17.30 นัดหมายพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โปรดสังเกตุป้าย เลทส์โกกรุ๊ป พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกเช็คอินให้แก่ท่าน
19.30 ออกเดินทางสู่ สนามบินเตินเซินเญิ้ต ประเทศเวียดนาม โดยสายการบิน Vietnam Airlines เที่ยวบินที่ VN606 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
21.20 เดินทางถึง สนามบินเตินเซินเญิ้ต ประเทศเวียดนาม
23.00 นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน โดยสายการบิน Vietnam Airlines เที่ยวบินที่ VN 31 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
06.30 เดินทางถึง สนามบินแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน หลังจากนั้นนำท่านผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองรับสัมภาระพร้อมออกเดินทางตามรายการ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) นำท่านเดินทางไปยัง เมืองแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt) เมืองที่ตั้งอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำไมน์ ประเทศเยอรมัน เป็นเมืองที่มีประวัติต่อเนื่องอันยาวหลายศตวรรษเคยเป็นสถานที่ซึ่งกษัตริย์และจักรพรรดิหลายพระองค์เคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีราชาภิเษกในปัจจุบัน นอกจากนี้ แฟรงเฟิร์ตยังเป็นเมืองศูนย์กลางของการคมนาคมการค้าของประเทศเยอรมันและเป็นเมืองที่มีความร่ำรวยมากที่สุดในสหภาพยุโรป
นำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสโรเมอร์ (Romer Square) เป็นหัวใจของเมืองเก่าเล็กๆ เป็นสิ่งก่อสร้างประวัติศาสตร์ที่ยังคงหลงเหลือภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ที่บริเวณนี้ถูกทิ้งระเบิดจากฝ่ายพันธมิตรเมื่อคืนวันที่ 22 มีนาคม ค.ศ.1944 อาคารบริเวณนี้ประกอบด้วย โบสถ์เซนต์นิโคลาส และอาคารยุคกลางลักษณะกรอบไม้ซุง งานประติมากรรมงดงามนี้ชื่อ Gerechtigkeitsbrunnen หรือ น้ำพุแห่งความยุติธรรม(Fountain of Justice) เป็นเทพธิดาแห่งความยุติธรรมชื่อจัสทิเตีย (Goddess Justitia) ตั้งอยู่กลางจัตรัส มือซ้ายถือตราชั่งแต่ มือขวาถือดาบ ดูน่าเกรงขาม ศาลาว่าการเมืองเก่า (City hall หรือ Rathaus) เป็นอาคาร 3 หลังสร้างติดกัน ด้านหน้าของอาคารประกอบด้วยรูปปั้นของจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ 4 พระองค์ ตราเครื่องหมายของตระกูลขุนนาง และนาฬิก
นำท่านชม มหาวิหารแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt Cathedral) มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ถูกสร้างขึ้นแบบโกธิคสไตล์ในช่วงศตวรรษที่ 13 ซึ่งในอดีตกาลมหาวิหารแห่งนี้ยังใช้เป็นสถานที่ในการเลือกตั้งผู้ปกครองแคว้นแห่งโรมันคริสตจักร และเป็นสัญลักษณ์แห่งศูนย์รวมจิตใจของชาวเยอรมันตั้งแต่ศตวรรษที่19 เป็นต้นมา
นำทุกท่านเก็บภาพความประทับใจกับ สถานีรถไฟหลักแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt Main station) เป็นสถานีรถไฟที่มีผู้โดยสารมากที่สุดในเมืองแฟรงก์เฟิร์ต จัดเป็นสถานีรถไฟที่มีผู้โดยสารมากที่สุดเป็นอันดับสองในประเทศ นำท่านอิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัยที่ Zeil Street เป็นย่านการค้าใจกลางเมืองแฟรงค์เฟิร์ต ที่มีอาคารหรูหรา เด่นสะดุดตาด้วยการออกแบบทันสมัยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นสินค้าแบรนด์ดังที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารจีน
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโคโลญ (Cologne) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที) เมืองสำคัญริมแม่น้ำไรน์ และเป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของ ประเทศเยอรมัน (Germany) ศูนย์กลางทางการค้า งานศิลปะ และอุตสาหกรรม ทั้งยังเป็นแหล่งผลิตน้ำหอมออดิโคโลญ 4711 อันลือชื่อ นำท่าน ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กับ มหาวิหารแห่งเมืองโคโลญ (Cologne Cathedral) เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 1248 แต่มีปัญหาให้ต้องหยุดพักการก่อสร้างไป จึงต้องใช้เวลากว่า 600 ปีจึงสร้างเสร็จสมบูรณ์ และสร้างเสร็จในปี 1880 มหาวิหารโคโลญเป็นศาสนสถานของคริสต์ศาสนาโรมันคาทอลิก นับเป็นวิหารที่ใหญ่และสูงที่สุดในโลกในสมัยนั้น ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบกอธิก เป็นหอคอยแฝดสูง 157 เมตร กว้าง 86 เมตร ยาว 144 เมตร สร้างเพื่ออุทิศให้นักบุญปีเตอร์ และพระแม่มารี ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1996
นำทุกท่านไปเก็บภาพความประทับใจที่ สะพานโฮเอินซอลเลิร์น (Hohenzollern Bridge) เป็นสะพานประจำเมืองโคโลญคู่กับมหาวิหารโคโลญ เป็นสะพานข้ามแม่น้ำไรน์ที่มีทั้งทางรถไฟและทางเดินเท้า โดยบริเวณรั้วที่กั้นระหว่างทางเดินและทางรถไฟเป็นบริเวณที่นักท่องเที่ยวนิยมมาคล้องกุญแจแห่งความรัก เป็นอีกหนึ่งสีสันหนึ่งของการท่องเที่ยวเมืองโคโลญในปัจจุบัน อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัยที่ Stadt Koln หรือ ย่านเมืองโคโลญ
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารท้องถิ่น
ที่พัก Mercure Hotel Koln West, Cologne ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางไปช้อปปิ้งที่ Designer Outlet Roermond เมืองโคโลญ เป็นเอาท์เล็ทที่มีชื่อเสียงและแบรนด์ชื่อดังมากมาย จุดเด่นของที่นี่คือมีร้านแบรนด์เนมหรูหราปักหลักอยู่หลากหลายแบรนด์ให้ท่านได้เลือกช้อปกระเป๋ากันอย่างจุใจ อาทิ GUCCI, PRADA, TODS, DOLCE&GABBANA, TAG HEUER, TODS และอื่นๆอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นอีกอย่างคือ ที่ Designer Outlet Roermond จะเปิดให้บริการ ปีละ 363 วันกันเลยทีเดียว (ยกเว้นวันคริสต์มาสและวันปีใหม่) เรียกได้ว่าเอาใจขาช้อปกันแบบสุดๆไปเลย
เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นรบกวนเวลาช้อปปิ้ง
นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านกีธูร์น (Giethoorn) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) หมู่บ้านในฝันที่ปราศจากถนน ใช้การโดยสารผ่านทางเรือบนคลองรอบหมู่บ้านเท่านั้น มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะ ” เวนิสแห่งเนเธอร์แลนด์ (Venice of Netherland) ” จากการที่เป็นหมู่บ้านปราศจากถนน แต่ต้องเดินทางผ่านคลองซึ่งมีความยาวราว 7.5 กิโลเมตร และมีสะพานเชื่อมเพื่อใช้เป็นทางเดินติดต่อกันภายในหมู่บ้านกว่า 180 สะพาน ซึ่งกว่าจะมาเป็นหมู่บ้านแสนสวยที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี้ ที่นี่ถูกค้นพบโดยชาวเมดิเตอร์เรเนียนเมื่อปี 1230 ในขณะนั้นมีซากเขาแพะกองอยู่เต็มไปหมด จึงได้ตั้งชื่อว่า ” เกย์เธนฮอร์น ” ซึ่งหมายถึง เขาแพะ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ก็ออกเสียงเพี้ยนจนกลายมาเป็น ” กีธูร์น ” ในที่สุด ส่วนสาเหตุของแม่น้ำทั้งหมดซึ่งอยู่ที่นี่ก็เล่าต่อกันมาว่า เป็นเพราะในอดีตที่นี่เคยถูกใช้เป็นเหมืองขุดถ่านหินเลนมาก่อน และรูที่ถูกขุดนั้นก็กลายมาเป็นทางให้น้ำไหลเข้ามา และคนในสมัยก่อนก็ใช้สายน้ำเหล่านี้เป็นทางขนส่งถ่านหินเลนในที่สุด นำท่าน ล่องเรือชมความสวยงามโดยรอบของหมู่บ้านกีธูร์น (Giethoorn Boat) (ใช้เวลาล่องเรือประมาณ 40 นาที ถึง 1 ชั่วโมง) ** กรณีที่เรือไม่สามารถล่องได้ ไม่ว่ากรณีใด เช่น สภาพภูมิอากาศไม่เอื้ออำนวย เรือปิดให้บริการกะทันหันโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินค่า ไม่ว่าส่วนใด ส่วนหนึ่ง ทุกกรณี เนื่องจากเป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับตัวแทนแล้วทั้งหมด **
