20.00 น. | คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 10 เคาน์เตอร์ U สายการบินเตอกิช แอร์ไลน์ พบเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก |
23.00 น. | ออกเดินทางสู่เมืองอิสตันบูล โดยเที่ยวบิน TK 69 |
05.15 น. | เดินทางถึงสนามบินเมืองอิสตันบูล ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร จากนั้นนำคณะเดินทางสู่ อาคารผู้โดยสารในประเทศ |
08.55 น. | ออกเดินทางต่อ สู่เมืองเคย์เซอรี่ (Kayser) โดยเที่ยวบินที่ TK 2026 |
10.15 น. | เดินทางถึงสนามบินเคย์เซอรี่ ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นนำท่านเดินทางเมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) ชื่นชมดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ซึ่งเกิดจากลาวาภูเขาไฟที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง แล้วทับถมเป็นเวลาหลายล้านปี เมื่อวันเวลาผ่านไป พายุ ลม ฝน และหิมะได้เป็นกัดเซาะแผ่นดิน มาเรื่อยๆ ก่อให้เกิดการแปรสภาพเป็นหุบเขาร่องลึก เนินเขา กรวยหินและเสารูปทรงต่างๆ เกิดเป็นภูมิประเทศที่งดงาม แปลกตาและน่าอัศจรรย์ ดั่งสวรรค์บนดิน จนได้ชื่อว่า “ดินแดนแห่งปล่องนางฟ้า” และได้รับการแต่งตั้งจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี นำท่านเข้าชมนครใต้ดิน (Underground City) ซึ่งเป็นที่หลบซ่อนจากการรุกรานของข้าศึกพร้อมทั้งยังมีระบบระบายอากาศและสภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่ใต้ดินพร้อมสรรพ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หุบเขาอุซิซาร์ (Uchisar Valley) หุบเขาคล้ายจอมปลวกขนาดใหญ่ ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งหุบเขาดังกล่าวมีรูพรุน มีรอยเจาะ รอยขุด อันเกิดจากฝีมือมนุษย์ไปเกือบทั่วทั้งภูเขา เพื่อเอาไว้เป็นที่อยู่อาศัย และถ้ามองดีๆจะรู้ว่าอุซิซาร์ คือ บริเวณที่สูงที่สุดของบริเวณโดยรอบ ดังนั้นในอดีตอุซิซาร์ ก็มีไว้ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเอาไว้สอดส่องข้าศึกยามมีภัยอีกด้วย |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่เมืองเกอเรเม (Goreme) นำท่านเชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง (Goreme Open-Air Museum) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ อิสระถ่ายภาพเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย นำท่านเดินทาสู่โรงงานเครื่องประดับ (Jewelly Factory) เพื่อให้ท่านได้ชมการสาธิตกรรมวิธีการผลิตสินค้าพื้นเมืองที่มีคุณภาพและชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ชมโรงงานทอพรม(Carpet Factory) และโรงงานเซรามิค (Pottery at Avanos Village) คุณภาพดีของประเทศตุรกี ให้เวลาท่านเลือกซื้อตามอัธยาศัย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ชมระบำหน้าท้อง (Belly Dance) และการแสดงพื้นเมืองต่างๆ ของตุรกีอันลือชื่อที่น่าตื่นตาตื่นใจ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
** สำหรับท่านใดที่สนใจขึ้นบอลลูนชมความงามของเมืองคัปปาโดเกีย จะต้องออกจากโรงแรม 05.00 น.ชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเกียในอีกมุมหนึ่งที่หาชมได้ยาก ใช้เวลาอยู่บอลลูนประมาณ 1 ชั่วโมง (ค่าขึ้นบอลลูนไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ ราคาโดยประมาณ 300-350 USD ต่อ 1 ท่าน รบกวนติดต่อสอบถามแจ้งความจำนงค์กับหัวหน้าทัวร์โดยตรง ทางบริษัทเป็นเพียงตัวกลางในการให้ข้อมูลและคำแนะนำเท่านั้น)
นำท่านออกเดินทางสู่เมืองคอนย่า (Konya) ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจูคในช่วงปี ค.