กัสโต้ เวิล์ด ทัวร์

บริการคุณภาพ ทุกเส้นทางท่องเที่ยว

เลขที่ 11/03295

ทัวร์ญี่ปุ่น PICTURESQUE ROUTE TOKYO FUJI KAWAZU

รหัส 036-2841
วันที่เดินทาง
ก.พ.66
ช่วงเวลา
7 วัน 5 คืน
ราคาเริ่มต้น
69,999 บาท
แผนการเดินทาง
วันที่ 1
กรุงเทพ(สนามบินสุวรรณภูมิ)-โตเกียว(สนามบินนาริตะ)

21.00 น.   คณะพร้อมกัน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น 4 สนามบินสุวรรณภูมิเคาน์เตอร์สายการบินไทยแอร์เวย์ (TG) พบเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก

23.55 น.   ออกเดินทางสู่สนามบินนาริตะ เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบินไทยแอร์เวย์ (TG) เที่ยวบินที่ TG642 (23.55-07.40) ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 5.45 ชั่วโมง บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง

วันที่ 2
คาวาโกะเอะ-เมืองนิกโก-สะพานชินเคียว-ศาลเจ้านิกโกโทโชกู

07.40 น.   เดินทางถึงสนามบินนาริตะ เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง) เมืองหลวงโตเกียว (Tokyo) ที่เป็นจุดศูนย์กลางของประเทศญี่ปุ่น และมีระบบการคมนาคมที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีสีสันความเจริญ นวัตกรรมความล้ำสมัยที่โดนเด่น

นำท่านเดินทางสู่ ถนนสายประวัติศาสตร์ คาวาโกะเอะ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเขตของจังหวัดไซตามะ ได้ยังได้รับขนานนามว่าเป็นเมือง “ลิตเติ้ลเอะโดะ” อันเนื่องมากจากสภาพของการก่อสร้างบ้านเรือน และบรรยากาศโดยรอบยังคงไว้ซึ่งความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในสมัยเอะโดะ เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1603-1868นำท่านชมความงดงาม และมีเอกลักษณ์แห่ง “วัดคิตะอิน” ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งนับได้ว่าเป็นวัดที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและสวยงามเป็นวัดต้นแบบของวัดอาซากุซะในกรุงโตเกียวปัจจุบัน

แล้วนำท่านเดินเล่นชมวิวความสวยงามริม แม่น้ำชินงาชิ (Shingashi River) บริเวณเลียบริมฝั่งของแม่น้ำมีต้นซากุระเรียงรายเป็นแนวยาวถึง 500 เมตร ดังนั้นช่วงซากุระจึงเป็นฤดูกาลที่เหมาะกับการมาเที่ยวชมที่นี่ที่สุด

กลางวัน   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (Japan Set)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองนิกโก (Nikko) เมืองที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม จนได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลกของประเทศญี่ปุ่น นำท่านผ่านชมสะพานชินเคียว (Shinkyo) สะพานศักดิ์สิทธิ์ในเขตของศาลเจ้าฟุตะระซังที่สร้างขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1636 มีการซ่อมแซมขึ้นใหม่ระหว่างช่วงปี 1990-2000 ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา เชื่อมต่อสองฝั่งของแม่น้ำไดยะกะวะ ที่เชื่อว่าเป็นแม่น้ำที่แบ่งเส้นเขตแดนระหว่างโลกมนุษย์และดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ตัวสะพานทาด้วยสีแดง โดดเด่นท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามของขุนเขา และแม่น้ำที่ไหลผ่าน เป็นภาพที่สวยงามเป็นอย่างมาก

นำท่านชม ศาลเจ้านิกโกโทโชกู (Nikko Toshogu Shrine) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก (UNESCO World Heritage Site) เมื่อปี 1999 เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1617 โดยช่างฝีมือกว่า 127,000 คน ทั้งลวดลายและรายละเอียดที่แสนวิจิตรงดงาม ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้มีองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมที่ดีที่สุดในยุคนั้นเลยก็ว่าได้ ซึ่งไฮไลท์สำคัญที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปศาลเจ้านิกโกโทโชงุคือ ซุ้มประตูโยเมมง (Yomei-mon) รูปปั้นแมวหลับ (Nemurineko) และ เจดีย์ 5 ชั้น (Five Story Pagoda)