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอัมสเติล (Amstel) เริ่มก่อตั้งประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 12 ปัจจุบันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเนเธอร์แลนด์
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารจีน
ที่พัก XO Hotel Blue Tower, Amsterdam ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองลิซเซ่ (Lisse) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองเล็กๆบรรยากาศเหมือนรีสอร์ทของ ประเทศเนเธอร์แลนด์ (Netherlands) ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ประชากรส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เพาะปลูกดอกไม้เมืองหนาวในไร่กว้าง เป็นหลัก
นำท่าน เข้าชม เทศกาลดอกทิวลิป (Tulip Festival) หรือ เทศกาลดอกคิวเคนฮอฟ (Keukenhof Festival) ที่ 1 ปี จัดขึ้นเพียงครั้งเดียว ประมาณ ช่วงวันที่ 23 มีนาคม ถึง วันที่ 14 พฤษภาคม ของทุกปี ภายในประกอบไปด้วยดอกทิวลิปที่มีมากกว่า 7 ล้านต้น ออกดอกบานสะพรั่งอยู่ดูละลานตา ประดับตกแต่งรายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่เก่าแก่ มีทางเดินอันร่มรื่น บ้างก็มีงานประติมากรรมประดับสวนสวยงามอยู่เป็นระยะ มีสระน้ำ และ น้ำพุ มีศาลาจัดแสดงกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับดอกไม้ต่างๆมากมายให้ท่านได้ชม
** การเบ่งบานของดอกทิวลิปให้ชมความสวยงาม ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางสภาพภูมิอากาศเป็นสำคัญ ทางบริษัทจะพยายามให้ท่านได้ชมความสวยงามของดอกทิวลิปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยโปรแกรมอาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมโดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้า ผู้เดินทาง เป็นสำคัญ **
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารจีน
นำท่านเดินทางสู่ สถาบันเจียระไนเพชร (Diamonds and Jewelry Factory) อุตสาหกรรมจากวิทยากรผู้ชำนาญตลอดจนขั้นตอนการเจียระไนเพชรให้เป็นอัญมณีที่มีค่าที่สุด จากนั้นนำท่าน ล่องเรือหลังคากระจก (Lover Boat Cruise) เพื่อชมบ้านเรือน และ วิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบชาวดัชต์ที่ ใช้เวลาล่องเรือประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม ให้ท่านสัมผัสกับความสวยงามแห่งสายน้ำของเมืองอัมสเตอร์ดัมอย่างใกล้ชิด โดยเรือท่องเที่ยวเหล่านี้จะล่องไปบนผืนน้ำตามคลองเฮเรนกราทช์ (Herengracht), ไคเซอร์กราทช์ (Keizersgracht) และ พรินเซนกราทช์ (Prinsengracht) ซึ่งเป็นคลองที่มีชื่อเสียงของอัมสเตอร์ดัม และลอดผ่านใต้สะพานที่สวยงามหลายแห่งซึ่งทอดยาวผ่านเส้นทางน้ำรอบๆ เมือง จากนั้นนำท่านท่องเที่ยวรอบเมืองอัมสเตอร์ดัม เริ่มที่ โบสถ์ New church เป็นโบสถ์ ศตวรรษที่ 15 ในอัมสเตอร์ดัมที่ตั้งอยู่บน Dam Square ถัดจากพระบรมมหาราชวัง เดิมเป็นเขตปกครองของโบสถ์ Dutch Reformed Churchปัจจุบันเป็นของคริสตจักรโปรเตสแตนต์ในเนเธอร์แลนด์ ปัจจุบันถูกใช้เป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ ให้ถ่ายภาพความสวยงามด้านนอกกับ พระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม (Royal Palace) อาคารที่หรูหราและโอ่อ่าที่สุดของเนเธอแลนด์ สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 17 โดยพระเจ้าหลุยส์ ในอดีตอาคารนี้เคยมีบทบาทเป็นศาลาว่าการมาก่อน ปัจจุบันถูกใช้สำหรับกิจกรรมในพระราชสำนักและกิจกรรมระดับประเทศ
