20.00 น. : คณะพร้อมกัน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น4 สนามบินสุวรรณภูมิเคาน์เตอร์สายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ (OS) พบเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก
23.45 น. : ออกเดินทางสู่สนามบินเมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ (OS) เที่ยวบินที่ OS26 (23:45–05:35(+1)) / OS561 (06:15–07:35) ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 12.50 ชั่วโมง (รวมเวลาแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย) บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง
07.35 น. : เดินทางถึงสนามบินเมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง)
***ให้ท่านแยกกระเป๋าใบเล็กสำหรับพัก1คืน เพื่อพักบนโรงแรมที่เมอร์เรน หมู่บ้านบนเทือกเขาแอลป์ เพื่อความสะดวกในการถือขึ้นเคเบิ้ลคาร์ ***
นำท่านเดินทางสู่เมืองซุก(Zug) เมืองเก่าที่คงความสวยงามของพื้นหินแบบยุโรปในยุคกลาง ชมหอนาฬิกาดาราศาสตร์(Clock Tower) ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของเมือง ซึ่งถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 นำท่านชมโบสถ์เซนท์ออสวอร์ล(St Oswald’s church) โบสถ์ศ์กดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของเมือง ตัวโบสถ์สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1478 ใช้เวลาการก่อสร้างนานถึง 6 ปี ถือเป็นหนึ่งใน สถาปัตยกรรมที่สำคัญที่สุดในช่วงโกธิคตอนปลายแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ เมืองแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่สะอาดที่สุดในยุโรป และมีพระอาทิตย์ตกดินสวยที่สุดในสวิสเซอร์แลนด์ นำท่านเยี่ยมชมลอห์ริ เฮ้าส์ ร้านช่างทอง (Europe`s oldest goldsmith–house) ที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป ร้านค้าที่ผลิตและจำหน่ายเครื่องประดับและนาฬิกาคุณภาพเยี่ยมที่่รวบรวมแบรนด์สวิสชั้นนำระดับโลก ทั้งจัดแสดงพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากที่ส่วนใหญ่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก
นำท่านเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น(Luzern) เมืองพักตากอากาศที่ได้ชื่อว่านักท่องเที่ยวบันทึกภาพไว้มากที่สุด มีทะเลสาบ ภูเขา ที่สวยงามท่ามกลางหุบเขา มองไปทางไหนก็จะเห็นภูเขาโอบล้อม ให้ท่านอิสระเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งที่มีร้านตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาชื่อดัง อาทิ บุคเคอเรอร์ กือเบอลิน เอ็มบาสซี่ ร้านขายของที่ระลึก ร้านช็อคโกแล็ตและช้อปปิ้งสินค้าชั้นดี ที่มีชื่อเสียงตามอัธยาศัย
นำท่านถ่ายรูปคู่กับ อนุสาวรีย์สิงโต(Lion Monument) ซึ่งแกะสลักอยู่บนหน้าผาของภูเขาในเมืองเป็นสัญลักษณ์ให้ระลึกถึงทหารรับจ้างชาวสวิส ซึ่งทำงานเป็นทหารรักษาพระองค์พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศส จากนั้นชม สะพานไม้ชาเปล(Chapel bridge) ซึ่งข้ามแม่น้ำรอยซ์(Reuss River) เป็นสะพานไม้ที่เก่าที่สุดในโลกมีอายุหลายร้อยปี เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของสวิส สะพานไม้ชาเปลเป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ ที่จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเป็นเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปีแล้ว