เย็น   รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม

พักที่ Yuzawa Snow Resort หรือเทียบเท่า

วันที่ 3
ลานสกี Yuzawa Snow-Snow Monkey-ปราสาทมัตสึโมโตะ-สวนโออิชิ ปาร์ค

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

ให้ท่านได้สนุกสนานกันอย่างสุดเหวี่ยง ที่ลานสกี ด้านหน้าโรงแรมสนุกสนานกับลานหิมะขาวโพลน ได้สัมผัสความ ตื่นเต้นกับการลื่นไถลด้วย สกี เลือกสนุกกับสโนว์บอร์ด หรือเพลิดเพลินกับการนั่งกระดานเลื่อนหิมะและดื่มด่ำกับทัศนียภาพที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะที่ดูแล้วสะอาดตาอย่างยิ่ง

กลางวัน   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเดินทาง สวนลิงแช่ออนเซน สวนลิงแห่งนี้มีชื่อเรียกเต็มๆว่า “Jigokudani Yaen-koen” หรือบางทีก็เรียกสั้นๆว่าสวนลิงหิมะ (Snow Monkey Park) ชื่อของสวนลิงแห่งนี้มีมีความหมายว่า “หุบเขานรก” มีที่มาจากสถานที่ตั้งที่อยู่ในหุบเขา ล้อมรอบด้วยสันเขาขรุขระท่ามกลางอากาศหนาว สวนลิงแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1964 ปัจจุบันมีลิงอยู่ประมาณ 150 ตัวอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะอยู่บนภูเขาไม่ไกลจากบริเวณบ่อออนเซ็นนี้เอง

นำท่านเดินทางสู่ ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle) ตั้งอยู่ภายในเมืองมัตสึโมโตะ (Matsumoto) จังหวัดนากาโนะ สร้างขึ้นมาราวศตวรรษที่ 16 – 18 เท็นชุคาคุหรือป้อมปราการที่ตั้งตระหง่านนี้ว่ากันว่าเป็นเท็นชุคาคุหลังคา 5 ชั้น พื้น 6 ชั้นที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติ พื้นที่ส่วนอื่นๆ ภายในปราสาทก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของชาติ

นำท่านชม สวนโออิชิ ปาร์ค (Oishi Park) เป็นจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิ (Mt.Fuji)ที่สวยงามมาก ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบคาวากุจิโกะฝั่งเหนือ (Lake Kawaguchiko) ที่นี่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นซึ่งมาพักผ่อนตากอากาศ ชมวิว ดื่มด่ำกับความงามของทิวทัศน์ ในวันที่อากาศแจ่มใสสวนแห่งนี้จะเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้เกือบทั้งลูกซึ่งสวยงามมาก

เย็น   รับประทานอาหารเย็น ณ โรงแรม เมนูพิเศษ บุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์

พักที่ Hotel Yukari no mori หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว เห็นวิวภูเขาฟูจิ

วันที่ 4
หมู่บ้านโอชิโนะฮัคไค-พิธีชงชา-ถ้ำน้ำแข็งนารุซาวะ

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

เดินทางสู่ หมู่บ้านโอชิโนะฮัคไค (Oshino Hakkai Village) หรือหมู่บ้านน้ำใส ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบคาวากุจิโกะกับทะเลสาบยามานาคาโกะ จุดเด่นคือน้ำในลำธาร และสระของหมู่บ้านใสมาก และสะอาดอีกด้วย และยังเป็นที่กล่าวขานว่า บ่อน้ำในหมู่บ้านนี้เป็นแหล่งน้ำสะอาดอันศักดิ์สิทธิ์จากภูเขาไฟฟูจิอีกด้วย เนื่องจากน้ำในหมู่บ้านเกิดจากการละลายของหิมะบนภูเขาไฟฟูจิในช่วงฤดูร้อน และไหลผ่านหินลาวาที่มีรูพรุน รวมกับแร่ธาตุต่างๆ ในหมู่บ้านยังมีสินค้าวางจำหน่าย โดยเป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่คนในหมู่บ้านผลิตขึ้นมาเอง