ศ. 1071-1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภูมิภาคแถบนี้อีกด้วย ระหว่างทางให้ท่านได้ชมทัศนียภาพสองข้างทางสบายๆที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทางของประเทศตุรกี จากนั้นนำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์เมฟลานา (Mevlana Museum ) หรือสำนักลมวน เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1231 โดยเมฟลานา เจลาเลคดิน รูบี ซึ่งเชื่อกันว่า ชายคนนี้เป็นผู้วิเศษของศาสนาอิสลาม หรือเรียกได้ว่าเป็นผู้ชักชวนคนที่นับถือศาสนาคริสต์ให้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม โดยมีพื้นฐานอยู่บนความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน |
|
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง |
บ่าย | หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูน (แคลเซียมออกไซด์) ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมาก ไหลรินลงมาจากภูเขา “คาลดากึ” ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศเหนือ รินเอ่อท้นขึ้นมาเหนือผิวดิน และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศ เกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ อันสวยงามแปลกตาที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ยากจะหาที่ใดเหมือน จนทำให้ปามุกคาเล่และเมืองเฮียราโพลิส ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988 สำคัญอื่นๆ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ปามุคคาเล่ โรงอาบน้ำโรมัน โบสถ์สมัยไบแซนไทน์ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
นำท่านเข้าชมปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) ซึ่งเกิดจากน้ำแร่ร้อนที่มีแร่ธาตุแคลเซี่ยมคาร์บอเนต มาตกตะกอนเกิดเป็นลักษณะหน้าผา ซ้อนกันเป็นชั้นน้ำตก มีสีขาวคล้ายกับสร้างมาจากปุยฝ้าย ซึ่งน้ำแร่ที่ไหลลงมาแต่ละชั้นจะแข็งเป็นหินปูน ย้อยเป็นรูปร่างต่างๆอย่างสวยงามและน่าอัศจรรย์ น้ำแร่นี้มีอุณหภูมิตั้งแต่ประมาณ 35 – 100 องศาเซลเซียส ประชาชนจึงนิยมไปอาบหรือนำมาดื่ม เพราะเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรคหัวใจ โรคไขข้ออักเสบ ความดันโลหิตสูง โรคทางเดินปัสสาวะ และโรคไต ในอดีตกาลชาวโรมันเชื่อว่าน้ำพุร้อนสามารถรักษาโรคได้ จึงได้สร้างเมืองเฮียราโพลิสล้อมรอบ ปัจจุบันเมืองปามุคคาเลและเมืองเฮียราโพลิส ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988 สำคัญอื่นๆ นำท่านชมเมืองโบราณเฮียราโพลิส (Hierapolis) ในอดีตเป็นสถานที่บำบัดโรค ก่อตั้งโดยกษัตริย์ยูเมเนสที่ 1แห่งแพร์กามุม ในปี 190 ก่อนคริสต์กาล สถานที่แห่งนี้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลายครั้งหลังปี ค.ศ 1334 จึงไม่มีคนอาศัยอยู่อีก ศูนย์กลางของเฮียราโพลิสเป็นบ่อน้ำที่ศักสิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในปามุคคาเล สถานที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ปามุคคาเล โรงอาบน้ำโรมัน โบสถ์สมัยไบแซนไทน์ | |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง |