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ชเตเคิลแบร์ก(Stechelberg) เพื่อนั่งเคเบิ้ลคาร์ไปยังหมู่บ้านแสนสวยบนเขา หมู่บ้านเมอร์เรน(Murren) ในตำนานที่ได้ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดแห่งหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 1,650 เมตร เมืองนี้ขึ้นชื่อว่า เป็นเมืองที่ปราศจากรถยนต์ ที่อยู่ในอ้อมกอดของขุนเขาที่รายล้อมด้วยทิวทัศน์อันตระการตาของยอดเขาสามแห่ง ได้แก่ จุงเฟรา (Jungfrau) ไอเก (Eiger) และ มองซ์ (Monch) ให้ได้ชื่นชม ที่ดึงดูดให้ทุกคนต้องมาพิสูจน์ ความงามด้วยตาตนเองสักครั้งในชีวิต นำท่านเดินเล่นต่อไปตามทางเพื่อไปยังหมู่บ้านกิมเมลวาลด์(Gimmelwald) ซึ่งระยะทางเดิน เพียง 30 นาที แต่ด้วยธรรมชาติที่สวยงามยิ่งนัก ใช้เวลาเดินเล่นถ่ายรูปราวๆ 1 ชั่วโมง ชมวิวทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์หมู่บ้านสไตล์ชาเลต์แท้ๆ
เย็น : รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
พักที่ Hotel Alpenruh, Murren หรือเทียบเท่า
(โรงแรมบนภูเขา วิวแสนล้านท่ามกลางเทือกเขาแอลป์)
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำท่านขึ้นกระเช้าสู่ยอดเขาชิลธอร์น(Schilthorn) เพื่อไปชมทิวทัศน์แบบพาโนรามา ซึ่งมีความสูงกว่า 2,973 เมตร จึงทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันตระการตาของยอดภูเขาหิมะเลื่องชื่อ ทั้งจุงเฟรา ไอเก และมองซ์ ได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ชิลธอร์นยังเคยเป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง James Bond 007 ภาคยอดพยัคฆ์ราชินี “On Her Majesty’s Secret Service” กับฉากแอคชั่น ท่ามกลางหิมะ ซึ่งสวมบทบาทโดย จอร์จ เลเซนบี จึงทำให้บนนี้มีพิพิธภัณฑ์แบบอินเตอร์แอคทีฟของ Bond World 007 ที่จัดแสดงเรื่องราวน่ารู้จากภาคต่างๆ พร้อมให้ คุณได้สวมบทบาทบอนด์หรือสาวบอนด์กันได้อย่างสนุกสนาน อิสระให้ท่านได้ดื่มด่ำไปกับทัศนียภาพอันสวยงามของยอดเขา พร้อมออกไปสัมผัสความหนาวเย็นได้ที่ Skyline View Platform
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารหมุน 360 องศา บนยอดเขาชิลธอร์น
นำท่านเดินทางสู่เมืองอินเทอร์ลาเคน(Interlaken) เมืองตากอากาศสวยงามพร้อมทะเลสาบ 2 แห่งกลางเมืองท่ามกลาง เทือกเขาน้อยใหญ่ เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าค้นหาเมืองหนึ่งในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างทางนำท่านถ่ายรูปกับทะเลสาบเบรียนซ์(Brienz Lake) วิวสวยอีกแห่งของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ชมความสวยงามระหว่างทางกันบ้าง หมู่บ้าน และ เมืองน่ารัก หลายที่ตั้งอยู่ติดกับริมทะเลสาบ จากนั้นตามรอยซีรี่ย์ดัง Crash Landing On You ที่สะพานอิเซล์ทวาลด์(Iseltwald Bridge) ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งใต้ของทะเลสาบเบรียนซ์(Lake Brienz) วิวสวยธรรมชาติแบบสุด เรียกว่าหันหน้าทะเลสาบหันหลังคือเทือกเขา ให้ท่านเก็บภาพอย่างจุใจ
เย็น : รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร สุดพิเศษ!!! เมนูฟองดูว์ เมนูประจำชาติของสวิส
พักที่ Hotel Royal St.Georg, Interlaken หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองกรินเดลวัลด์(Grindelwald) เมืองสกีรีสอร์ทที่สวยที่สุดในโลกตั้งอยู่ในหุบเขารายล้อมด้วยภูเขาที่สวยงามเป็นสถานที่โรแมนติกที่สุด เมืองเล็กๆท่ามกลางโอบกอดของเทือกเขาแอลป์ที่แสนโรแมนติก นำท่านนั่งรถไฟขึ้นสู่ยอดเขาจุงเฟรา(Jungfrau) TOP OF EUROPE เมื่อถึงยอดเขาแล้วท่านจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันงดงามของยอดเขามากมายที่ปกคลุมด้วยหิมะ ชมถ้ำน้ำแข็ง 1,000 ปี ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี ชมงาน แกะสลักน้ำแข็งที่สวยงามอยู่ใต้ธารน้ำแข็ง 30 เมตร เก็บภาพความสวยงามและยิ่งใหญ่ของของ ธารน้ำแข็ง Aletsch ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป จากนั้นอิสระให้ท่านได้สัมผัสและเล่นสนุกกับการเล่นหิมะอย่างเต็มที่เก็บภาพที่ระลึกบนลานกว้างที่เต็มไปด้วยหิมะขาวโพลนให้ท่านได้สนุกสนานอย่างเต็มอิ่ม