นำท่านไปยัง จัตุรัสดัมสแควร์(Dam Square) เป็นสัญลักษณ์ของอัมสเตอร์ดัมที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ โดยเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์แห่งชาติเพื่อเป็นการระลึกถึงผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นย่านที่รายล้อมไปด้วยอาคารเก่าแก่ ศูนย์รวมห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ และ The Old Church เป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุด ในอัมสเตอร์ดัมและเป็นสถาบันศิลปะที่อายุน้อยที่สุด (ตั้งแต่ปี 2012) โดยจัตุรัสรอบๆ โบสถ์คือ Oudekerksplein ให้ท่านได้อิสระช้อปปิ้ง ย่านคาลเวอร์สตรัส Kalverstraat เป็นถนนช้อปปิ้งที่พลุกพล่านในอัมสเตอร์ดัม เป็นสินค้าแฟชั่นแนวไฮสตรีท รองเท้าและกระเป๋า เช่น H&M, Zara, Lady Sting, Björn Borg, กางเกงยีนส์ Levi, Esprit, Sissy Boy, Nike, และยังมีร้านบูติก ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ น้ำหอม ของขวัญและของที่ระลึกพิเศษมากมายให้ทุกท่านได้ซื้อเป็นของฝากอีกด้วย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารท้องถิ่น
ที่พัก XO Hotel Blue Tower, Amsterdam ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านกังหันลม ซานส์ สคันส์ (Zaanse Schans) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์เปิด ท่านสามารถเข้าชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวดัชต์ ที่ใช้กังหันลมกว่าร้อยแห่ง ในงานอุตสาหกรรมมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17-18 โดยทำหน้าที่ผลิตน้ำมันจากดอกมัสตาร์ด กระดาษ งานไม้ นอกจากนี้ภายในหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ อาทิ พิพิธภัณฑ์เบเกอรี่ ชีสฟาร์ม นาฬิกา ร้านขายเครื่องกาแฟและชาคุณภาพมากมายให้เลือกซื้อเป็นของฝากของที่ระลึก ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1997 พร้อมชม การทํารองเท้าไม้ (Wooden shoe) ที่ถือเป็นของและสินค้าที่ระลึกที่สําคัญของเนเธอร์แลนด์ และการทําชีสแบบเนเธอร์แลนด์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของฟาร์ม ชีสฟาร์ม (Catharina Hoeve Cheese Farm) ให้ท่านได้ชมวิธีสาธิตการทําการตัดชีสรวมถึงอุปกรณ์การใช้งาน และพร้อมให้ท่านเลือกซื้อเป็นของฝาก
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเกนต์ (Ghent) ประเทศเบลเยี่ยม (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที) เมืองลูกผสมระหว่างยุคเก่ากับยุคใหม่ที่มีเอกลักษณ์ และมีทิวทัศน์ที่งดงามของสายน้ำที่ตัดกับสถาปัตยกรรมของเมืองได้อย่างลงตัว
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารจีน
นำท่านถ่ายภาพด้านหน้ากับแลนด์มาร์คสำคัญของเมือง ปราสาทเกรเวนสตีน The Gravensteen (Castle of the Counts) เป็นที่อยู่อาศัยของเคานต์แห่งแฟลนเดอร์สจนถึงปี 1353 ต่อมาได้มีการปรับเปลี่ยนวัตถุประสงค์ใหม่ให้เป็นศาล เรือนจำ โรงกษาปณ์ และแม้กระทั่งในฐานะโรงงานฝ้าย ได้รับการบูรณะในช่วงปี พ.ศ. 2436-2446 และปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์และสถานที่สำคัญในเมือง ถ่ายภาพกับ หอระฆังแห่งเกนต์ (Het Belfort van Gent) เป็นหอระฆังสูง 95 เมตรใจกลางเมืองเกนต์ของเบลเยียม หอคอยนี้เป็นหอคอยกลางของแถวหอคอย Ghent ที่มีชื่อเสียง หอระฆังของ Ghent ร่วมกับ Cloth Hall และMammelokker เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกของ UNESCO ตั้งแต่ปี 2542 ชม อาสนวิหารเซนต์บาโว St. Bavo’s Cathedral เป็นอาสนวิหารของโบสถ์คาทอลิกในเมืองเกนต์ประเทศเบลเยียม อาคารสไตล์โกธิก สูง 89 เมตรนี้เป็นที่นั่งของสังฆมณฑลเกนต์และตั้งชื่อตามนักบุญบาโวแห่งเกนต์ อีกทั้งมหาวิหารแห่งนี้ยังเป็นที่เก็บผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียงคนของประเทศอีกด้วย ถนน Graslei Notable Street เดินเล่นไปตามถนนจะมีร้านอาหาร คาเฟ่ บิสโตร ร้านของฝากให้ท่านได้เลือกซื้อตามอัธยาศัย
นำท่านเดินทางสู่ เมืองบรัสเซลส์ (Brussel) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองหลวงของ ประเทศเบลเยียม (Belgium) ตั้งอยู่ในทวีปยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือ เบลเยี่ยมเป็นประเทศเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,000 ปี เป็นประเทศเล็กๆแสนสวยงาม เหมือนอยู่ในยุโรปยุคกลาง ปลอดภัย บรรยากาศโรแมนติก จึงเป็นประเทศที่มีคู่บ่าวสาวนิยมมาฮันนีมูนกัน ด้วยตีกรามบ้านช่องและสถาปัตยกรรมสำคัญๆ เช่น มหาวิหาร หอระฆัง ซึ่งยังคงไว้ด้วยความงดงาม วิจิตรแบบศิลปะโกธิคอย่างครบถ้วน
นำท่าน ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กับ สถาปัตยกรรมแห่งวิทยาการ อะโตเมียม (Atomium) อาคารไฮเทคแห่งนี้ มีความสูง 330 ฟุต ประกอบด้วยวัตุทรงกลม 9 ลูก แต่ละลูกมีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 18 เมตร รวมน้ำหนักเบ็ดเสร็จแล้ว 2,400 ตัน ใช้เวลา 18 เดือน ในการออกแบบนานพอๆกับระยะเวลาการสร้าง ภายในลูกกลมๆของอะโตเมียมแบ่งเป็น จุดชมวิว ห้องอาหาร ห้องแสดงนิทรรศการ และตรงแกนกลางให้บริการด้วยลิฟท์ที่ว่ากันว่าเป็นลิฟท์ที่เร็วที่สุดในยุโรป
นำท่านชม รูปปั้นแมนิเกนพีส (Manneken Pis fountain) ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมของถนนเลทุฟตัดกับถนนแซน รูปปั้นแมนิเกนพีส มีความสวยงามเเละมีความเก่าเเก่มาก คำว่า Manneken Pis มีความหมายว่า เด็กชายกำลังฉี่ เป็นประติมากรรมมีลักษณะเป็นน้ำพุขนาดเล็ก ตัวประติมากรรมหล่อด้วยทองเเดงเป็นรูปเด็กผู้ชายเปลือยกาย กำลังยืนฉี่ลงอ่าง โดยมีความสูงประมาณ 60 เซนติเมตร โดยในเทศกาลที่สำคัญ จะมีการนำชุดต่างๆ มาสวมให้กับรูปปั้นตัวนี้ด้วย เพื่อสร้างบรรยากาศให้เข้ากับแต่ละเทศกาล
นำท่านเก็บภาที่ระลึก สถาปัตยกรรมงดงามอาคารที่สวยที่สุดในบรัสเซลล์หลังหนึ่งก็คือ พระราชวังหลวงแห่งบรัสเซลล์ (Royal Palace of Brussels) ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าสวนสาธารณะบรัสเซลล์ตรงข้ามกับอาคารรัฐสภา พระราชวังหลวงแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของระบบรัฐบาลของเบลเยียมที่มีการปกครองในระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ
นำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสกรองด์ ปลาซ (Grong Plas) หรือที่จะเรียกกันอีกอย่างว่า จัตุรัสแกรนด์ พาเลส (Grand Palace) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบรัสเซลล์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของประเทศเบลเยียม ได้ชื่อว่ามีความสวยงามมากที่สุดของยุโรป แวดล้อมไปด้วยอาคารเก่าแก่ สถาปัตยกรรมแบบบาร็อค , โกธิค และ นีโอโกธิค เรียกว่าเป็นจุดรวมของบรรดาสถาปัตยกรรมแนวต่างๆ ซึ่งอาคารส่วนใหญ่นั้นจะสร้างมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง โดยแต่ละอาคารที่ล้อมรอบจัตุรัสแห่งนี้อยู่จะมีความสูงสง่างามเป็นอย่างยิ่ง
อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัยที่ ถนน Avenue Louise เป็นถนนที่มีชื่อเสียงและมีราคาแพงที่สุดแห่งหนึ่งในบรัสเซลส์ เรียงรายไปด้วยร้านเสื้อผ้าแฟชั่นระดับไฮเอนด์และร้านบูติก สถานทูตและสำนักงานหลายแห่งด้วยกัน
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารท้องถิ่น
ที่พัก Gresham Belson Hotel, Brussels ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ท่านเดินทางสู่ เมืองแร็งส์ Reims (ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 30 นาที) เป็นเมืองในจังหวัดมาร์นในแคว้นช็องปาญาร์แดนในประเทศฝรั่งเศส เมืองแร็งส์ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส ราว 129 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงเหนือของปารีส
นำท่านถ่ายรูป มหาวิหารน็อทร์ดาม แห่งเมืองแร็งส์(Notre-Dame de Reims) เป็นจุดเด่นอันดีงามของเมืองนี้ ตั้งตระหง่านโดดเด่นเป็นสง่าเหนือถนนโดยรอบ นักท่องเที่ยวนับล้านล้วนอยากมาเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมอันวิจิตรตระการตาและประตูวิหารขนาดใหญ่ มหาวิหารแห่งนี้มีหอคอยคู่อันสูงใหญ่ที่คุณมองเห็นได้จากทั่วตัวเมือง
นำท่านถ่ายรูป มหาวิหารนักบุญเรมีแห่งแร็งส์ (Saint-Remi de Reims) เป็นอดีตแอบบีย์ ตั้งอยู่ในเมืองแร็งส์ ประเทศฝรั่งเศส มีก่อตั้งในคริสต์ศตวรรษที่ 6 ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1099[1] ที่เก็บเรลิกของนักบุญเรมี บิชอปแห่งแร็งส์ผู้เปลี่ยนพระเจ้าโคลวิสที่ 1 พระมหากษัตริย์แห่งชาวแฟรงก์ให้หันมานับถือศาสนาคริสต์ได้ในวันคริสต์มาสปี ค.ศ. 496 ท่านเสียชีวิตในปี ค.ศ. 553 หลังจากที่ทรงได้รับชัยชนะต่อฝ่ายอาลามานนี (Alamanni) ในยุทธการที่ซึลพิช (Battle of Tolbiac)
เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาช้อปปิ้ง
นำท่านเดินทางสู่ เมืองปารีส (Paris) ประเทศฝรั่งเศส (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) นำท่านอิสระ ถนนฌ็องเซลิเซ่ (Champs Elysees) เป็นจุดที่ท่านสามารถช้อปปิ้งร้านค้าแบรนด์ดังระดับโลก เป็นถนนแห่งหนึ่งที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุด ทอดยาวอยู่ ณ เขตที่ 8 ของกรุงปารีส กลายเป็นถนนช้อปปิ้งสายสำคัญที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดในโลก นอกจากสองข้างทางจะรวมรวบแหล่งร้านค้าสุดหรูแบรนด์ดังระดับโลกมากมายแล้ว ยังเต็มไปทุกสิ่งที่คุณต้องการ ทั้งร้านอาหารและขนมสุดหรู
นำท่านถ่ายรูป ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de triomphe de l’Étoile) เป็นสถาปัตยกรรมกลางแจ้งขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนจัตุรัสชาร์ลเดอโกล (Place Charles de Gaulle) ประตูชัยแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมสำคัญของเมืองที่อยู่คู่เมืองปารีส
นำท่านเดินทางไปยัง หอไอเฟล (Tour Eiffel) แลนด์มาร์คแห่งฝรั่งเศส เป็นหอคอยโครงสร้างเหล็กตั้งอยู่บนช็องเดอมาร์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส เป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก
นำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสปลัสเดอลากงกอร์ด (Place De La Concorde) เป็นสถานที่แห่งความทรงจำทางประวัติศาสตร์การนองเลือดครั้งใหญ่ในกรุงปารีส เป็นสัญลักษณ์ของสงครามกลางเมืองและการปฏิวัติการปกครองของฝรั่งเศส รวมทั้งเป็นจุดจบของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 พร้อมกับพระนางมารีอังตัวเนต ด้วยเครื่องประหารกิโยติน นับเป็นสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจอย่างยิ่งนอกเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศฝรั่งเศสแล้วปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ เสาโอเบลิสก์ (L’Obélisque) ประติมากรรมอันล้ำค่าสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพของประเทศอียิปต์และประเทศฝรั่งเศสซึ่งถูกส่งให้เป็นของขวัญแก่พระเจ้าชาร์ลที่ 10 ในปีค.ศ. 1829 โดยความพิเศษของเสาคือการทำมาจากหินแกรนิตทรงเหลี่ยม เล่าเรื่องราวสมัยฟาร์โรห์รามเสสที่ 2 และสมัยรามเสสที่ 3 ด้วยตัวภาษาอียิปต์โบราณที่มีอายุกว่า 3,000 ปี นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ โรงอุปรากรปาแลการ์นีเย่ (Palais Garnier) หรือ Paris Opera อยู่ตรงใจกลางเมืองปารีสสร้างโดย ชาร์ล การ์นีเย่ ตามแบบสถาปัตยกรรมฟื้นฟูบาโรก ที่มีความสวยงามมากโดยเฉพาะการตกแต่งที่วิจิตรงดงามภายในอาคาร
นำท่านถ่ายรูปคู่ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum) ) (ไม่รวมค่าเข้าชมภายในพิพิธภัณฑ์ ประมาณท่านละ 80 ยูโร) พิพิธภัณฑ์ทางศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุดใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เก็บรวบรวมผลงานศิลปะอันทรงคุณค่าไว้มากกว่า 40,000 ชิ้น รวมไปถึงผลงานชื่อก้องโลกอย่าง “ภาพวาดโมนาลิซ่า” หรือ รูปปั้น Venus de Milo และเป็นหนึ่งในฉากสำคัญของภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลกอย่าง “รหัสลับดาวินซี” (The Davinci Code)
นำท่าน ล่องเรือชมแม่น้ำแซน บาโต มูช (Bateaux-Mouches) เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการเรือนำเที่ยวในแม่น้ำแซนยอดนิยมเจ้าหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นบริษัททัวร์ที่ดำเนินกิจการทางเรือที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงปารีสด้วย ใช้เวลาล่องประมาณ 1 ชั่วโมง ชมสถานที่สำคัญที่แม่น้ำทอดผ่านอย่างเช่น หอไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟ สะพานอเล็กซานเดอร์ที่สามเป็นกิจกรรมที่นิยมกันอย่างมากที่จะนั่งเรือชมเมืองปารีส เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์สำคัญถ้าหากใครได้มาเมืองปารีสต้องไม่พลาดกิจกรรมล่องเรือชมเมืองที่โรแมนติกที่สุดในประเทศฝรั่งเศสอย่างแน่นอน
ค่ำ บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ!! หอยเอสคาโก้
ที่พัก Best Western Plus Paris Velizy ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ สนามบินปารีส ชาร์ล เดอ โกล เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย
14.00 นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินโหน่ยบ่าย ประเทศเวียดนาม โดยสายการบิน Vietnam Airline เที่ยวบินที่ VN 18 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
06.35 เดินทางถึง สนามบินโหน่ยบ่าย ประเทศเวียดนาม
08.40 นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน Vietnam Airline เที่ยวบินที่ VN 611 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
10.50 เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ … พร้อมความประทับใจ