จากนั้นนำท่านสัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น นั้นคือ การเรียนพิธีชงชาหรือที่เรียกว่าซะโด (Sadou) หรือ ชะโด (Chadou) คือ วิถีแห่งชาของชาวญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นพิธีกรรมที่ทรงคุณค่า หยั่งรากลึกลงในศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันพิธีชงชาเป็นพิธีที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยปรัชญาในการดำเนินชีวิต หัวใจสำคัญของพิธีชงชาจึงไม่ใช่แค่การชงหรือดื่มชาเท่านั้น แต่อยู่ที่สุนทรียภาพในการลิ้มรสทั้งรูป รส กลิ่น เสียง และ จิตใจลองมาทำความรู้จักกับพิธีชงชาให้มากขึ้นรับรองได้เลยว่าหากท่านได้มีโอกาสได้เข้าร่วมพิธีชงชา ก็จะต้องหลงใหลกับวัฒนธรรมอันเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันน่าดึงดูดใจผู้คนทั่วโลกอย่างแน่นอน จากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย

กลางวัน   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (อิโระริ เซ็ท)

หลังจากนั้นให้ท่านได้สนุกเพลิดเพลินกับกิจกรรมเก็บผลไม้ตามฤดูกาลของชาวญี่ปุ่นที่มีการปลูกอย่างพิถีพิถัน และได้รับการดูแลเอาใจใส่ทุกกระบวนการทุกขั้นตอน ทำให้ผลไม้ที่นี่นั้นมีขนาดใหญ่และรสชาติหวานกว่าบ้านเราหลายเท่า

เดินทางสู่ ถ้ำน้ำแข็งนารุซาวะ (Narusawa Ice Cave) ถ้ำน้ำแข็งแห่งนี้ก่อตัวขึ้นหลังจากที่ภูเขานางาโอะ เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงในปีค.ศ. 864 ลาวาทำให้เกิดเป็นถ้ำใต้ดินที่กว้างขวาง เสาน้ำแข็งที่ก่อตัวขึ้นที่นี่จะมีขนาดใหญ่ขึ้นในฤดูหนาว และบางครั้งส่วนของหินงอกและหินย้อย ทำให้เกิดความงามตามธรรมชาตินี้ให้โดดเด่น

เย็น   รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

พักที่ Atami Seaside Spa & Resort หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

วันที่ 5
เทศกาลชมซากุระคาวาซุ-เหมืองทองโทอิคินซัง-ล่องเรือทะเลสาบอาชิ-ศาลเจ้าฮาโกเน่

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำทุกท่านชม เทศกาลชมซากุระคาวาซุ (Kawazu-Zakura Festival)  ดอกซากุระสายพันธุ์คาวาซุ (Kawazu-zakura) กว่า 8,000 ต้นที่จะออกดอกอวดโฉมงามก่อนเมืองไหน ในงาน เทศกาลชมซากุระคาวาซุ (Kawazu-Zakura Festival) จัดขึ้นที่เมืองออนเซ็นคะวะซุ (Kawazu) จังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka) ใกล้กับโตเกียว เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 – 28 กุมภาพันธ์ 2023 ให้ท่านได้สัมผัสกับความงามของดอกซากุระ ซึ่งซากุระของที่นี่มีชื่อเสียงมาก เนื่องจากผลิดอกเร็วที่สุดในเกาะฮอนชู โดยดอกซากุระสายพันธุ์นี้จะมีดอกมีขนาดใหญ่ และใช้เวลาในการบานเป็นเวลานานเกือบหนึ่งเดือน โดยจะเริ่มผลิดอกตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงที่ยังไม่ได้เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิและเนื่องจากการผลิดอกเร็วที่สุดในเกาะฮอนชูนี้เอง จึงทา ให้ทั้งคนญี่ปุ่น เเละนักท่องเที่ยวจำนวนมากนิยมเดินทางมาชมพร้อมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

