กัสโต้ เวิล์ด ทัวร์

บริการคุณภาพ ทุกเส้นทางท่องเที่ยว

เลขที่ 11/03295

ทัวร์ตุรเคีย PERFECT-2 TURKIYE

รหัส 049-2799
วันที่เดินทาง
ธ.ค.65
ช่วงเวลา
8 วัน 5 คืน
ราคาเริ่มต้น
53,988 บาท
แผนการเดินทาง
วันที่ 1
กรุงเทพฯ – อีสตันบลู - เมืองอิซเมียร์

20.00 น. : คณะผู้เดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น4 สายการบินTURKIST AIRLINE เคาน์เตอร์ U ประตู 9 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอยอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทางแก่ท่าน

23.00 น. : เหิรฟ้าสู่กรุงอิสตันบูล โดยสายการบิน TURKISH AIRLINE เที่ยวบินที่ TK69 ใช้เวลาเดินทางประมาณ  10 ชั่วโมง (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

วันที่ 2
อิสตันบูล-เมืองอิซเมียร์ บินภายใน | TK2312 (IST-ADB 08.00-09.10) –เมืองคูซาดาซี-อลาคาตี Alacati -วิหารเทพีอาทีมิส-โบสถ์เซนต์จอห์น-มัสยิด อิสเบ-เมืองคูซาดาซี

05.10 น. : เดินทางถึง สนามบินนานาชาติ อตาเติร์กกรุงอิสตันบูล หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง

จากนั้นนำทุกท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองอิสตันบูล (ISTANBUL)

07.00 น. : เหิรฟ้าสู่ สนามบิน Adnan Menderes Airport เมืองอิซเมียร์ (IZMIR) โดยสายการบิน Turkish Airlines เที่ยวบินที่ TK2310 ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 1.20 ชั่วโมง  (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

08.05 น.  :  เดินทางถึง สนามบิน Adnan Menderes Airport เมืองอิซเมียร์ (IZMIR) ตั้งอยู่ทางปลายสุดทางตะวันตกของคาบสมุทรอานาโตเลีย (Anatolia) หรือที่เรามักเรียกกันว่า เอเชียไมเนอร์(Asia Minor)ปัจจุบันเมืองอิซเมียร์นั้นถือว่าเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งมีอายุเก่าแก่มากกว่า 5,000 ปี เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศตุรกีตัวเมืองนั้นตั้งอยู่รอบๆ อ่าวขนาดใหญ่ ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่นั้นถูกล้อมรอบไป ด้วยภูเขา อีกทั้งยังถือว่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างพลุกพล่านไปด้วยผู้คนรวมไปถึงถนนที่ค่อนข้างกว้าง อาคารกระจกและศูนย์ช็อปปิ้งที่ทันสมัย นั่นจึงส่งผลให้เมืองมีบรรยากาศของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนยุโรปมากกว่าตุรกีแบบดั้งเดิม

อลาคาตี Alacati เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีเสน่ห์บนชายฝั่งทะเลอีเจียนของตุรกี บรรยากาศและกลิ่นอายน่ารักเหมือนเกาะซานโตรินี่ของประเทศกรีซ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือน รีสอร์ท รวมไปถึงร้านค้าและร้านอาหารที่มีการตกแต่งสไตล์กรีซ ทางเดินที่สร้างด้วยหินก้อนเล็ก ก้อนใหญ่ สลับเรียงรายกันไป ประตูหน้าต่างสีพาสเทล ทำให้เมือง อลาคาตี สวยงามอย่างแท้จริง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมอีกแห่งหนึ่งในประเทศตุรี  ใครได้ไปเยือนจะต้องตกหลุมรักอย่างแน่นอน อิสระให้ทุกท่านได้เดินเล่น ชิกๆ ชิลด์ ๆ ตามอัธยาศัย

กลางวัน : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองคูซาดาซี (KUSADASI) (ระยะทาง 100 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ  1.20 ชั่วโมง) เป็นเมืองท่าที่สำคัญทางการค้าอีกเมืองหนึ่งของตุรกีที่เป็นสถานที่ตั้งของโบราณสถานที่สำคัญสิ่งมหัศจรรย์ยุคโบราณ จากนั้นแวะถ่ายรูป วิหารเทพีอาร์เทมิสโบราณ (THE TEMPLE OF ARTEMIS) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ยุคโบราณ ที่ปัจจุบันเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่ก็ยังสามารถมองเห็นถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตได้ และแวะถ่ายรูป โบสถ์นักบุญเซนต์ จอห์น (ST. JOHN CASTLE) สาวกของพระเยซูคริสต์ที่ออกเดินทางเผยแพร่ศาสนาไปทั่วดินแดนอนาโตเลียหรือประเทศตุรกีในปัจจุบัน

จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูป มัสยิดอิสเบ ISA BEY MOSQUE  เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีและสำคัญที่สุดซึ่งสะท้อนถึงจุดสิ้นสุดของยุคจักรวรรดิ Seljuk ในช่วงปลายคริสต์ ค.ศ. 1400 นอกจากนี้มัสยิดแห่งนี้ยังเป็นที่ประทับของมัสยิดเมยยาดในดามัสกัส มัสยิด ISA BEY MOSQUE ก่อตั้งขึ้นบนเนินเขาตะวันตกของเขา Ayasuluk ที่มองเห็นพื้นที่และมี harem ขนาดใหญ่ที่มีสอง naves และประกอบด้วยลานขนาดใหญ่ ทุกอย่างล้วนเป็นศิลปะแบบ เฮเลนนิสติคที่มีความอ่อนหวานและฝีมือประณีต จากนั้นนำท่านซื้อขอฝากตามอัธยาศัย ร้านขนม (TURKISH DElIGHT) ของฝากขึ้นชื่อของประเทศตุรกี

นำท่านเดินทางชม โรงงานเครื่องหนัง ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องหนังขั้นหลากหลาย ให้ทุกท่านได้ทดลองการเป็นนายแบบและนางแบบและเลือกซื้อสินค้าเสื้อหนังต่างๆ ตามอัธยาศัย

หลังจากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล่ (PAMUKKALE) ใช้เวลาเดินทาง 2.40 ชั่วโมง (189 กิโลเมตร) เมืองที่มีน้ำพุเกลือแร่ร้อนไหลทะลุขึ้นมาจากใต้ดินผ่านซากปรักหักพังของเมืองเก่าแก่สมัยกรีกก่อนที่ไหลลงสู่หน้าผา

ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

วันที่ 3
เมืองคูซาดาซี- เมืองปามุคคาเล่ – เมืองเอฟเฟซุส-ร้านขนม - (TURKISH DELIGHT)- หมู่บ้านสิรินเซ่ - โรงงานเครื่องหนัง - ปราสาทปุยฝ้าย-เมืองเฮียราโพลิส- เมืองปามุคคาเล่

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณเอฟฟิซุส (EPHESUS) เมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีเมืองหนึ่ง เคยเป็นที่อยู่ของชาวโยนก (Ionia) จากกรีก ซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมือง ซึ่งรุ่งเรืองขึ้นในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์กาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซียและกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนาเอฟฟิซุส ขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมัน นำท่านเดินบนถนนหินอ่อนผ่านใจกลางเมืองเก่าที่สองข้างทางเต็มไปด้วยซากสิ่งก่อสร้างเมื่อสมัย 2,000 ปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรงละครกลางแจ้งที่สามารถจุผู้ชมได้กว่า 30,000 คน ซึ่งยังคงใช้งานได้จนถึงปัจจุบันนี้ นำท่านชม ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (ROMAN BATH) ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำ ให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้, ห้องสมุดโบราณ ที่มีวิธีการเก็บรักษาหนังสือไว้ได้เป็นอย่างดี

SIRINCE VILLAGE หมู่บ้านสิรินเซ่ (GREEK VILLAGE)  หมู่บ้านสิรินเซ่ เป็นการผสมผสานที่สมบูรณ์แบบของวัฒนธรรมตุรกี-กรีก ชมบ้านเรือนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บ้านเหล่านี้ดูเหมือนโปสการ์ดภาพที่สวยงาม เพลิดเพลินกับสินค้าที่ทำจากฝีมือของคนท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันมะกอกทุกชนิด สบู่โฮมเมด ฯลฯ ในหมู่บ้านสิรินเซ่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารเล็กๆ เนื่องจากในหมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านการผลิตไวน์ผลไม้ ท่านใดที่ชื่นชอบไวน์ผลไม้ สามารถลิ้มลองไวน์พิเศษเหล่านี้ที่ทำจากเมล่อน บลูเบอร์รี่ แอปเปิ้ล พีช และรสชาติอื่น ๆ อีกมากมาย

