กัสโต้ เวิล์ด ทัวร์
บริการคุณภาพ ทุกเส้นทางท่องเที่ยว
เลขที่ 11/03295
20.00 น.
พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประตูหมายเลข 2 เคาน์เตอร์ C สายการบินไทย เจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและสัมภาระ
23.15 น.
ออกเดินทางสู่ สนามบินฮาเนดะ ประเทศญี่ปุ่น โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 682 (สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
06.55 น.
เดินทางถึง สนามบินฮาเนดะ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชม.) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว [สำคัญมาก!!ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้]
เมืองคามาคุระ เป็นเมืองชายฝั่งเล็กๆในเขตจังหวัดคานากาว่า(Kanagawa) ที่ดึงดูดเหล่านักท่องเที่ยวให้แวะมาเยี่ยมเยียน ถูกขนานนามให้เป็น “เกียวโตแห่งฝั่งตะวันออก” เพราะว่ามีทั้งวัดและศาลเจ้าอันเก่าแก่ อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์มากมาย นำท่านสักการะ “หลวงพ่อโต” (Daibutsu) แห่งวัดโคโตคุอิน (Kotokuin Temple) เป็นรูปหล่อโลหะที่สูง 13.35 เมตรตั้งอยู่กลางลานวัด ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศญี่ปุ่น
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 1)
หุบเขาโอวาคุดานิ เกิดจากการปะทุของภูเขาคามิ (Kamiyama) ในช่วงที่ภูเขาไฟฮาโกเน่ระเบิดปัจจุบันใต้พื้นผิวยังคงมีความร้อนและมีแร่กำมะถันในปริมาณมาก ทำให้น้ำที่อยู่ข้างใต้ระเหยกลายเป็นไอน้ำกลิ่นกำมะถันออกมาด้านบน ส่วนของชื่อประจำหุบเขานี้ ก็คือ“ไข่ดำ (Kuro Tamago)” ซึ่งเป็นการนำไข่ไปต้มด้วยน้ำแร่กำมะถันที่ผุดขึ้นมา และสีดำของเปลือกไข่มาจากสีของกำมะถันนั้นเอง คนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าหากได้กินไข่ดำ 1 ฟองจะทำให้อายุยืนขึ้นอีก 7 ปีเลยทีเดียว
นำท่านเดินทางสู่ โกเทมบะ พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท เป็น Outlet ที่ใหญ่ที่สุดในละแวก ฟูจิ ฮาโกเน่ อยู่ห่างจากโตเกียวประมาณ 90 นาที และเป็นทางผ่านสำหรับการไปเที่ยวภูเขาไฟฟูจิและทะเลสาบฮาโกเน่ (Hakone) มีบรรยากาศการช้อปปิ้งแบบกลางแจ้งภายในมีร้านค้ากว่า 200 ร้าน และศูนย์อาหาร รวมถึงชิงช้าสวรรค์ที่สูง 50 เมตร มีสินค้าแบรน์เนมของญี่ปุ่นหรือของต่างชาติ เช่น Prada,Burburry,Coach ,Nike ,Adidas ,Dior ,Hugo boss ฯลฯ
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 2) เมนูขาปูยักษ์สไตล์ญี่ปุ่น
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 3)
ภูเขาไฟฟูจิ (Mt.Fuji) ที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือเกาะญี่ปุ่นด้วยความสูง 3,776 เมตร จากระดับน้ำทะเล นำท่านขึ้นชมความงามกันแบบใกล้ชิดยังบริเวณ “ชั้น 5” ของภูเขาไฟฟูจิ (ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ) เพื่อชมทัศนียภาพโดยรอบของภูเขาไฟที่ สามารถมองเห็นทะเลสาบทั้งห้ากระจายอยู่โดยรอบ ให้ท่านได้สัมผัสอากาศอันบริสุทธิ์บนยอดเขาฟูจิ ถ่ายภาพที่ระลึกกับภูเขาไฟที่ได้ชื่อว่ามีสัดส่วนสวยงามที่สุดในโลก ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังดับไม่สนิท และมีความสูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