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนจุงเฟราพร้อมวิวเขาแสนสวย
นำท่านเดินทางสู่เมืองเซนต์ กัลเลน(St. Gallen) ใกล้กับชายแดนประเทศออสเตรีย ที่ได้รับยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ขึ้นทะเบียนมรดกโลก เป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม สถานที่ที่ห้ามพลาดคือห้องสมุดโบราณ ตัวอาคารเองเป็นอาคารเก่าแก่สไตล์บารอคด้านในเป็นที่เก็บรวบรวมหนังสือโบราณจำนวนมากและว่ากันว่าเป็นห้องสมุดโบราณที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในบริเวณเดียวกันยังมีโบสถ์หอคอยคู่ที่เป็นศิลปะในยุคเดียวกัน
เย็น : รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
พักที่ Hotel Radisson Blu หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำท่านเดินทางเข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์(Neuschwanstein Castle) แห่งบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ปราสาทสวยที่แม้แต่ราชาการ์ตูนวอลท์ดิสนีย์ ยังหลงใหลนำไปเป็นปราสาทเจ้าหญิงนิทราในสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ ชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของตัวปราสาทที่โดดเด่นและมีทะเลสาบและธารน้ำ เปรียบได้กับปราสาท 3 ฤดู ไม่ว่าท่านจะเดินทางไปเยือนในช่วงฤดูไหน ก็จะมีทัศนียภาพที่แตกต่างกันออกไป ทุกห้องในปราสาท ตกแต่งงดงาม
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองฟุสเซ่น(Fussen) เมืองปลายทางสุดท้ายของถนนสายโรแมนติค แคว้นบาวาเรียทางตอนใต้ของเยอรมันติดกับชายแดนออสเตรีย เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเยอรมนีเก่าแก่นับพันปีที่ได้รับ ฉายาว่า Village of the king’s castles เพราะเป็นที่ตั้งของปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein) และโฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangau) ปราสาทสีขาว และสีเหลืองที่โด่งดังคู่กันเป็นเวลาช้านาน ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบน้อยใหญ่ที่มีความงดงามทางด้านทัศนียภาพ เป็นเมืองที่มีความน่ารัก และมีสิ่งที่น่าสังเกตอีกอย่างคือ ตัวตึกหรืออาคารบ้านช่องของทั้งเมืองจะตกแต่งไปด้วยสีสันที่สวยงาม อิสระให้ท่านเดินชมเมือง ให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง และแบรนด์เนมๆ
เย็น : รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร สุดพิเศษ!! เมนูขาหมู และเบียร์เยอรมัน
พักที่ Hotel Hirsch, Fussen หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองอินสบรูกค์(Innsbruck) ประเทศออสเตรีย ที่มีเทือกเขาแอลป์โอบรอบเมืองอย่างยิ่งใหญ่อลังการ เหมือนฉากในละครชีวิตจริง เป็นเมืองที่ฟ้ากว้างมาก พาชมใจกลางเมืองเก่า ที่ตั้งของบ้านหลังคาทอง(Goldenes Dachl) ไฮไลท์ของเขตเมืองเก่าอินน์สบรูค ที่นักท่องเที่ยวเกือบทุกคนอยากเห็นด้วยตาว่างดงามสมคำร่ำลือ หลังคาทอง ตึกนี้สร้างขึ้นตามพระราชประสงค์ของจักรพรรดิมาซิมิเลี่ยนที่1 เสร็จในช่วงปี ค.ศ.1500 ในสมัยนั้นพระองค์และราชินีจะไปประทับที่ระเบียง เวลามีงานเฉลิมฉลองด้านล่างบริเวณจัตุรัส และพิพิธภัณฑ์ดีๆ ในเมืองหลายแห่ง เมืองนี้ยังเป็นต้นกำเนิดของเครื่องประดับคริสตอลชื่อดังอย่าง Swarovski
