17.30 น. : พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 10 เคาน์เตอร์ W สายการบินแอร์อินเดีย โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
20.30 น. : ออกเดินทางสู่ ประเทศอินเดีย โดย เที่ยวบินที่ AI331 (*บริการอาหารบนเครื่อง*)
17.40 น. : เดินทางถึง สนามบินฉัตรปตีศิวาจีมหาราช นครมุมไบ ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ ประเทศอินเดีย หลังผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว พบกับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าหน้าที่ และนำทุกท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก (เวลาท้องถิ่นที่ประเทศอินเดียเร็วกว่าประเทศไทยประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที กรุณาปรับเวลาของท่าน เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย)
เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้น เยือนเทวสถานแห่งองค์พระศิวะเจ้าที่เก่าแก่ที่สุด วัดบาบุลนาท ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ใจกลางเมืองมุมไบ ซึ่งเป็นเมืองที่มีความเป็นมาทั้งด้านวัฒนธรรม ด้านประวัติศาสตร์ และด้านสถาปัตยกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของวัดหรือโบราณสถานก็ตาม ซึ่งวัดบาบุลนาทนั้นก็ถือเป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองนี้ มีอายุประมาณ 200 กว่าปีมาแล้ว ทุกปีจะมีผู้คนนับล้านมาเยี่ยมชมความงดงามของวัดแห่งนี้ โดยเฉพาะผู้ที่นับถือและศรัทธาในองค์พระศิวะจากที่ต่างๆ ทั่วทุกมุมโลก เดินทางมาที่วัดเพื่อถวายเครื่องสักการะบูชาแด่พระองค์ มีบันได 110 ขั้นเพื่อไปยังอาคารหลัก ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของศิวลึงค์ทีเปรียบเสมือนตัวแทนของพระศิวะ สถาปัตยกรรมของวัดบาบุลนาถนั้น มีเสาที่แกะสลักอย่างสวยงาม ซึ่งคล้ายคลึงกับรูปแบบสถาปัตยกรรมของวัดฮินดู ผนังของวัดแกะสลักอย่างประณีตจากหินปูน เสาและเพดานตกแต่งด้วยเรื่องราวและตุ๊กตาจากตำนานฮินดู อีกทั้งพื้นหินอ่อนยังถูกอัญเชิญมาจากเมืองราชสถาน ซึ่งช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับวัดแห่งนี้มากขึ้นไปอีก
กลางวัน : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
จากนั้น นำท่านล่องเรือไปเยือนมรดกโลกแห่งอินเดีย ถ้ำเอลิฟันตา ถือได้ว่าาเป็นอีกหนึ่งแหล่งมรดกโลกที่สวยงาม และเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างมากมายจากทั่วโลก ถ้ำเอเลแฟนต้าตั้งอยู่บนเกาะเอเลแฟนต้าห่างจากฝั่งราวสิบกิโลเมตร ลักษณะถ้ำโดดเด่ดด้วยเสาด้านหน้าที่สง่างาม และภายในที่แกะสลักเข้าไปในหินอย่างประณีต มีประติมากรรมที่เป็นสัญลักษณ์ของ พระศิวะ เทพเจ้าฮินดูในหลายรูปแบบ และประติมากรรมอื่นๆ ที่สวยงามวิจิตร ซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นมาตั้งแต่ราว 2 ศตวรรษก่อนคริสตกาล ที่มาของชื่อ เอเลฟันตา (Elephanta) มาจากคำว่า เอเลเฟนเต้ (Elefante) ซึ่งอาณานิคมโปรตุเกสเป็นผู้ตั้งชื่อให้ หลังพบรูปปั้นช้างเป็นรูปปั้นแรกบนเกาะ ถ้ำหลัก เคยเป็นสถานที่สักการะของชาวฮินดู จนกระทั่งกองทัพโปรตุเกสเข้ายึดครองเพื่อตั้งฐานทัพบนเกาะ ทำลายถ้ำและหินจำหลักจนส่งผลให้วัดบนเกาะหมดสถานะการเป็นศาสนสถาน ความพยายามครั้งแรกในการป้องกันความเสียหายต่อถ้ำเริ่มขึ้นใน ค.ศ. 1909 โดยบริติชอินเดีย ถ้ำได้รับการบูรณะครั้งสำคัญในช่วง ค.ศ. 1970 ก่อนที่จะได้ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกใน ค.ศ. 1987 ในเวลาต่อมา
ถ้ำแห่งนี้เป็นเทวสถานในศาสนาฮินดูที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาพระศิวะเป็นหลัก ภายในตัวถ้ำถูกแกะสลักอย่างสวยงามและอลังการ โดยหมู่โบราณสถานถ้ำกลุ่มใหญ่ประกอบด้วย โบสถ์พราหมณ์ลัทธิไศวะ 5 แห่ง และซากของสถูปพุทธบางส่วน