กลางวัน   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำทุกท่านเข้าชม เหมืองทองโทอิคินซัง (Toi Kinzan Gold Mine) เหมืองโทอิมีชื่อเสียงจากการเป็นเหมืองทองคำที่มีผลผลิตมากเป็นอันดับสองในญี่ปุ่น ว่ากันว่าเหมืองแห่งนี้ได้ผลิตทองคำ 40 ตันและเงิน 400 ตันในช่วงที่ยังดำเนินการได้ เหมืองถูกปิดลงในปีค.ศ. 1965 จากนั้นจึงเปิดให้บริการอีกครั้งในฐานะสถานที่ท่องเที่ยว และถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งในโบราณสถานของอำเภออิสุค่ะ

ชมพิพิธภัณฑ์ขั้นตอนการผลิตทองคำ และสิ่งประดิษฐ์ที่ใช้ในการทำเหมืองแร่ในสมัยเอโดะ สามารถลองยกทองคำแท่งหนัก 250 กิโลกรัมที่หนักที่สุดในโลก จากนั้นนำท่าน ล่องเรือทะเลสาบอาชิ กับเรือแฟนตาซีโจรสลัดชมความงามของทะเลสาบอันดับหนึ่งในญี่ปุ่น ซึ่งได้ก่อตัวจากลาวาของภูเขาไฟ ท่านจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพที่สวยงามดั่งภาพวาดสะท้อนลงสู่ทะเลสาบ จากนั้นเดินทางโดยรถโค้ชสู่ หุบเขาโอวาคุดานิ ที่ยังครุกรุ่นด้วยควันจากบ่อกำมะถันเดือดอยู่ตลอดเวลา ชมบ่อน้ำแร่กำมะถันซึ่งสามารถต้มไข่ให้สุกได้ โดยชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าหากได้ทานไข่ดำหนึ่งฟองจะสามารถทำให้อายุยืนยาวขึ้นอีกประมาณ 7 ปี

นำท่านเดินทางสู่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,250 ปี ศาลเจ้าฮาโกเน่ (Hakone Shrine) ซึ่งมีทะเลสาบอาชิอยู่ด้านหน้าและรายล้อมไปด้วยภูเขาฮาโกเน่ จึงมีเสน่ห์ในฐานะที่เป็นสถานที่ที่อุดมไปด้วยธรรมชาติ ศาลเจ้าแห่งนี้มีความเชื่อในเรื่องช่วยให้เดินทางปลอดภัย ช่วยให้รอดพ้นจากเคราะห์ภัยอันตรายต่างๆ

เย็น   รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร (Shabu Buffet)

พักที่ Hotel Sunshine City Prince หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

วันที่ 6
ตลาดปลาซึกิจิ-วัดอาซากุสะ-โตเกียวสกายทรี-ช้อปปิ้งย่านชินจุกุ-ช้อปปิ้งย่านชิบูยาสแครมเบิ้ลสแควร์