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เข้าชมพิพิธภัณฑ์สวารอฟสกี วัตเตนส์(Swarovski Kristallwelten) เปิดให้บริการในปี 1995 เพื่อฉลองวาระครบรอบหนึ่งร้อยปีของการก่อตั้งบริษัท โดยมีอองเดร เฮลเลอร์ ศิลปินหลากสื่อเป็นผู้ออกแบบสถานที่ที่มีทั้งเอกลักษณ์โดดเด่นและความมหัศจรรย์ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ได้นำโอกาสมหัศจรรย์มามอบให้แก่นักท่องเที่ยวจำนวนกว่าสิบสองล้านคนที่เดินทางมาเยือนจากทั่วทุกมุมโลก ภายในพื้นที่กว้างขวางและเต็มไปด้วยความระยิบระยับ คุณจะได้พบกลุ่มผลิตภัณฑ์ครบทุกชนิด ตั้งแต่อัญมณีและเครื่องประดับ จนถึงประติมากรรมขนาดเล็ก และ SWAROVSKI OPTIK
นำท่านเดินทางสู่เมืองซาลซ์บวร์ก(Salzburg) เมืองเล็กๆ ที่แสนจะโรแมนติกของประเทศออสเตรีย ซาลซ์บวร์กได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 1997 เป็นเมืองอันดับต้นๆ ของออสเตรียที่มีผู้คนไปเยือนเป็นจำนวนมาก ในอดีตที่นี่เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านการทำเหมืองเกลือจนร่ำรวย และเมืองนี้ยังเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อก้องโลก The Sound of Music นอกจากนี้ยังเป็นเมืองเกิดของคีตกวีเอกของโลก โมซาร์ต ซึ่งตั้งอยู่บ้านเลขที่ 9 ถนน Getreidegasse ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนสภาพกลายเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อให้ความรู้กับผู้ที่สนใจได้สัมผัสโลกของศิลปินเอก และสถานที่ที่โดดเด่นอีกแห่งคือ ป้อมปราการโฮเฮนซาลซ์บวร์ก ที่สร้างอยู่บนเนินเขา
นำท่านเข้าชมสวนมิราเบล(Mirabell Garden) สถานที่แห่งนี้ถูกยกย่องให้เป็นสวนสาธารณะที่สวยที่สุดใน ซาลซ์บวร์ก โดยแต่เดิมนั้นถูกสร้างในรูปแบบของเรขาคณิตโดยตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้หลากสี โดยมีน้ำพุเป็นส่วนประกอบซึ่งเป็นสวนแบบบารอคที่สวยงาม ที่ได้มีการเปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้าชมความงามของสวนดังกล่าวในปี 1858 ที่สำคัญ สวนมิราเบล ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง เดอะซาวด์ออฟมิวสิค อีกด้วย นำท่านเดินทางสู่เมืองเซนต์วูฟกัง (St. Wolfgang) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบโวล์ฟกัง (Wolfgang) โดยหมู่บ้านนี้ตั้งชื่อตามนักบุญ Wolfgang ซึ่งเป็นชาวเยอรมันโดยกำเนิดและยังเป็น 1 ใน 3 นักบุญที่โดดเด่นในช่วงศตวรรษที่10 อีกด้วย เดินเล่นและถ่ายภาพความสวยงามของ หมู่บ้านซังคท์ โวล์ฟกัง ซึ่งถือว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สวยงาม และโรแมนติคที่สุดเมืองหนึ่งของออสเตรีย อันเป็นสถานที่ประทับใจของนักท่องเที่ยวทุกครั้งที่มาเยือน กระทั่งได้เวลาอันสมควร
เย็น : รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
พักที่ Hotel Scalaria, St.Wolfgang หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำท่าเดินทางสู่หมู่บ้านฮัลล์สตัทท์(Hallstatt) หมู่บ้านโบราณเก่าแก่เล็กๆ ในแถบ Salzkammergut ริมทะเลสาบ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางขุนเขาอันแสนโรแมนติก และได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในพิกัดที่มีทัศนียภาพสวยงามที่สุดของแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย กับความงดงามตามธรรมชาติสุดคลาสสิคของหุบเขาสูงที่โอบล้อมทะเลสาบอันนิ่งสงบที่มีน้ำใสราวกับกระจกคริสตัล ที่พร้อมสะท้องภาพความอลังการของขุนเขาใหญ่ที่มีหิมะสีขาวปกคลุมสวยๆ ตรงหน้าให้เพิ่มความอลังการขึ้นอีกเป็นทวีคูณ ไปพร้อมๆ กับบรรยากาศอบอุ่น สบายเป็นกันเองของหมู่บ้านเก่าแก่เล็กๆ สุดน่ารักซึ่งเติมไปด้วยร่องรอยอารยธรรมของประวัติศาสตร์
