05.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตูทางเข้า 6 เคาน์เตอร์ M สายการบิน TURKISH AIRLINES พบเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
07.50 น. ออกเดินทางสู่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี บินตรง โดยเที่ยวบินที่ TK59
13.55 น. เดินทางถึงสนามบินเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี แวะพักเปลียนเครื่อง
17.15 น. ออกเดินทางอีกครั้งสู่เมืองดิยาร์บาเกียร์ (Diyarbakir) โดยเที่ยวบินที่ TK2606
19.05 น. ถึงสนามบินเมืองดิยาร์บาเกียร์ หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระแล้ว นำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก (เวลาที่ประเทศตุรกี ช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง)
ที่พัก ANEMON DIYARBAKIR HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเที่ยวชมเมืองดิยาร์บาเกียร์ (Diyarbakir) เป็นเมืองที่มีชาวเคิร์ดอาศัยอยู่มากที่สุดในประเทศตุรกี ตั้งอยู่ในเขตที่ราบสูงของแม่น้ำไทกริส ในปีค.ศ. 1937 หลังจากที่ท่านอตาเติร์กได้มาสำรวจเมืองนี้ ได้ทำการเปลี่ยนชื่อเมืองเป็นดิยาร์บาเกียร์ ซึ่งแปลว่า เมืองแห่งทองแดง เนื่องจากบริเวณรอบๆเมืองนี้ อุดมไปด้วยสายแร่ทองแดง
นำท่านเที่ยวชมกำแพงเมืองโบราณ (Diyarbakir Fortress) สร้างขึ้นมาตั้งแต่ในยุคโรมัน ต้นศตวรรษที่ 4 โดยจักรพรรดิคอนสแตนเซียสที่ 2 กำแพงเมืองดิยาร์บาเกียร์ถือเป็นกำแพงเมืองโบราณที่มีขนาดกว้างเป็นอันดับที่ 2 ของโลก รองจากกำแพงเมืองจีนเท่านั้น องค์การยูเนสโก้ได้รองรับให้กำแพงนี้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 2000
จากนั้นนำท่านเข้าชมมัสยิดกลางแห่งดิยาร์บาเกียร์ (Great Mosque of Diyarbakir) มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในเมือง สามารถจุผู้เข้ามาประกอบพิธีได้ถึง 5,000 คน สร้างขึ้นเลียนแบบมัสยิดกลางแห่งดามัสกัส ประเทศซีเรีย ในอดีตมัสยิดแห่งนี้ใช้เป็นศาสนสถานของทั้งศาสนาคริสต์และอิสลาม ทำให้สถาปัตยกรรมของมัสยิดแห่งนี้มีลักษณะคล้ายกับโบสถ์ในศาสนาคริสต์ สวยงามแปลกตาเป็นอย่างมาก
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองบัตมัน (Batman) ระยะทาง 97 กม. ใช้เวลา 1 ชั่วโมง เมืองในเขตอานาโตเลียตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี เมืองนี้ตั้งอยู่บนที่ราบสูง 540 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ใกล้จุดบรรจบของแม่น้ำบัตมันและแม่น้ำไทกริส เมืองบัตมันยังเป็นเมืองน้ำมันที่สำคัญของตุรกี โดยมีเขตขุดน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในตุรกี (Bati Raman Oil Field) ถูกค้นพบในปีค.ศ. 1940 สามารถขุดเจาะน้ำมันได้ถึง 7000 บาเรลล์ต่อวัน เมืองบัตมมันยังมีฐานทัพอากาศของทหารซึ่งสำหรับการขนส่งอากาศยานและเฮลิคอปเตอร์ในการค้นหาและปฏิบัติการช่วยเหลือของสงครามอ่าวเปอร์เซีย
จากนั้นนำท่านเข้าชม Hasankeyf Castle หรือ Hisno Koyfa มีความหมายว่าป้อมปราการหิน เป็นแหล่งประวัติศาสตร์การตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีการเริ่มขุดค้นในช่วงยุค 80 มีการพบหลักฐานต่างๆ ที่คาดการณ์ว่ามีการอาศัยอยู่ของมนุษย์ในบริเวณนี้ย้อนหลังไปถึง 12,000 ปี จนกระทั้งต้นศตวรรษที่ 4 อาณาจักรไบแซนไทน์ได้กลับมาใช้ประโยชน์ในสถานที่แห่งนี้ในทางศาสนา และหลบภัยจากการคุกคามจากออตโตมัน หรือชาวมุสลิม
ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางสู่เมืองมาร์ดิน (Mardin) ระยะทาง 142 กม. ใช้เวลา 2 ชั่วโมง เป็นเมืองในเขตตะวันออกเฉียงใต้ที่สำคัญอีกหนึ่งเมืองของตุรกี เนื่องจากตัวเมืองยังมีการอนุรักษ์ไว้ซึ่งสถาปัตยกรรมแบบอาร์ตุคิด (Artuqid) ของชาวโดเกอร์ (Doger) ราชวงศ์ที่เคยปกครองแถบคาบสมุทรอนาโตเลียตะวันออก (Artuqid Dynasty) เมืองมาร์ดินตั้งอยู่ในภูมิศาสตร์ที่ดีมาก ตัวเมืองตั้งอยู่บนเนินเขาใกล้แม่น้ำไทรกิส (Tigris) ตัวเมืองโบราณของมาร์ดินได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้
นำท่านเที่ยวชมตลาดกลางเมืองมาร์ดิน (Mardin Grand Bazaar) เพื่อให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองต่างๆ สินค้าขึ้นชื่อของเมืองมาร์ดินคือสบู่ที่ทำมาจากน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ ให้ท่านได้เพลิดเพลินไปกับการเลือกซื้อของ และสัมผัสบรรยากาศของชาวพื้นเมือง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
ที่พัก ANEMON HOTEL MARDIN หรือเทียบเท่าระดับ 5 ดาว
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเข้าชม Zinciriye Madrasa หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Sultan Isa Madrasa มาดราซ่า (Madrasa) คือโรงแรมสอนศาสนาอิสลาม จุดท่องเที่ยวที่สวยงามที่สุดของเมืองมาร์ดิน สร้างขึ้นในปีค.ศ 1385 โดยสุลต่าน Melik Necmeddin Isa bin Muzaffer Davud bin El Melik Salih ของราชวงศ์อาร์ตุคิด ราชวงศ์ที่ปกครองเมืองมาร์ดินและดินแดนบริเวณตอนเหนือของซีเรีย อิรัก และอิหร่าน ตัวอาคารแห่งนี้ สร้างอยู่ด้านล่างของปราสาทมาร์ดิน (Mardin Castle) แบ่งเป็น 2 ชั้น ประกอบไปด้วยมัสยิด หลุมฝั่งศพ และส่วนการใช้งานอื่นๆ ลักษณะเด่นเป็นอาคารมีโดมขนาดใหญ่ 2 โดม ในปีค.ศ. 1401 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของราชวงศ์อาร์ดุติค สถานที่แห่งนี้ถูกใช้งานเป็นโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม จนกระทั้งปีค.ศ. 1920 ในยุคที่อตาเติร์ก เปลี่ยนแปลงหลักการนับถือศาสนาอิสลามใหม่ในตุรกี โรงเรียนแห่งนี้จึงได้ถูกปิดลง และปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์จนถึงปัจจุบัน
จากนั้นนำท่านเข้าชม Kasimiye Madrasa อีกหนึ่งโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามของเมืองนี้ อาคารสร้างขึ้นโดย sultan Al-Zahir Majd al-Din ‘Isā ibn Dāwū ความพิเศษของอาคารเรียนแห่งนี้ คือสร้างตามหลักความเชื่อของศาสนาอิสลามในเรื่องที่ นรกภูมิจะมีสะพานข้ามทางน้ำ ที่จะเป็นทางเดินสำหรับผู้คนที่ทุกข์ทรมานจากนรก เดินทางไปยังสวรรค์เพื่อพบกับเจ้าพระโดยการข้ามสะพานแห่งนี้ ทำให้ภายในตัวอาคารมีการสร้างทางน้ำรอบๆห้องเรียน และประตูทางเข้าห้องเรียนทุกห้อง จะตั้งอยู่ต่ำและมีขนาดเล็ก เพื่อบังคับให้นักเรียนทุกคนต้องก้มหัว และโค้งคำนับอาจารย์ก่อนเข้าห้องเรียน และอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นไฮไลท์ของอาคารแห่งนี้คือ นาฬิกาช้าง (Elephant Clock) ที่เป็นนาฬิกาบอกว่าเวลาโบราณ โดยใช้หลักการหยดน้ำ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์และความสามารถทางวิศวกรรมของชาวมุสลิมในยุคกลาง ปัจจุบันเหลือเพียงไม่กี่ชิ้นในโลก และบางชิ้นถูกจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์เท่านั้น