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านชมตลาดปลาซึกิจิ (Tsukiji Fish Market) ตลาดปลาและตลาดขายส่งที่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยปริมาณการค้าขายอาหารทะเลสูงถึง 2,000 ตันต่อวัน ตั้งอยู่ในเขตซึกิจิ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อเป็นอย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยว ทั้งการเปิดให้เข้าชมการประมูลปลาทูน่าตอนเช้าตรู่แบบจำกัดผู้เข้าชม รวมไปถึงมีร้านรวงมากมายที่รอให้นักท่องเที่ยวได้มาลิ้มลองอาหารทะเลสดๆ และมีอาหารทะเลแบบแปรรูปมากมายที่สามารถซื้อไปเป็นของฝากได้อีกด้วย นำท่านไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดอาซากุสะ (Asakusa Temple) มีสัญลักษณ์เป็นโคมสีแดงใหญ่ ที่เขียนเป็นตัวอักษรคันจิว่า Kaminari-Mon แปลว่า ประตูสายฟ้า วัดนี้เป็นวัดพุทธที่นับถือ เจ้าแม่ กวนอิม หรือ พระโพธิสัตว์คันนน (Kannon Bosatsu) และเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียวเลย ทีเดียว มีประวัติความเป็นมาว่า เมื่อปี ค.ศ.628 โดยมี 2 พี่น้องชาวประมง พบองค์เจ้าแม่กวนอิมขนาดเล็กที่ แม่น้ำซูมิดะ (Sumida) และได้นำกลับเข้าหมู่บ้าน และหัวหน้าหมู่บ้านจึงประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมไว้ที่บ้านเพื่อเก็บรักษา  และเปิดให้ชาวบ้านมากราบไหว้ นำท่านถ่ายรูปกับ โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของมหานครโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น เป็นหอคอยขนาดสูง ทำหน้าที่เป็นหอสื่อสารกระจายสัญญาณระบบดิจิตอล Tokyo Skytree ได้รับการบันทึกลงกินเนสส์บุ๊คว่า เป็นหอคอยที่สูงที่สุดในโลก และถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น มีความสูงอยู่ที่ 634 เมตร (2,080 ฟุต)

กลางวัน   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร  Rokkasen สุดยอดเมนู ปิ้งย่าง หมู เนื้อ ทะเล จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งย่านชินจุกุ (Shinjuku) ซึ่งโดดเด่นด้วยอาคารที่ว่าการมหานครโตเกียว (The Tokyo Metropolitan Government) ตั้งตระหง่านอยู่นั้น คือย่านธุรกิจที่เฟื่องฟูที่สุดในโตเกียว (Tokyo) นอกจากจะเต็มไปด้วยห้างสินค้าแฟชั่นและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่าง Isetan, Takashimaya และ Marui เรียงรายกันอยู่มากมายแล้ว บริเวณทางออกฝั่งตะวันออกของสถานีชินจุกุยังมีห้างร้านให้นักท่องเที่ยวหลากหลายกลุ่มวัยได้ช้อปปิ้งกันอย่างจุใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นดิสเคาท์สโตร์อย่าง Don Quijote ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง Yamada Denki  หรือจะเป็น Shinjuku Subnade ซึ่งมีร้านสินค้าหลากหลายแบรนด์รวมถึงร้านร้อยเยนอยู่ภายใน

นำท่านช้อปปิ้งย่านชิบูยาสแครมเบิ้ลสแควร์ (Shibuya Scramble Square) อาคารห้างสรรพสินค้าและสำนักงาน 47 ชั้นแห่งใหม่ล่าสุดในย่านชิบูย่าเปิดตัวแล้วอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2019 ตั้งตระหง่านพร้อมความสูง 230 เมตรอยู่ข้างห้าแยกชิบูย่า ไม่ว่าจะช้อปปิ้งเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้อินเทรนด์ อาหารและขนมยอดฮิต ไปจนถึงชมวิวห้าแยกชิบูย่า โตเกียวสกายทรี และภูเขาไฟฟูจิก็มี

เย็น   รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

พักที่ Hotel Sunshine City Prince หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

วันที่ 7
วัดนาริตะซัน-อิออน มอลล์-โตเกียว(สนามบินนาริตะ)-กรุงเทพ(สุวรรณภูมิ)