ถ้ำหลัก (Grand Cave / Great Cave) มีขนาด 39.63 เมตร สร้างขึ้นเมื่อประมาณ 500 – 600 ปีก่อน ตัวถ้ำมีทางเข้าหลายทาง และทางเข้าหลักจะมีขนาดเล็ก แต่ซ่อนห้องโถงใหญ่ไว้ข้างในอีกที ภายในมีเทวสถานที่ประดิษฐานศิวลึงค์เอาไว้ ในการเข้าถึงถ้ำหลักจะต้องเดินขึ้นบันได 120 ขั้นไปด้านใน บริเวณทางเข้าหลักมีเสาสี่ต้น มีมุขเปิดสามหลัง และทางเดินด้านหลังจะเป็นเสาหกเสา ในแต่ละแถวจะซอยแบ่งห้องโถงออกเป็นห้องย่อย หลังคาของห้องโถงถูกรองรับด้วยเสาหินที่เชื่อมเข้าด้วยกัน ผนังแต่ละด้านมีงานแกะสลักขนาดใหญ่เกี่ยวกับตำนานพระศิวะ ส่วนถ้ำอื่นๆ ถ้ำมีขนาดเล็กกว่า สถาปัตยกรรมภายในถ้ำเสียหายจากการถูกทำลายจากประเทศนักล่าอาณานิคม
เย็น : บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
จากนั้น นำทุกท่านเดินทางสู่ สนามบินฉัตรปตีศิวาจีมหาราช นครมุมไบ
07.05 น. : ออกเดินทางสู่ เมืองออรังกาบัด โดย เที่ยวบิน AI400 (*ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง*)
08.10 น. : เดินทางถึง สนามบินออรังกาบัด ประเทศอินเดีย
เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเดินทางสู่ ถ้ำอชันตา (Ajanta Caves) ชมความอลังการของปฏิมากรรมแห่งพุทธศาสนา ที่ว่ากันว่ามีความงดงามและเก่าแก่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 7 เป็นถ้ำพุทธที่ได้รับอิทธิพลจากฮินดู เรียกว่าพุทธตันตระ ซึ่งถูกเจาะลึกเข้าไปในภูเขาเพื่อสร้างเป็นวัด ภายในมีวิหารขนาดใหญ่เต็มไปด้วยงานแกะสลักหิน มีทั้งองค์เจดีย์ พระพุทธรูป และภาพจิตรกรรมฝาผนังถ้ำ บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ในพุทธประวัติและชาดก
กลางวัน : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
จากนั้น เยือนทัชมาฮาลน้อยแห่งมหาราษฏระ บีบี กา มาคบารา (Bibi Ka Maqbara) อนุสรณ์สถานความรักที่โอรสแห่งกษัตริย์ออรังเซปทรงสร้างอุทิศถวายแด่พระมารดา พระนางราเบีย อุเด ดาราณี พระชายาสุดรักของกษัตริย์ออรังเซป สร้างในสถาปัตยกรรมโมกุลด้วยหินอ่อน เมื่อมองจากด้านหน้าดูคล้ายกับทัชมาฮาลแห่งเมืองอักราเป็นอย่างมากแต่มีขนาดเล็กกว่า ทำให้ได้รับสมญานามว่า “มินิทัชมาฮาล”
เย็น : บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้น นำทุกท่านไปสัมผัสพลังศรัทธาแห่ง ถ้ำเอลโลรา (Ellora Caves) แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโก ชมความงดงามอันยิ่งใหญ่ของโถงถ้ํา 34 ถ้ำ ซึ่งถือเป็นปูชนียสถานที่อุทิศให้แด่สามศาสนา ได้แก่ พุทธ ฮินดู และเชน สื่อให้เห็นถึงจิตวิญญาณแห่งขันติธรรม อันเป็นคุณลักษณะเฉพาะของอารยธรรมอินเดียโบราณ และแสดงลำดับเวลาของการ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ของศาสนาสำคัญในอินเดีย ไล่จากทิศใต้สุดเป็นกลุ่มถ้ำพุทธศาสนา หมายเลข 1-12 ถัดมาเป็นกลุ่มถ้ำฮินดู หมายเลข 13-29 และสุดทิศเหนือที่กลุ่มถ้ำศาสนาเชน หมายเลข 30-34 กลุ่มถ้ำของศาสนาพุทธจะมีความคล้ายคลึงกับถ้ำอชันตา ส่วนกลุ่มถ้ำฮินนั้นถูกตกแต่งผนังวิหารได้วิจิตรงดงาม ด้วยภาพสลักนูนสูงเรื่องเทวปกรณัมฮินดูแกะสลักอย่างวิจิตรงดงามของ อาทิ พระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์ พระพิฆเนศ ช้างเอราวัณ และบรรดานางอัปสรมากมาย
กลางวัน : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
จากนั้น นำทุกท่านชมป้อมปราการโบราณ ป้อมเดาลาตาบัด (Daulatabad Fort) ป้อมปราการโบราณรอบภูเขาดัลคีรี ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งใน “เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของรัฐมหาราษฏระ” ที่สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 12 มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ป้อมดัลคีรี ป้อมปราการแห่งนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่มีความสวยงามทางสถาปัตยกรรม เคยเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์ยารวะ และถูกกษัตริย์อลาอุดดินคัลจิ ชาวมุสลิมยึดได้ใน พ.ศ. 1839 ก่อนจะถูกทิ้งร้างไป