นำท่านเข้าชมมัสยิดกลางแห่งเมืองมาร์ดิน (Great Mosque of Mardin) หนึ่งในมัสยิดโบราณที่โดดเด่นที่สุดของโลก มีอายุมากกว่า 1,000 ปีด้วยการสร้างแบบเมโสโปเตเมียตอนเหนือ ทำให้มีลักษณะที่สวยงาม แปลกตา ภายในมัสยิดบรรจุชิ้นส่วนเคราของท่านอับราฮัม (Abraham) ผู้เป็นสาวกโดยตรงของท่านมูฮาหมัด (Hazrat Muhamad) ศาสนทูตของพระอัลลอฮ์
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองชันลิอูร์ฟ่า (Sanliurfa) ระยะทาง 190 กม. ใช้เวลา 2.30 ชั่วโมง หรือมีอีกชื่อว่า อูร์ฟา (Urfa) เมืองนี้ในสมัยโบราณเรียก อิเดสซา (Edessa) เป็นเมืองการค้าในสมัยโบราณ เป็นศูนย์กลางในระยะแรกของชาวคริสต์ที่พูดภาษาซีเรียที่อาศัยในบริเวณนี้ จนกระทั่งชาวอาหรับเข้ายึดครองในประมาณปี ค.ศ. 639 ต่อมาในปีค.ศ. 1098 ช่วงสงครามครูเสดครั้งที่ 1 บอล์ดวินที่ 1 แห่งบูโลญ ได้ทำการยึดเมืองนี้จากพวกเซลจูกเติร์กและก่อตั้งเป็น อิเดสซา เคาน์ตี และเปลี่ยนให้เป็นเมืองที่นับถือศาสนาคริสต์ ต่อมาได้ถูกชาวมุสลิมเข้าครอบครองอีกครั้งใน ค.ศ. 1144 ก่อนจะตกอยู่ใต้การปกครองของพวกเติร์กอีกครั้งใน ค.ศ. 1637 จนถึงปัจจุบัน
นำท่านชมแหล่งโบราณคดี โกเบคลี เทเป (Gobekli Tepe) วิหารแห่งแรกของโลก ถูกค้นพบในปีค.ศ. 1963 ทีมนักโบราณคดีพิสูจน์อายุการก่อสร้าง ทำให้ทราบว่า โกเบคลี เทเป สร้างขึ้นในยุคหินใหม่ มีอายุราว 11,000-12,000 ปี หรือ 1 หมื่นปีก่อนคริสตกาล ซึ่งเก่าแก่ที่สุดในบรรดาศาสนสถานที่ถูกค้นพบ วิหารแห่งนี้จึงเป็นศาสนสถานที่เก่าแก่ที่สุดในโลก หรือ “วิหารแห่งแรกของโลก” (The World’s First Temple) โกเบคลี เทเป แปลว่า Potbelly Hill หรือ “เนินท้องโต” ในภาษาตุรกี ตั้งตามลักษณะที่ตั้งบนเนินเขา โกเบคลี เทเป มีลักษณะเป็นหินสลักขนาดใหญ่และเสารูปตัวที (T) ตั้งเรียงรายเป็นวงกลม บางเสาสูงถึง 6 เมตร และมีน้ำหนักถึง 200 ตัน การขุดค้นครั้งแรกพบเสาหินจำนวน 43 ต้น เสาหินแต่ละต้นมีรูปสลักเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ มีทั้ง สุนัขจิ้งจอก สิงโต วัว แมงป่อง งู หมูป่า แร้ง นกน้ำ แมลง รวมถึงมนุษย์ (ในลักษณะของหญิงเปลือย) บางเสาแกะสลักได้อย่างวิจิตรงดงาม จากการสันนิษฐานว่าสถานที่แห่งนี้เป็นวิหารแห่งแรกของโลก ถึงกับทำให้นักวิชาการบางคนอ้างว่า โกเบคลี เทเป เป็นที่ตั้งของสวนเอเดน (Garden of Eden) ในพระคัมภีร์ไบเบิลนั้นเอง
จากนั้นนำท่านเที่ยวชมย่านเมืองเก่าของเมือง นำท่านชมบ่อน้ำอับราอัม (Balikligol) ตามตำนานของศาสนาอิสลาม อับราฮัมเป้นสาวกและบุคคลที่เชื่อมั่นในพระองค์อัลเลาะห์เพียงองค์เดียวเท่านั้น จึงเป็นเหตุให้มีความขัดแย้งเรื่องความเชื่อทางศาสนากับกษัตริย์เนมรุต ซึ่งมีอํานาจสูงสุดในการปกครอง จึงถูกลงโทษประหารชีวิต โดยการยิงลงมาจากเสาคู่ด้านบนของปราสาทอูร์ฟา สู่เบื้องล่างที่ก่อกองไฟรอเผาอับราฮัมหวังจะให้เผาไหม้เป็นจุล แต่พระเจ้าได้เนรมิตให้เปลวไฟที่ลุกโชติช่วงกลายเป็นบ่อนํ้า และท่อนฟืนกลายเป็นปลา บริเวณนี้จึงกลายเป็นสระน้ำศักดิสิทธิ์ และเป็นที่อยู่ของปลาคาร์ฟ ปลาเทราท์มากมาย เชื่อกันว่าถ้าใครเห็นปลาเผือกในสระนํ้าจะได้เป็นผู้ที่ได้ขึ้นสู่สวรรค์เมื่อสิ้นชีวิตลง