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านสู่ วัดนาริตะซัน ชินโชจิ (Naritasan Shinshoji Temple) เป็นวัดในพระพุทธศาสนาที่ตั้งอยู่ใน เมืองนาริตะ จังหวัดชิบะ ที่วัดแห่งนี้มีรูปเคารพขององค์ฟุโดเมียวโอ ที่มีชื่อเรียกขานกันมาตั้งแต่สมัยโบราณว่า “นาริ ตะฟุโด” ประดิษฐานเป็นองค์พระประธาน ถือเป็นหนึ่งในศาสนสถานสำคัญที่เป็นศูนย์กลางความศรัทธาต่อองค์ฟุโด เมียวโอ จากนั้นอิสระเดินเล่น นาริตะโอโมเตซันโดะ ถนนช้อปปิ้งสวยงามที่น้าไปสู่วัดนาริตะซังชินโชจิ ถนนเส้นนี้เหมาะส้าหรับ เดินเล่นและซื้อของทานเล่นและของที่ระลึกพื้นเมืองก่อนเข้าชมวัด หรือทานอาหารในร้านจ้านวนมากที่ขายปลาไหล สดๆ ย่างบาร์บีคิวแสนอร่อย

กลางวัน   อิสระอาหารมื้อกลางวัน

นำท่าน ช้อปปิ้งที่อิออน มอลล์ (Aeon Narita Mall) ห้างสรรพสินค้าที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินนานาชาตินาริตะ ภายในตกแต่งในรูปแบบที่ทันสมัยสไตล์ญี่ปุ่น มีร้านค้าที่หลากหลายมากกว่า 150 ร้านจำหน่ายสินค้าแฟชั่น อาหารสดใหม่ และอุปกรณ์ภายในบ้าน นอกจากนี้ยังมีร้านเสื้อผ้าแฟชั่นมากมาย เช่น MUJI, 100 yen shop, Sanrio store, Capcom games arcade และซุปเปอร์มาร์เกตขนาดใหญ่ เป็นต้น ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบินนาริตะ

17.30 น.   จากนั้นนำท่านออกเดินทางจากเมืองโตเกียว(สนามบินนาริตะ) กลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินไทยแอร์เวย์ (TG) เที่ยวบินที่ TG677 (17.30-22.30) ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ7.00 ชั่วโมง บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง

22.30 น.   เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

เงื่อนไข

อัตรานี้รวม

  1. ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ (Economy Class) แบบหมู่คณะ
  2. ค่ารถโค้ช ปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ
  3. ค่าห้องพักในโรงแรมที่ระบุตามรายการหรือเทียบเท่า
  4. ค่าอาหารที่ระบุตามรายการ
  5. ค่าเข้าชมสถานที่ทุกแห่งที่ระบุตามรายการ
  6. ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงินประกันท่านละ 2,000,000 บาทและค่ารักษาพยาบาล 200,000 บาทไม่คุ้มครอง โรคประจำตัวหรือโรคร้ายแรงที่แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นก่อนเดินทางรายละเอียดอื่นๆ เป็นไปตามเงื่อนไขแห่งกรมธรรม์ฯ
  7. ค่าประกันรวมรักษาโควิดหากป่วยหรือต้องกักตัวในต่างประเทศ (รายละเอียดเป็นไปตามเงื่อนไขแห่งกรมธรรม์)
  8. น้ำดื่มวันละ 1 ขวด / ท่าน
  9. ค่าน้ำหนักกระเป๋า (น้ำหนัก 20 กิโลกรัม)

อัตรานี้ไม่รวม

  1. ค่าธรรมเนียมจัดทำหนังสือเดินทาง, แจ้งเข้าแจ้งออกสำหรับผู้ที่ไม่ได้ถือหนังสือเดินทางของไทย
  2. ค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นสำหรับชาวต่างชาติ ที่ไม่ได้รับการงดเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่น
  3. ค่าภาษีน้ำมันที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่ม หากสายการบินมีการปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง
  4. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ในกรณีที่ต้องการใบกำกับภาษี
  5. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษ นอกเหนือจากรายการทัวร์, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, มินิบาร์และทีวีช่องพิเศษ ฯลฯ
  6. ค่าธรรมเนียมในกรณีที่กระเป๋าสัมภาระที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินนั้นๆ กำหนดหรือสัมภาระใหญ่เกินขนาดมาตรฐาน
  7. ค่าทิปคนขับรถในญี่ปุ่น 1,500 บาท / ท่าน
  8. ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ขึ้นอยู่กับความพึ่งพอใจของท่าน