บ่าย | ออกเดินทางไปยังเมืองคูซาดาสึ (Kusadasi) อันเป็นที่ตั้งของเมืองเอฟฟิซุส (City of Ephesus) เมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษา ไว้เป็นอย่างดี ที่สุดเมืองหนึ่ง เคยเป็นที่อยู่ของชาวโยนก (Ionia) จากกรีกซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมืองขึ้นที่นี่ เมื่อประมาณ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซีย และกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนา “เอเฟซุส” ขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมัน เราได้เดินบนถนนหินอ่อนผ่านใจกลางเมืองเก่าที่สองข้างทาง เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างที่ปรักหักพังเมื่อสมัย 2,000 ปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นวัดต่างๆ หอสมุด โรงละครกลางแจ้งที่สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 30,000 คน ซึ่งยังคงใช้งานได้จนถึงปัจจุบันนี้ มีคอนเสิร์ตของฮูลิโอ อิงเกลเซียส มาแสดง นำท่านเข้าชมบ้านของพระแม่มารี (House of vergin mary) ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีมาอาศัยและสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้ ถูกค้นพบอย่างปาฏิหาริย์โดยแม่ชีตาบอดชาวเยอรมันชื่อ แอนนา แคเทอรีน เอมเมอริช Anna Catherine Emmerich ค.ศ. 1774-1824 |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
นำท่านเยี่ยมชมโรงงานหนังชั้นนำ Leather Fashion House โรงงานผลิตเสื้อหนังคุณภาพดี ให้ท่านมีเวลาเลือกซื้อ ผลิตภัณฑ์เสื้อหนัง ตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเพอร์กามัม (Pergamon) ตั้งอยู่ในบริเวณอะนาโตเลียห่างจากทะเลอีเจียนประมาณ 30 กม.ทางด้านเหนือของแม่น้ำไคซูส ผ่านชมเมืองเพอร์กามัม เป็นเมืองโบราณของกรีกที่มีความสำคัญของพวกเฮเลนนิสติก ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ คือ วิหารอะโครโปลิส (Acropolis) นครบนที่สูง เป็นโครงสร้างฐานในการป้องกันเมืองของอาณาจักรกรีกและโรมัน ซึ่งผู้ตั้งถิ่นฐานในสมัยนั้นมักเลือกที่สูง ซึ่งมักจะเป็นเนินเขาที่ด้านหนึ่งเป็นผาชัน และกลายเป็นศูนย์กลางของมหานครใหญ่ ที่เติบโตรุ่งเรืองอยู่บนที่ราบเบื้องล่างที่รายล้อมป้อมปราการเหล่านี้ โดยเมืองด้านบน (upper town) จะเป็นพื้นที่วิหารบูชาเทพเจ้า สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พระราชวังและพื้นที่ใช้งานต่างสำหรับกษัตริย์และชนชั้นสูงเท่านั้น ส่วนประชาชนคนธรรมดาทั่วไปจะอยู่ในส่วนของเมืองด้านล่าง | |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง |
บ่าย | สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองชานัคคาเล (Canakkale) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าตลอดจนชุมทางการเดินรถ และขนถ่ายสินค้าจากเอเชียสู่ยุโรป นับตั้งแต่สุลต่านอาห์เม็ดที่ 2 ได้สร้างป้อมปราการขึ้นที่นี่เมื่อปี 1452 เมืองชานัคคาเล่ในอดีตเป็นที่ตั้งของสมรภูมิรบกัลลิโปลี สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อฝ่ายสัมพันธมิตรต้องการรุกคืบหน้า เข้าไปยังช่องแคบคาร์ดาแนลส์ เพื่อบีบให้ตุรกีถอนตัวออกจากสงครามโลก ให้เวลาท่านชมและถ่ายรูปคู่กับม้าไม้จำลองซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ริมทะเล |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
นำท่านนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามช่องแคบดาร์ดะเนลส์ (Dardanelles) เป็นช่องแคบ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ที่กั้นระหว่างคาบสมุทรกัลลิโพลี (Gallipoli) ของตุรกีส่วนที่อยู่ในทวีปยุโรปกับตุรกีส่วนที่อยู่ในทวีปเอเชีย เชื่อมทะเลมาร์มะรา (Sea of Marmara) กับทะเลอีเจียน (Aegean) จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองอิสตันบูล (Istanbul) เมื่องสำคัญอันดับ 1 ของประเทศ เดิมชื่อ คอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี ท่านเดินทางสู่จัตุรัสสุลต่านอาห์เหม็ด (Sultan Ahmed Complex) มีชื่อเรียกโบราณคือ ฮิปโปโดม (Hippodrome) ตั้งอยู่หน้าสุเหร่าสีน้ำเงิน เดิมเป็นลานแข่งรถม้าและศูนย์กลางเมืองในยุคไบแซนไทน์ เข้าชมสุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ทางศาสนา ที่มีความสวยงามแห่งหนึ่ง ชื่อนี้ได้มาจากกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินที่ใช้ปูตลอดแนวฝาผนังด้านใน และถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ซึ่งเคยเป็นวังของจักรพรรดิไบเซนไทน์ โดยสุลต่านอาห์เหม็ตที่ 1 ค.ศ. 1609 ใช้เวลาสร้างทั้งหมด 7 ปี | |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | มากมาย นำท่านล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (The Black Sea) เข้ากับทะเลมาร์มาร่า (Sea of Marmara) ความยาวทั้งสิ้น ประมาณ 32 กิโลเมตร ความกว้างตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 กิโลเมตร ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรปและสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่ นอกจากความ สวยงามแล้ว ช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย ขณะล่องเรือท่านจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ข้างทางไม่ว่าจะเป็นพระราชวังโดลมาบาชเช่หรือบ้านเรือนสไตล์ยุโรปของบรรดาเศรษฐี ซึ่งล้วนแล้วแต่สวยงามตระการตาทั้งสิ้น จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ตลาดในร่ม (Kapali Carsisi หรือ Covered Bazaar) หรือ แกรนด์บาซาร์ (Grand Bazaar) เป็นตลาดเก่าแก่ สร้างครั้งแรกในสมัยสุลต่านเมห์เม็ดที่ 2 เมื่อปี ค.ศ. 1461 ตลาดนี้กินเนื้อที่กว่า 2 แสนตารางเมตร ประกอบด้วยร้านค้ากว่า 4,000 ร้าน ขายของสารพัด ตั้งแต่ทองหยอง เครื่องประดับ พรม เครื่องเงิน เครื่องหนัง กระเบื้อง เครื่องทองแดง ทองเหลือง สินค้าหัตถกรรม ของที่ระลึก ฯลฯ ที่นี่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงตั้งราคาสินค้าเอาไว้ค่อนข้างสูง ควรต่อรองราคาให้มาก |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
นำท่านชม พระราชวังโดลมาบาเช (Dolmabahce) สร้างโดยสุลต่านอับดุลเมจิต ในปี ค.ศ. 1843-1856 ยุคปลายอาณาจักรออตโตมัน เป็นพระราชวังสุดหรูหราอลังการที่ทุ่มสร้างคิดเป็นเงินในปัจจุบันถึงประมาณพันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างถึง 12 ปี ผสมผสานศิลปะแบบพระราชวังยุโรปกับแบบอาหรับอย่างสวยงาม จากนั้นนำท่านสู่ตลาดสไปซ์ มาร์เก็ต (Spice Market) หรือตลาดเครื่องเทศ ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันขึ้นชื่อของตุรกี อย่าง แอปริคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย | |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
ได้เวลาอันสมควรนำเดินทางสู่สนามบิน เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำการคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบินอิสตัลบูล | |
16.35 น. | ออกเดินทางกลับสู่ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ TK 58 |
06.15 น. | ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ด้วยความสวัสดิภาพ |
** ลูกค้าท่านใดสนใจ…ซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบคลุมเรื่องสุขภาพสามารถสอบถามข้อมูล เพิ่มเติมกับทางบริษัทได้ **
**ความครอบคลุมผู้เอาประกันที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 85 ปี **
[รักษาพยาบาล 2 ล้าน, เสียชีวิตหรือเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ 1.5 ล้านบาท]
กรณียกเลิกการเดินทาง