ค่ำ พิเศษ รับประทานอาหารค่ำ พร้อมชมโชว์พื้นเมือง (Sira Gecesi Show)
ที่พัก HILTON GARDEN INN SANLIURFA หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่เมืองฮารัน (Harran) ระยะทาง 48 กม. ใช้เวลา 1 ชั่วโมง เมืองโบราณในเขตเมโสโปเตเมียตอนบน (Upper Mesopotamia) นำท่านชมหมู่บ้านรังผึ้ง (Beehive House) หมู่บ้านโบราณที่สร้างขึ้นจากการก่ออิฐในลักษณะทรงกลม และทำหลังคาบ้านเป็นยอดแหลมจากดินเหนียว (Bantu) เป็นการสร้างบ้านแบบโบราณของชาวชนชาวพื้นในทวีปแอฟริกา ที่ชาวเมโสโปเตเมียได้รับอิทธิพลมา
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่หุบเขาเทพเจ้าบนยอดเขาเนมรุต (Ruins of the Commagene Kingdom)ระยะทาง 225 กม. ใช้เวลา 2.30 ชั่วโมง ภูเขาลูกนี้เป็นภูเขาไฟมาก่อน มีความสูงประมาณ 2,134 เมตร ปากปล่องภูเขาไฟที่ตอนนี้เป็นแอ่งกระทะสวยงามมีน้ำเป็นทะเลสาบสีสวย ภูเขาแห่งนี้เป็นที่ตั้งของสุสานกษัตริย์แห่งอาณาจักรโคมายาน (Commagene Kingdom) สิ่งที่หลงเหลืออยู่ในตอนนี้คือรูปสลักขนาดใหญ่จำนวนมาก เราอาจจะเห็นเป็นเศียรเทพเจ้าจำนวนมากตั้งอยู่ตามพื้น เนื่องจากกาลเวลาที่ทำให้เศียรเทพร่วงลงพื้น ขนาดแค่เศียรอย่างเดียวก็มีความสูงถึง 2 เมตร บริเวณนี้เคยได้รับการปกครองจาก อเล็กซานเดอร์มหาราช กรีฑาทัพจากกรีซผ่านเมืองต่างๆมาเรื่อยจนถึงเอเชียกลาง หลังจากพระองค์สิ้นพระชนม์ลง ดินแดนที่พระองค์เคยรวบรวมไว้ก็แตกออกเป็นเมืองต่างๆ แล้วก็ปกครองตนเอง รวมถึงอาณาจักรโคมานายาแห่งนี้ด้วย วัฒนธรรมของโคมานายาเป็นอารยธรรมแบบกรีกผสมรวมเข้ากับความเชื่อของคนพื้นเมือง โคมานายาเป็นรัฐอิสระอยู่ถึง 200 ปี ก่อนจะถูบรวมเข้ากับจักรวรรดิโรมันในเวลาต่อมา หุบเขาเทพเจ้าแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักขอเรียงว่าระเบียง 3 ด้าน คือด้านทิศเหนือ ตะวันออก และตะวันตก ระเบียงฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกประกอบด้วยแถวของหินสลักเทพเจ้าขนาดใหญ่ที่สลักจากเนื้อหินของภูเขา
นำท่านเดินทางสู่เมืองอดิยามัน (Adiyaman) ระยะทาง 65 กม. ใช้เวลา 1 ชั่วโมง หนึ่งในเมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีที่ผู้คนส่วนมากเป็นชาวเคิร์ด (Kurdish) และยังคงใช้ภาษาเคิร์ดในการติดต่อสื่อสารแบบเดียวกับชาวซีเรีย อิรัก อิหร่าน ให้ท่านได้เที่ยวชมเมืองอดิยามัน เพื่อสัมผัสถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวเคิร์ดอย่างแท้จริง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
ที่พัก PARK DEDEMAN ADIYAMAN หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเที่ยวเมืองเฮเฟติ (Halfeti) ระยะทาง 120 กม. ใช้เวลา 1.30 ชั่วโมง เมืองเกษตรกรรมขนาดเล็กริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำยูเฟรติส (Euphrates) บริเวณส่วนใหญ่ของเมืองจมอยู่ใต้น้ำ เนื่องจากการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำยูเฟรติส ในปีค.