จากนั้น นำทุกท่านเดินไปยัง สนามบินออรังกาบัด
08.50 น. : ออกเดินทางสู่ เมืองมุมไบ โดย เที่ยวบิน AI400 (*ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง*)
09.50 น. : เดินทางถึง สนามบินฉัตรปตีศิวาจีมหาราช นครมุมไบ
เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
เดินทางเข้าสู่ วัดสิทธิวินายัก (Siddhivinayak Temple) ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองมุมไบ (บอมเบย์) องค์พระพิฆเนศที่นี่มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากที่อื่นตรงที่งวงหันไปทางขวา ถือว่าเป็นประธานของเทวรูปพระพิฆเณศทั้งหมดในโลก ผู้คนที่นับถือพระพิฆเนศทั้งในอินเดียและทั่วโลก ต่างพากันไปสักการะบูชาเพี่อขอพรอย่างไม่ขาดสาย
นำท่านสักการะ วัดพระแม่ลักษมี เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของอินเดีย สร้างขึ้นในปี 1831 โดยพ่อค้าชาวฮินดู ภายในประดิษฐานเทวรูปทองคำ พระแม่ลักษมี (Mahalakshmi) ผู้ที่มากราบไหว้บูชาแห่งนี้จะประสบแต่ความร่ำรวย ความสำเร็จ โชคลาภมากมาย พระแม่กาลี (Mahakali) คือผู้ปกป้องเราจากสิ่งไม่ดี พระแม่สุรัสวตี (Mahasaraswathi) คือผู้บันดาลความเฉลี่ยวฉลาด ปัญญาเป็นเลิศ การงานสำเร็จ ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นที่นิยมของชาวอินเดียเดินทางมากราบไว้สักการะมากมาย
กลางวัน : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
จากนั้น นำท่านสู่ ประตูสู่อินเดีย (Gateway of India) อนุสาวรีย์ซุ้มประตูโค้งแบบประตูชัย ตั้งอยู่ในนครมุมไบ ประเทศอินเดีย สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการเสด็จฯ เยือนนครมุมไบของพระเจ้าจอร์จที่ 5 และพระนางมาเรียแห่งเท็ค เมื่อปี 1911 ณ บริเวณอะพอลโลบันเดอร์ สถาปัตยกรรมที่ใช้คือแบบอินเดีย-ซาราเซน (Indo-Saracenic) และอนุสาวรีย์สร้างด้วยหินบะซอลต์ ความสูง 26 เมตร (85 ฟุต) ใช้เวลาสร้างสำเร็จในปี 1924 ปัจจุบันใช้เป็นสัญลักษณ์สำหรับพิธีต้อนรับรัฐมนตรีใหม่ของนครมุมไบ และเช่นกันถือเป็นทางเข้าประเทศอินเดีย หากเดินทางมาทางมหาสมุทรอินเดีย ประตูสู่อินเดียตั้งอยู่หน้าน้ำที่อะพอลโลบันเดอร์ในทางทิศใต้ของนครมุมไบ มองออกไปคือทะเลอาหรับบางครั้งเรียกว่าเป็นทัชมาฮาลแห่งมุมไบ ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมือง
แวะถ่ายภาพที่ สถานีรถไฟฉัตรปติศิวาชี (Chhatrapati Shivaji Terminus) หรือชื่อเดิมว่า “สถานีปลายทางวิคตอเรีย” ตั้งชื่อตามพระราชินีวิคตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร ศูนย์กลางการรถไฟเขตภาคกลางของอินเดีย นอกจากความใหญ่โตโอ่โถงแล้ว เอกลักษณ์สำคัญอีกอย่างของที่นี่คือตัวอาคารแบบโกธิคที่ผสมผสานกับศิลปะอินเดียโมกุลอย่างลงตัว เป็นหนึ่งในสถานีรถไฟที่สวยงามที่สุดในโลก ซึ่งงดงามจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ถือได้ว่าเป็นย่านเศรษฐกิจที่นักท่องเที่ยวต่างเดินทางไปชมความงามของเมืองเก่าอันอย่างมากมาย
ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางสู่ สนามบินฉัตรปตีศิวาจีมหาราช นครมุมไบ
01.45 น. : ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดย เที่ยวบินที่ AI330
07.20 น. : เดินทางถึง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม
เงื่อนไขประกันการเดินทาง ค่าประกันอุบัติเหตุและค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองเฉพาะกรณีที่ได้รับอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางไม่คุ้มครองถึงการสูญเสียทรัพย์สินส่วนตัวและไม่คุ้มครองโรคประจำตัวของผู้เดินทาง
เงื่อนไขการสำรองที่นั่งและการยกเลิกทัวร์
การจองทัวร์ :
กรณียกเลิก : (จอยกรุ๊ป)
กรณียกเลิก : (ตัดกรุ๊ป)
กรณีเจ็บป่วย :