กรณีที่นักท่องเที่ยวหรือตัวแทนจำหน่ายต้องการขอยกเลิกการเดินทาง หรือเลื่อนการเดินทาง นักท่องเที่ยวหรือตัวแทนจำหน่าย(ผู้มีชื่อในเอกสารการจอง) จะต้องแฟกซ์ อีเมลล์ หรือ มาเซ็นเอกสารการยกเลิกที่บริษัท อย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อเป็นการแจ้งยกเลิกกับทางบริษัทอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร (ทางบริษัทไม่ขอรับยกเลิกการจอง ผ่านทางโทรศัพท์ไม่ว่ากรณีใดๆ)
กรณีนักท่องเที่ยวหรือตัวแทนจำหน่าย ต้องการขอรับเงินค่าบริการคืน นักท่องเที่ยวหรือตัวแทนจำหน่าย (ผู้มีชื่อในเอกสารการจอง) จะต้องแฟกซ์ อีเมลล์ หรือ มาเซ็นเอกสารการขอรับเงินคืนที่บริษัท อย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อทำเรื่องขอรับเงินค่าบริการคืน โดยแนบหนังสือมอบอำนาจพร้อมหลักฐานประกอบการมอบอำนาจ หลักฐานการชำระเงินค่าบริการต่างๆ และหน้าสมุดบัญชีธนาคารที่ต้องการให้นำเงินเข้าให้ครบถ้วน โดยมีเงื่อนไขการคืนเงินค่าบริการ ตาม “ประกาศคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำหนดอัตราการจ่ายเงินค่าบริการคืนให้แก่นักท่องเที่ยว พ.ศ. 2563” ดังนี้
4.1 ยกเลิก ไม่น้อยกว่า 45 วันก่อนการเดินทาง (ไม่นับวันเดินทาง) คืนเงินค่าทัวร์เต็มจำนวน ยกเว้น ค่าใช้จ่าย ที่เกิดขึ้นจริงเพื่อการเตรียมการนำเที่ยว ทั้งหมด เช่น ค่ามัดจำตั๋วเครื่อง ค่าบริการแลนด์ ต่างประเทศ เป็นต้น”
4.2 ยกเลิก ไม่น้อยกว่า 15-29 วันก่อนเดินทาง (ไม่นับวันเดินทาง) คืนเงินร้อยละ 50 ของค่าทัวร์ทั้งหมด ยกเว้น ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงเพื่อการเตรียมการนำเที่ยว ทั้งหมด เช่น ค่ามัดจำตั๋วเครื่อง ค่าบริการแลนด์ ต่างประเทศ เป็นต้น”
4.3 ยกเลิก น้อยกว่า 15 วันก่อนการเดินทาง ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ ไม่คืนเงินค่าทัวร์ทั้งหมด
** การจ่ายเงินคืนแก่นักท่องเที่ยวตามข้อกำหนดด้านบน ซึ่งมีการหักเงินในบางส่วนนั้น เนื่องจากทางบริษัทมี ค่าใช้จ่ายที่ได้จ่ายจริงเพื่อการเตรียมการจัดนำเที่ยวไปแล้ว เช่น การมัดจำที่นั่งบัตรโดยสารเครื่องบิน การจองที่พัก และ ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่นๆ เป็นต้น **
4.4 การยกเลิกเดินทางกับกรุ๊ปที่ออกเดินทางช่วงเทศกาลวันหยุด เช่น ปีใหม่, สงกรานต์ เป็นต้น บางสายการ บินมีการการันตีมัดจำที่นั่งกับสายการบินและค่ามัดจำที่พัก รวมถึงเที่ยวบินพิเศษ เช่น CHARTER FLIGHT จะไม่มีการคืนเงินมัดจำ หรือ ค่าทัวร์ทั้งหมดที่ชำระแล้ว ไม่ว่ายกเลิกด้วยกรณีใดๆ
***ในกรณี มีเหตุให้ต้องยกเลิกการเดินทางที่บริษัทได้โฆษณาไว้ ซึ่งมิใช่ความผิดของบริษัทเอง ทางบริษัทยินดีคืนเงินค่าบริการตามที่ลูกค้าได้ชำระมาแล้วหลังจากหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง โดยต้องมีระยะเวลาไม่น้อยกว่า 45 วัน ก่อนการเดินทาง โปรดอ่านข้อความให้ถี่ถ้วนก่อนการจองทัวร์ทุกครั้ง เพื่อประโยชน์แก่ตัวท่านเอง *** 4.5 กรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองทั้งกรุงเทพฯ และในต่างประเทศ ปฏิเสธมิให้เดินทางออก หรือ เข้าประเทศที่ ระบุ ไว้ในรายการเดินทาง บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนค่าทัวร์ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
4.6 เมื่อท่านออกเดินทางไปกับคณะแล้ว ถ้าท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่ง หรือไม่เดินทางพร้อม คณะถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่อาจเรียกร้องค่าบริการและเงินมัดจำคืน ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น