ศ. 1990 ทำให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงามแปลกตา เมืองเฮเฟติยังมีชื่อเสียงเรื่องสายพันธุ์กุหลาบสีดำ (Turkish Halfeti Black Rise) ที่มีเพียงแห่งเดียวบนโลกอีกด้วย นำท่านล่องเรือชมเมืองเฮเฟติ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองกาซีอันเต็ป (Gaziantep) ระยะทาง 100 กม. ใช้เวลา 1.30 ชั่วโมง เป็นเมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของโลกที่มีหลักฐานการอาศัยอยู่ของประชากรย้อนหลังไปถึง 4,000 ปี เมืองนี้มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ในช่วงสงครามครูเสด เป็นศูนย์กลางของชาวตุรกีในการต่อต้านฝรั่งเศสระหว่าง ค.ศ. 1920-1921 เคยถูกฝรั่งเศสยึดครองแต่กลับคืนเป็นของตุรกีอีกครั้งใน ค.ศ.1922
จากนั้นนำท่านเช้าชม พิพิธภัณฑ์โมเสคที่ใหญ่ที่สุดในโลก (Zeugma Mosaic Museum) ภายในพิพิธภัณฑ์มีการแสดงโมเสดโดยรวมถึง 1,700 ตารางเมตร เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเมือวันที่ 9 กันยายน ปีค.ศ. 2011 โดยมีการจัดแสดงโชว์ผลงานภาพโมเสคจากยุคโรมัน ในสมัยของพระเจ้า อเล็กซานเดอร์มหาราช และผลงานโมเสคที่ถูกค้นพบโดยไม่ทราบที่มาอีกมากมาย
จากนั้นนำท่านเที่ยวชมตลาดกลางเมืองกาซีอันเต็ป (Gaziantep Bazaar) หนึ่งในตลาดสไตล์อาหรับที่สวยงามและยิ่งใหญ่ของประเทศตุรกี รวมไปถึงย่านช่างทำทองแดงที่ท่านจะได้สัมผัสร้านค้าที่ผลิตสินค้าจากทองแดงแบบแฮนด์เมด และขายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากทองแดง อีกหนึ่งสินค้าขึ้นชื่อของเมือง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
ที่พัก GRAND HOTEL GAZIANTEP หรือเทียบเท่าระดับ 5 ดาว
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) ระยะทาง 330 กม. ใช้เวลา 4 ชั่วโมง ชมดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ ซึ่งในอดีตกาลมีกระแสลาวาภูเขาไฟที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง แล้วทับถมเป็นเวลาหลายล้านปี และด้วยการกระทำของธรรมชาติ โดยการกัดเซาะของพายุลม ฝน หิมะ และ กาลเวลา ได้ปรุงแต่งดินแดนคัปปาโดเกียออกมาได้อย่างงดงาม แปลกตา และน่าอัศจรรย์ด้วยภูมิลักษณ์ต่างๆ เปรียบดังสวรรค์บนดินจนได้ชื่อว่า ดินแดนแห่งเทพนิยาย หรือดินแดนแห่งปล่องนางฟ้า Fairy Chimney คัปปาโดเกียยังได้รับการแต่งตั้งจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกีอีกด้วย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านชมหุบเขาอุซิซาร์ (Uchisar Valley) หุบเขาคล้ายจอมปลวกขนาดใหญ่โดยใช้เป็นที่อยู่อาศัยในอดีต ซึ่งหุบเขาดังกล่าวมีรูพรุน มีทั้งรอยเจาะ รอยขุด อันเกิดจากฝีมือมนุษย์ไปเกือบทั่วทั้งภูเขาเพื่อเอาไว้เป็นที่อยู่อาศัย และถ้ามองดีๆจะรู้ว่าอุซิซาร์ คือ บริเวณที่สูงที่สุดของบริเวณโดยรอบ ดังนั้นในอดีตอุซิซาร์ ก็มีไว้ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเอาไว้สอดส่องข้าศึกยามมีภัยในอดีต
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
ที่พัก UCHISAR KAYA CAVE HOTEL CAPPADOCIA หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (โรงแรมถ้ำ)