การจองและการชำระ

  1. ชำระเงินมัดจำท่านละ 40,000 บาท ภายหลังจากที่ท่านส่งเอกสารการจองภายใน 2 วัน โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น
  2. ส่วนที่เหลือชำระ 30 วัน ก่อนการเดินทาง เฉพาะวันหยุดยาวและนักขัตฤกษ์ ชำระส่วนที่เหลือ 45 วันก่อนการเดินทาง เนื่องจากทางบริษัทต้องสำรองค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าที่พักและตั๋วเครื่องบิน มิฉะนั้นจะถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยอัตโนมัติ
    • หากไม่ชำระมัดจำตามที่กำหนด ขออนุญาตตัดที่นั่งให้ลูกค้าท่านอื่นที่รออยู่
    • หากชำระไม่ครบตามจำนวน บริษัทฯ ถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยอัตโนมัติ โดยไม่มีเงื่อนไข
    • เมื่อท่านชำระเงินแล้ว ไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วน ทางบริษัทฯ ถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขและข้อตกลงต่างๆที่ได้ระบุไว้ทั้งหมดนี้แล้ว
  3. ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือนและเหลือหน้ากระดาษอย่างต่ำ 2 หน้า เพื่อทำการสำรองที่นั่งภายใน 2 วัน นับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาตยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ
  4. หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
  5. หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด

เงื่อนไขการยกเลิกการจองและการปรับเงินค่าบริการ

  1. ยกเลิกการเดินทาง 45 วัน ไม่เก็บค่าใช้จ่าย (ในกรณีวันเดินทางตรงกับเทศกาลหรือหยุดยาว เช่น สงกรานต์ / ปีใหม่ เป็น 60 วัน) หรือ หักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง (ถ้ามี)
  2. ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30 วัน คืนเงิน 100% ของค่าทัวร์ที่จ่ายมาแล้ว หรือ หักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน, ค่ามัดจำโรงแรม, ค่าวีซ่า (ถ้ามี)
  3. ยกเลิกก่อนการเดินทาง 15–29 วัน คืนเงิน 50% ของค่าทัวร์ที่จ่ายมาแล้ว และหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน, ค่ามัดจำโรงแรม, ค่าวีซ่า (ถ้ามี)
  4. ยกเลิกก่อนการเดินทางน้อยกว่า 15 วัน ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ชำระแล้วทั้งหมด
  5. หากมีการยกเลิกการเดินทางโดยไม่ใช่ความผิดของบริษัททัวร์ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบและคืนค่าทัวร์ส่วนใดส่วนหนึ่งให้ท่านได้ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น เช่น สถานทูตปฏิเสธวีซ่า ด่านตรวจคนเข้าเมือง นโยบายห้ามเข้าออกประเทศ ฯลฯ
  6. กรณีต้องการเปลี่ยนแปลงผู้เดินทาง (เปลี่ยนชื่อ) จะต้องแจ้งให้ทางบริษัททราบล่วงหน้า อย่างน้อย 21 วัน ก่อนออกเดินทาง กรณีแจ้งหลังจากเจ้าหน้าที่ออกเอกสารเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ทั้งหมดทั้งนี้ขึ้นอยู่กับช่วงพีเรียดวันเดินทางและกระบวนการของแต่ละคณะเป็นสำคัญด้วย กรุณาสอบถามกับเจ้าหน้าที่เป็นกรณีพิเศษ
  7. กรณีต้องการเปลี่ยนแปลงพีเรียดวันเดินทาง (เลื่อนวันเดินทาง) ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการหักค่าใช้จ่ายการดำเนินการต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริงสำหรับการดำเนินการจองครั้งแรก ตามจำนวนครั้งที่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
Share on social networks
โปรแกรมทัวร์ที่น่าสนใจ