หมายเหตุ: ในกรณีที่ ภูเขาไฟฟูจิไม่สามารถขึ้นได้เนื่องจากสภาพอากาศ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนโปรแกรมทัวร์เป็น Fuji Visitor Center ซึ่งท่านสามารถศึกษาความเป็นมาของภูเขาไฟฟูจิและเลือกซื้อของที่ระลึกเกี่ยวกับภูเขาไฟฟูจิได้ และยังเป็นจุดถ่ายรูปกับภูเขาไฟฟูจิได้สวยงามในช่วงฤดูหนาว
นำท่านขึ้น กระเช้าคาจิคาจิ (Kachi Kachi Ropeway) ระยะทาง 400 เมตร เชื่อมต่อชายฝั่งตะวันออกของทะเลสาบคาวากูจิโกะ กับดาดฟ้า ท่านจะได้ชมวิวใกล้ยอด ภูเขาเทนจ (Mount Tenjo) ที่สูงประมาณ 1,000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ที่มีทัศนียภาพอันงดงามของทะเลสาบด้านล่าง และหากสภาพอากาศดีท้องฟ้าเปิดสามารถเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิได้จากจุดนี้
หมู่บ้านโอชิโนะฮักไค (Oshino Hakkai Village) เป็นจุดท่องเที่ยวที่สร้างเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีฉากหลังเป็น ภูเขาไฟฟูจิ ประกอบด้วยบ่อน้ำ 8 บ่อในโอชิโนะ ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบคาวากูจิโกะกับทะเลสาบยามานาคาโกะซึ่งเป็นพื้นที่เก่าของทะเลสาบแห่งที่ 6 ที่แห้งขอดไปเมื่อ 200-300 ปีที่ผ่านมา บ่อน้ำทั้ง 8 นี้เป็นน้ำจากหิมะที่ละลายในช่วงฤดูร้อน ที่ไหลมาจากทางลาดใกล้ๆภูเขาไฟฟูจิผ่านหินลาวาที่มีรูพรุนอายุกว่า 80 ปี ทำให้น้ำใสสะอาดเป็นพิเศษ ถัดไปอีกบ่อหนึ่ง นักท่องเที่ยวสามารถดื่มน้ำเย็นจากแหล่งน้ำได้โดยตรง นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านจำหน่ายของที่ระลึก และซุ้มรอบๆบ่อที่ขายทั้งผัก ขนมหวาน ผักดอง งานฝีมือ และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นอื่นๆ บางร้านยังขายมันเทศหวานย่าง และขนมแซมเบ้ บนเตาเล็กๆ กลางแจ้งส่งกลิ่นหอมชวนให้ลิ้มรสอีกด้วย
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 4)
สัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น นั่นก็คือ การเรียนพิธีชงชาญี่ปุ่น (Sado) โดยการชงชาตามแบบญี่ปุ่นนั้น มีขั้นตอนมากมาย เริ่มตั้งแต่ การชงชา การจับถ้วยชา และการดื่มชา ทุกขั้นตอนนั้นล้วนมีขั้นตอนที่มีรายละเอียดที่ประณีตและสวยงามเป็นอย่างมาก และท่านยังมีโอกาสได้ลองชงชาด้วยตัวท่านเองอีกด้วย ซึ่งก่อนกลับให้ท่านอิสระเลือกซื้อของที่ฝากของที่ระลึกตามอัธยาศัย
เดินทางสู่ เมืองเก่าคาวาโกเอะ (Kawagoe) ได้รับการขนานนามว่าเป็นลิตเติลเอโดะ เพราะมีบรรยากาศที่มีความเป็นเมืองเก่าที่ได้กลิ่นอายโบราณ ทำให้รู้สึกเหมือนได้ย้อนยุค ได้ซึมซับบรรยากาศของโกดังเก่า ที่เรียงรายกันยาวตลอดระยะทางกว่า 700เมตร ในสมัยก่อนเป็นสถานที่เก็บกักเสบียงอาหารเพื่อส่งไปให้เมืองเอโดะ (โตเกียวในปัจจุบัน) แต่ในปัจจุบันได้ถูกเปลี่ยนเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกไม่ว่าจะเป็นร้านขนมที่ทำจากมันหวานสีเหลืองและสีม่วงอันเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของเมืองนี้และสถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียงของเมืองคาวาโกเอะ
หอระฆังโทคิโนะคาเนะ (Toki no kane) สัญลักษณ์ของเมืองคาวาโกเอะเป็นสถาปัตยกรรมที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ในสมัยเอโดะสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ตีบอกเวลาในสมัยอดีต และในช่วงปีค.ศ 1893 หอระฆังนี้ถูกไฟไหม้จึงถูกสร้างขึ้นมาใหม่ให้เราได้ชมกันในปัจจุบัน และใน 1 วันระฆังนี้จะถูกตีบอกเวลาถึง 5ครั้งเหมือนในอดีตคือในเวลา 6.00น.12.00น.15.00น. และ 18.00น.และเราสามารถแวะเข้าไปชมศาลเจ้าขนาดเล็กในหอระฆังได้ไม่มีค่าใช้จ่าย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 5)
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 6 )
นำท่านเดินทางสู่ นิกโก้ (Nikko) เมืองมรดกโลกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,200 ปี เป็นที่ตั้งของสุสานของโชกุนโทะกุงะวะ อิเอะยะซุ กับโทะกุงะวะ อิเอะมิสึ โดดเด่นทั้งด้านทิวทัศน์ สถาปัตยกรรม
สะพานชินเคียว ซึ่งเป็น “สะพานศักดิ์สิทธิ์” ตั้งอยู่บริเวณประตูทางเข้าศาลเจ้าและวัดนิกโก้ สะพานชินเคียวนั้นได้รับการจัดอันดับให้ติด 1 ใน 3 ของสะพานที่สวยที่สุดของประเทศญี่ปุ่นร่วมกับสะพานคินไตเคียว (Kintaikyo Bridge) ที่อิวาคูนิ กับสะพานซารุฮาชิ (Saruhashi) ที่ยามานาชิ,โอสึกิ โดยสะพานชินเคียวนั้นเรียกได้ว่าเป็นของศาลเจ้าฟูทาราซัง (Futarasan Shrine) โครงสร้างสะพานปัจจุบันสร้างขึ้นในปี 1636 แต่เริ่มแรกที่สร้างขึ้นไม่เป็นที่ชัดเจน จนกระทั่งปี 1973 ได้เปิดให้ประชาชนเข้าชม และมีการปรับปรุงซ่อมแซมเมื่อปลายปี 1990 และต้นยุค 2000
ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine) ศาลเจ้าที่สร้างเพื่อเป็นสถานที่ฝังศพโชกุนโทกุงาว่า ที่เก่าแก่นับ 4 ศตวรรษ ตั้งแต่สมัยโชกุนโตกุกาว่า อิเยยะสึ อาคารแต่ละหลังจะสร้างจากไม้ลงลายสีทอง มีสถาปัตยกรรมไม้แกะสลักที่วิจิตรตระการตาทั้งสวยงามในแง่ของศิลปะและที่แฝงแง่มุมทางปรัชญา ทางเข้าจะเป็นซุ้มประตูโยเมมง (Yomeimon) เป็นซุ้มประตูที่สวยงาม มีขนาดใหญ่ ด้านในเป็นอาคารไม้ มีรูปลิงแกะสลัก 3 ตัว อยู่ในท่า ปิดหู ปิดปาก ปิดตา หมายถึง การไม่ดู ไม่ฟัง ไม่พูดในสิ่งไม่ดี และบริเวณซุ้มประตูก่อนขึ้นบันไดไปสุสานฯ มีรูปแกะสลักไม้ที่มีชื่อเสียง เป็นรูปแมวหลับ เป็นผลงานของ Hidari Jingoro ที่สำคัญศาลเจ้าแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกทางวัฒนธรรม
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร ภายในเอโดะ วันเดอร์แลนด์
เดินทางสู่ เอโดะ วันเดอร์แลนด์ (Edo wonderland) พาทุกท่านทำกิจกรรม ย้อนอดีตสวมชุดกิโมโน เดินลัดเลาะไปตามถนนของเอโดะ สัมผัสกับโลกแสนอัศจรรย์ที่เอโดะ วันเดอร์แลนด์ มีหลายสิ่งรอท่านอยู่ พร้อมนำท่านชมโชว์การแสดงยอดนิยมภายในหมู่บ้าน อาทิ การแสดงของนินจาคาราสิโกเท็น, การแสดงของบรรดาหญิงคณิกา โออิรัน, โรงละครเจ้าแมวเนียงมาเกะ เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่และความประทับใจกลับไป
เย็น
อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 7)
อิสระช้อปปิ้งในโตเกียว ไกด์แนะนำท่านเดินทางโดยรถไฟ เพื่อไปเที่ยวย่านดังในโตเกียวและแหล่งช้อปปิ้ง อาทิ ย่านชินจุกุ (Shinjuku shopping) สถานบันเทิงและแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ใจกลางเมืองโตเกียว เป็นศูนย์รวมแฟชั่นเก๋ๆ เท่ห์ๆ ของเหล่าบรรดาแฟชั่นนิสต้า มีสถานีรถไฟชินจูกุที่เป็นเหมือนศูนย์กลางของของย่านนี้