***โปรแกรมเสริมพิเศษ ซึ่งไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์***
สำหรับท่านใดที่สนใจขึ้นบอลลูนชมความงามของเมืองคัปปาโดเกีย จะต้องออกจากโรงแรม เวลา 04.30 น. เพื่อชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเกียในอีกมุมหนึ่งที่หาชมได้ยาก ใช้เวลาอยู่บนบอลลูนประมาณ 1 ชั่วโมง พร้อมบริการอาหารว่าง และแชมเปญ (ค่าขึ้นบอลลูนไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ ราคาท่านละ 280 US Dollar) ”ประกันภัยที่ทำจากเมืองไทย ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และเครื่องร่อนทุกประเภท และกิจกรรมนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน แต่บริษัทฯ ที่ให้บริการบอลลูนรวมประกันอุบัติเหตุไปแล้วกับราคาการบริการ”
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก (หลังโปรแกรมพิเศษ)
หลังอาหารเช้าเป็นเวลาอิสระให้ท่านได้เก็บภาพประทับใจของเมืองคัปปาโดเกียบริเวณรอบๆโรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ โรงงานทอพรม (Carpet Factory) และ โรงงานเซรามิค (Pottery at Avanos Village) สินค้าคุณภาพดี และขึ้นชื่อของประเทศตุรกี ให้เวลาท่านเลือกซื้อตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเกอเรเม่ (Goreme) นำท่านชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเมืองเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum) ที่เป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. ที่ 9 เกิดจากความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนา โดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์อีกด้วย อิสระเที่ยวชม และถ่ายรูปตามเหล่าอาคารบ้านเรือนของชาวเมืองคัปปาโดเกีย ที่เกิดจากการขุดเข้าไปในหินภูเขาไฟ และใช้เป็นที่อยู่อาศัย รวมถึงใช้เป็นศาสนสถานต่างๆ
เที่ยง พิเศษ รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย นำท่านเที่ยวนครใต้ดิน (Underground City) เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลงไป เพื่อใช้เป็นที่หลบซ่อนของชาวเมืองจากการรุกรานของข้าศึกในสมัยทำสงคราม ซึ่งนครใต้ดินที่ขึ้นชื่อและมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยียนเยอะที่สุด คงหนีไม่พ้น นครใต้ดิน เมืองไคมัคลี (Kaymakli Underground City) พร้อมทั้งยังมีระบบระบายอากาศ และมีสภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่ใต้ดินพร้อมสรรพ ซึ่งนครใต้ดินนับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สร้างจากฝีมือมนุษย์อย่างหนึ่งก็ว่าได้
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
ที่พัก UCHISAR KAYA CAVE HOTEL CAPPADOCIA หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (โรงแรมถ้ำ)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
09.30 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินเมืองไกเซอรี่ (Kayseri Airport) ระยะทาง 85 กม. ใช้เวลา 1 ชั่วโมง
13.25 น. ออกเดินทางกลับสู่ประเทศไทย โดยสายการบิน TURKISH AIRLINES โดยเที่ยวบินที่ TK2017
14.55 น. ถึงสนามบินอิสตันบูล แวะพักเปลี่ยนเครื่อง
16.50 น. ออกเดินทางอีกครั้งโดยเที่ยวบินที่ TK58
06.20 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ…
อัตราค่าบริการรวม
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
หมายเหตุ : กรุณาอ่านศึกษารายละเอียดทั้งหมดก่อนทำการจอง เพื่อความถูกต้องและความเข้าใจตรงกันระหว่างท่านลูกค้าและบริษัท