นำท่านเดินทางสู่เมืองลินซ์(linz) เมืองที่สวยงามทางตอนเหนือของออสเตรียมีแม่น้ำดานูบใหลผ่าน ในฐานะที่เป็นเมืองใหญ่อันดับสามของประเทศออสเตรียเมืองที่มีความสำคัญและเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย การผสมผสานที่ยอดเยี่ยมของอาคารประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมที่น่าทึ่งพื้นที่สีเขียวและนวัตกรรมที่ทันสมัย
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านผ่านชมศาลาว่าการเมืองเวียนนา(Rathaus) ตึกศาลากลางแห่งนี้ออกแบบโดย ฟรีดริช ชมิดท์(Friedrich Schmidt) ปัจจุบันตึกนี้ใช้เป็นที่ทำการหลักของเวียนนา และลานด้านหน้าใช้เป็นที่จัดงานสำคัญของเมือง นำท่านถ่ายภาพคู่พระราชวังโฮฟบวร์ก(Hofburg Palace) เดิมเป็นนพระราชวังฤดูหนาวของราชวงศ์โฮฟบวร์ก ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเวียนนา นำท่านแวะถ่ายรูปคู่โบสถ์เซนต์สเตฟาน (St.Stephen Cathedral) เป็นโบสถ์เก่าแก่สร้างในศิลปะโกธิกตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 ถือเป็นโบสถ์คู่บ้านคู่เมืองของประเทศออสเตรีย
เย็น : รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
พักที่ Hotel Mercure Wien, Vienna หรือเทียบเท่า
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำท่านชมพระราชวังเชินบรุนน์(Schoenbrunn Palace) แห่งราชวงศ์ฮัปส์บูร์ก เริ่มมีประวัติการสร้างมาตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 ต่อมาได้มีการปรับปรุงและสร้างขึ้นใหม่อย่างสง่างามด้วยจำนวนห้อง 1,441 ห้อง ซึ่งรวบรวมผลงานทางศิลปะการตกแต่งชั้นเยี่ยมจำนวนมาก ในระหว่างปีค.ศ.1744-1749 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน ให้ท่านชมความงามของท้องพระโรงและพลับพลาที่ประทับซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตร มีการจัดทำสวนดอกไม้สวยมากมายใช้เป็นสวนพักผ่อนเดินเล่นที่ออกแบบได้อย่างลงตัว รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากในกรุงเวียนนา
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ให้ท่านอิสระถนนสายช้อปปิ้งกลางกรุงเวียนนา เป็นถนนคนเดินและช้อปปิ้งสายสำคัญแห่งกรุงเวียนนา มีห้างสรรพสินค้า ร้านค้าต่างๆ เรียงรายตลอดสองข้างถนน ที่ถูกใจขาช้อปเพราะมีสินค้าให้เลือกมากมาย อาทิ เสื้อผ้าแบรนด์เนมยอดนิยม สินค้าแบรนด์เนมแบบนาฬิกา ROLEX , LOUIS VUITTON และอีกมากมาย อีกทั้งเครื่องแก้วคริสตัลเจียระไน ของสะสมหรือของที่ระลึกต่างๆ
ได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางสู่สนามบินกรุงเวียนนา เพื่อตรวจเช็คเอกสารการเดินทางและสัมภาระเตรียมตัวเดินทางกลับ
23.20 น. : ออกเดินทางจากเมืองเวียงนา กลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ (OS) เที่ยวบินที่ OS25 (23:20–14:20(+1)) ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง
14.20 น. : เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
หมายเหตุ : บริการไม่รวมในรายการทัวร์ !!!
1.ตรวจ RT-PCR เพื่อออกเอกสารใช้ในการเช็คอินขากลับประเทศไทยค่าใช้จ่าย ส่วนนี้ไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์
(อัตราค่าบริการตรวจอาจมีการเปลี่ยนแปลง ณ วันเดินทาง)
2.กลับถึงไทย ค่าที่พักใน AQ/SHA+1วัน รอผลตรวจ RT-PCR ค่าใช้จ่ายไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์
ดูรายชื่อโรงแรม SHA+ ได้ที่ https://www.shathailand.com หรือ https://www.thailandsha.com
เงื่อนไขการให้บริการ
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.