คาบูกิโจ (Kabuki-jo) เป็นย่านที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่อย่าง Big Camera และย่านบันเทิงยามราตรีที่มีร้านอาหารเยอะแยะมากมาย เช่นร้านอิซากายะ (Izakaya)
ย่านฮาราจูกุ (Harajuku) แหล่งช้อปปิ้งมีสไตล์ ย่านฮาราจูกุท่านจะพบกับเหล่าวัยรุ่นญี่ปุ่นแต่งตัวคอสเพลย์ สนุกไปกับการแต่งตัวเพลิดเพลินเป็นแฟชั่นของตัวเองที่มีอิสระในการแต่งตัวน่ารักหลากหลายสไตล์ทั้งแนวโลลิต้าสุดคิ้ว แนวกอทิกสุดเท่ หรือแนวเดคอร่าเก๋ๆ วิกสีสันโดดเด่นแปลกตา อยากได้เสื้อผ้า ถุงเท้า เครื่องประดับสวยๆ ต้องห้ามพลาดกับเมืองฮาราจูกุประเทศญี่ปุ่น
ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine) หนึ่งในศาลเจ้าที่โด่งดังในกรุงโตเกียว สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่บูชาดวงวิญญาณของจักรพรรดิเมย์จิและจักรพรรดินีโชเกน ในระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ศาลเจ้าเมจิได้ถูกทำลายลง แต่ภายหลังได้มีการบูรณะและสร้างขึ้นมาใหม่จนถึงปัจจุบัน ซึ่งศาลเจ้านี้ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีฮาราจูกุ (Harajuku Station) อยู่ติดกับสวนโยโยกิ (Yoyogi Park) และบริเวณทางเข้าจะมีเสาโทริอิขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้า เมื่อเดินผ่านเข้ามาจะเป็นป่าใจกลางเมือง มีต้นไม้อยู่มากถึง 1 แสนต้น หรือที่เรียกกันว่า Meiji Jingu’s forest ร่มรื่นมาก คนญี่ปุ่นมักจะมาเดินเล่นและออกกำลังบริเวณนี้
ย่านชิบูย่า (Shibuya) เต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหารที่ทันสมัย สถานที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม คลับ และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนั้นยังมีสถานที่ต่างๆ ที่คนต่างชาติรู้จักเป็นอย่างดี อาทิรูปปั้นฮาจิโกะ สุนัขผู้ซื่อสัตย์ที่กลายเป็นจุดนัดพบและสถานที่ที่หากใครมาเยือนชิบูย่าต้องแวะมาถ่ายรูป ห้าแยกชิบูย่าที่มีคนเดินสวนกันไปมาจนตาลายบริเวณ ชิบูย่าเซ็นเตอร์ไก (Shibuya Center-gai) ถนนช้อปปิ้งแหล่งรวมตัวของวัยรุ่น อากิฮาบาระ (Akihabara) เป็นแหล่งช็อปปิ้งสุดคึกคักที่ขึ้นชื่อเรื่องร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มีตั้งแต่ร้านเล็กๆ ไปจนถึงศูนย์การค้าขนาดใหญ่ เช่น ห้างโยโดบาชิ มัลติมีเดีย อากิบะ นอกจากนี้ ยังมีร้านที่เน้นขายหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น แอนิเมชัน
* เพื่อให้ท่านได้สนุกสนานอย่างเต็มที่จึงไม่มีบริการอาหารกลางวันและอาหารค่ำ *
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 8)
ชมซากุระ ส่วนอูเอโนะ (Ueno Park) เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ของโตเกียว ภายในมีทั้งวัด ศาลเจ้า ทะเลสาบ และสวนสัตว์ มีต้นไม้มากมาย ให้บรรยากาศร่มรื่นจึงเป็นสถานที่ที่ชาวโตเกียวนิยมมาพักผ่อนกัน และในฤดูใบไม้ผลิของทุกๆปีสวนอุเอโนะจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการมาชมซากุระ โดยจะมีต้นซากุระเรียงรายอยู่ทั้งสองข้างยาวไปตามทางเดินภายในสวน มีจำนวนมากกว่า 1,000 ต้น ทำให้ดึงดูดผู้คนจำนวนมากมาเยี่ยมชมในเทศกาลชมดอกซากุระ (โดยปกติซากุระจะบานประมาณปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
