าแก่อยู่มากมายที่มีภาพจิตรกรรมอยู่บริเวณกำแพงหน้าบ้าน และมีน้ำพุที่สวยงามอยู่บริเวณจตุรัสของตัวเมือง นำท่านชม “เมืองซุก” (31 กม.) เมืองหลวงและแคว้นในเวลาเดียวกัน เป็นแคว้นที่ร่ำรวยมาก เนื่องจากบริษัทข้ามชาติมาเปิดออฟฟิซ ในแคว้นนี้มากที่สุด ทำให้อัตราการเก็บภาษีของแคว้นนี้ต่ำที่สุดในประเทศสวิส(อัตราการครอบครองรถหรูมากที่สุด ในสวิส)
เที่ยง : บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่าน “ล่องเรือชมความสวยงามของทะเลสาบซุก” ชมทัศนียภาพอยู่ท่ามกลางหุบเขา ตลอด 2 ฝั่ง ที่สวยงามน่ารัก ท่ามกลางบรรยากาศที่สุดแสนโรแมนติค จากนั้นนำท่านเดินชมโบสถ์กลางเมือง และตึกเก่าแก่อายุกว่า 500 ปี นำท่านเดินชมบริเวณริมทะเลสาบที่ทางรัฐบาลท้องถิ่นได้ลงทุนทำจุดชมชีวิตสัตว์น้ำใต้ทะเลสาบ ท่านจะเห็นพันธุ์ปลาชนิดต่างๆในทะเลสาบแห่งนี้ อิสระทุกท่านในถนนคนเดินที่มีร้านค้าพื้นเมือง ของที่ระลึกรวมทั้งนาฬิกาสวิสฯ ราคาพิเศษกว่าแคว้นอื่นๆ นำคณะชม“เมืองซูริค” Zurich ศูนย์กลางการเงิน,เศรษฐกิจและ การธนาคารของยุโรปซึ่งมอบชีวิตชีวาให้แก่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่ง “แม่น้ำลิมแม็ท” และทะเลสาบซูริค ตัวเมืองอุดมไปด้วยมีป่าไม้เขียวชอุ่ม แซมด้วยสถาปัตยกรรม อาคาร โรงแรม ร้านค้า บ้านพักตากอากาศกระจายตามบริเวณริมฝั่งทะเลสาบซูริค
ค่ำ : บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่ : DORINT HOTEL / HOLIDAY INN ZURICH HOTEL หรือระดับใกล้เคียง
เช้า : บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำคณะออกเดินทางเข้าสู่“เมืองซาฟเฮาส์เซ่น” Schaffhausen (51 กม.) เมืองชายแดนเยอรมัน-สวิสฯ ชมความสวยงามของน้ำตกไรน์ ซึ่งเกิดจากแม่น้ำไรน์สายน้ำนานาชาติที่สำคัญที่สุดในยุโรป แม่น้ำแห่งนี้เกิดขึ้นจากการละลายของหิมะจากเทือกเขาแอลป์เริ่มจากเป็นลำธารเล็กๆ ผ่านลิคเท่นสไตน์เข้าสู่ทะเลสาบคอนสแตนท์ที่กั้นพรหมแดนระหว่างสวิตเซอร์แลนด์กับเยอรมันนี ส่วนที่ล้นไหลออกจากทะเลสาบคอนสแตนท์ก่อกำเนิดแม่น้ำไรน์สายใหญ่ ไหลผ่านหน้าผาสูงชันที่เมืองซาฟเฮาส์เซ่นเกิดเป็น “น้ำตกไรน์ที่สวยงามที่สุดในยุโรปกลาง”
ได้เวลาอันควรนำท่านเดินทางสู่สนามบินซูริค นำคณะเช็คอิน และทำ TAX REFUNED
13.15 : เหิรฟ้ากลับสู่กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสายการไทย เที่ยวบินที่ TG971
06.10 : เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
อัตราค่าบริการนี้รวม
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
หมายเหตุ…โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมะสม เนื่องจากสภาพ ลม ฟ้า อากาศ,การล่าช้าอันเนื่องมาจากสายการบิน และสถานการณ์ในต่างประเทศที่ทางคณะเดินทางในขณะนั้น เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง โดยบริษัทฯ ได้มอบหมายให้ หัวหน้าทัวร์ผู้นำทัวร์ มีอำนาจตัดสินใจ ณ ขณะนั้นทั้งนี้การตัดสินใจ จะคำนึงถึงผลประโยชน์ของหมู่คณะเป็นสำคัญ
เงื่อนไขการสำรองที่นั่ง และการชำระเงิน
หมายเหตุ
– ค่าธรรมเนียมการยื่นวีซ่าและค่าดำเนินการ ทางสถานทูตจะไม่คืนค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้นแม้ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านการพิจารณา
– ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน หรือตั๋วเครื่องบินที่ออกมาจริง ณ วันยื่นวีซ่า ซึ่งตั๋วเป็นเอกสารที่สำคัญในการยื่นวีซ่า หากท่านไม่ผ่านการพิจารณา ตั๋วเครื่องบินถ้าออกตั๋วมาแล้วจะต้องทำการ REFUND โดยจะมีค่าธรรมเนียมที่ท่านต้องถูกหักบางส่วน และส่วนที่เหลือจะคืนให้ท่านภายใน 45-60 วัน (ตามกฎของแต่ละสายการบิน) ถ้ายังไม่ออกตั๋วท่านจะเสียแต่ค่ามัดจำตั๋วตามจริงเท่านั้น
– ค่าห้องพักในทวีปยุโรป ถ้าคณะออกเดินทางได้ และท่านไม่ผ่านการพิจารณาวีซ่า ตามกฎท่านจะต้องโดนค่ามัดจำห้องใน 2 คืนแรกของการเดินทางหากท่านไม่ปรากฏตัวตามวันที่เข้าพัก ทางโรงแรมจะต้องยึดค่าห้อง 100% ในทันที ทางบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ และมีเอกสารชี้แจงให้ท่านเข้าใจ
เงื่อนไขการยกเลิก
เอกสารที่ใช้ประกอบในการยื่นวีซ่า (ต้องมาโชว์ตัวที่สถานทูตพร้อมสแกนนิ้วมือทุกท่าน)
*** กรณีที่สถานทูตมีการเรียกสัมภาษณ์ กรุณาเตรียมเอกสารตัวจริงทั้งหมด ไปในวันนัดสัมภาษณ์ด้วย ***
***สถานทูตอาจมีการขอเอกสารอย่างอื่นเพิ่มเติม ตามดุลพินิจของสถานทูต อย่างกะทันหัน จึงขอความกรุณาเตรียมเอกสารเพิ่มเติมให้ครบถ้วน ตามที่สถานทูตขอ เพื่อความสะดวกในการพิจารณาอนุมัติ ออกวีซ่าสำหรับสถานทูต ***
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.