วัดอาซากุสะ หรือ วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) วัดที่ว่ากันว่า เก่าแก่ที่สุดในกรุงโตเกียว ซึ่งเคยเป็นวัดที่เหล่าโชกุนและซามูไรให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมากในอดีต นำท่านนมัสการ องค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำ ที่ประดิษฐานในวิหารหลังใหญ่ (อยู่หลังฉากม่านกั้น) และ ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับ “คามินาริมง (ประตูฟ้าคำรณ)” ซึ่งมีโคมไฟสีแดงที่ได้ชื่อว่าเป็น “โคมไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก” มีความสูงใหญ่ถึง 4.5 เมตร อีกทั้งยังมี “ถนนนากามิเสะ”ถนนร้านค้าแหล่งรวมสินค้าของที่ระลึกต่างๆ มากมาย อาทิ พวงกุญแจ ตุ๊กตาแมวกวัก ดาบซามูไร ชุดกิโมโน ร่มญี่ปุ่น หรือ ขนมอาเกมันจู ขนมขึ้นชื่อของวัดอาซากุสะ
พาท่านเดินสู่ริมแม่น้ำสุมิดะเพื่อ ชมซากุระ ที่ตั้งอยู่เรียงราย 2 ฝั่งริมแม่น้ำสุมิดะ ซึ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่นี่จัดเป็นสถานที่อีกแห่งที่จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ ที่คนญี่ปุ่นนิยมเดินทางมาถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศและเดินชมดอกซากุระ อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจไปกับซากุระ และ หอคอยที่สูงที่สุดในโลก หอคอยโตเกียวสกาย ทรี (Tokyo Sky tree) ที่เปิดเมื่อ 22 พฤษภาคม 2555 มีความสูง 634 เมตร และสามารถทำลายสถิติความสูงของหอกวางตุ้ง ในมณฑลกว่างโจว ซึ่งมีความสูง 600 เมตร กับ CN Tower ในนครโตรอนโต ของแคนาดา ที่มีความสูง 553 เมตร (โดยปกติซากุระจะบานประมาณปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 9)
โอไดบะ (Odaiba) เป็นเกาะรวมศูนย์กลางความบันเทิง ย่านเมืองใหม่ที่เกิดจากการถมทะเลขึ้นมาเป็นเกาะ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1850 เกาะนี้เป็นที่แสดงให้เห็นถึง วิสัยทัศน์ และศักยภาพของชาวญี่ปุ่น ที่สามารถสร้าง สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ขึ้นมาให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าหลากหลายชนิดที่ ห้างไดเวอร์ซิตี้ ซึ่งภายในมีร้านค้า ร้านอาหาร และแหล่งบันเทิงมากมาย และให้ท่านถ่ายรูปกับกันดั้มตัวใหม่ RX-0 Unicorn ขนาดเท่าของจริง ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก ในบริเวณห้าง ก็จะมีร้านค้าสำหรับคอกันดั้ม อย่างกันดั้มคาเฟ่ ห้างสรรพสินค้าอควาซิตี้ ห้างดังของย่านนี้ที่ไม่ควรพลาด เพราะทั้งร้านค้าไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าต่างๆ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และโรงภาพยนตร์ที่มีถึง 13 โรงด้วยกัน จุดเด่นของที่นี่อยู่ที่ชั้น 5 เป็น ราเม็ง ฟู๊ด ทีมพาร์ค รวบรวมราเม็งชนิดต่างๆจากทั่วประเทศญี่ปุ่นมาไว้ที่นี่
เย็น
อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย ได้เวลาอันสมควร พาทุกท่านเดินทางสู่สนามบินฮาเนดะ
00.20 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 682 (สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
05.25 น
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
หมายเหตุ