กลางวัน : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเข้า ชมโรงงานคอตตอน สามารถเลือกซื้อของฝากเช่น ผ้าพันคอ ผ้าปูที่นอน เสื้อผ้า เป็นต้น เป็นสินค้าที่ผลิตด้วยคอตตอน100%

นำท่านชม ปราสาทปุยฝ้าย ผลจากการไหลของน้ำพุเกลือแร่ร้อนนี้ได้ก่อให้เกิดทัศนียภาพของน้ำตกสีขาวเป็นชั้นๆหลายชั้นและผลจากการแข็งตัวของแคลเซียมทำให้เกิดเป็นแก่งหินสีขาวราวหิมะขวางทางน้ำเป็นทางยาว ซึ่งมีความงดงามมาก

เมืองเฮียราโพลิส HIERAPOLIS เป็นเมืองโรมันโบราณที่สร้างล้อมรอบบริเวณที่เป็นน้ำพุเกลือแร่ร้อนซึ่งเชื่อกันว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรคเมื่อเวลาผ่านไปภัยธรรมชาติได้ทำให้เมืองนี้เกิดการพังทลายลงเหลือเพียงซากปรักหักพังกระจายอยู่ทั่วไปบางส่วนยังพอมองออกว่าเดิมเคยเป็นอะไรเช่นโรงละครแอมฟิเธียร์เตอร์ขนาดใหญ่วิหารอพอลโล สุสานโรมันโบราณเป็นต้น

ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

วันที่ 4
เมืองปามุคคาเล่-เมืองคัปปาโดเกีย -CARAVANSARAI-KONYA -เมืองคัปปาโดเกีย

นำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า (KONYA) ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุก ระยะทาง 400 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ระหว่างทางแวะให้ท่านได้ลองชิม โยเกิร์ตฝิ่น เท่านั้น แต่ขนมหวานที่มีโยเกิร์ตเป็นส่วนประกอบหลัก มีน้ำผึ้งเป็นส่วนประกอบเสริม และมีดอกฝิ่นเป็นตัวเรียกแขก ก็เป็นสิ่งที่ต้องลองสักครั้งเมืองเดินทางมาเที่ยวประเทศตุรกี

กลางวัน : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (CAPPADOCIA) ระยะทาง 235 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ระหว่างทางแวะถ่ายรูป CARAVANSARAI ที่พักของกองคาราวานในสมัยโบราณ เป็นสถานที่พักแรมของกองคาราวานตามเส้นทางสายไหมและชาวเติร์กสมัยออตโตมัน

ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

วันที่ 5
เมืองคัปปาโดเกีย – อิสตันบูล –นครใต้ดิน (UNDERGROUND CITY)-หุบเขานกพิราบ-ปล่องไฟนางฟ้า-ชมระบำหน้าท้อง

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำทุกท่านชมวิว หุบเขานกพิราบ (Pigeon Valley) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมือง Cappadogia ซึ่งมีจุดชมวิวที่อยู่ตรง บริเวณหน้าผา ที่ชาวเมืองในสมัยโบราณได้ขุดเจาะเป็นรู เพื่อให้นกพิราบได้เข้าไปทำรังอาศัยอยู่มากมาย ภูมิประเทศมีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยว นิยม มาชมวิว ถ่ายรูป ที่นี่เป็นอย่างมากเมื่อได้มาเที่ยวที่เมือง คัปปาโดเกีย

ต่อมานำทุกท่านเยี่ยมชม ปล่องไฟนางฟ้า (Fairy Chimney) ซึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่งในเมืองคัปปาโดเกีย มีลักษณะเป็น ภูเขาหินรูปทรงกรวย มีขนาดใหญ่ มีลักษณะคล้ายเห็ด เกิดจากการกัดเซาะ จาก ลม ฝน โดยธรรมชาติ เป็นระยะเวลายาวนาน จนมีรูปร่างที่เป็นเอกลักษณ์อย่างในปัจจุบัน

กลางวัน : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำทุกท่านสู่ นครใต้ดิน (UNDERGROUND CITY) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกเป็นมรดกโลก เมืองใต้ดินของตุรกีมีอยู่หลายแห่ง แต่ละแห่งมีอุโมงค์เชื่อมต่อถึงกันเป็นสถานที่ที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์ใช้หลบภัยชาวโรมันที่ต้องการทำลายร้างพวกนับถือศาสนาคริสต์ เมืองใต้ดินที่มีขนาดใหญ่ แต่ละชั้นมีความกว้างและสูงขนาดเท่าเรายืนได้ ทำเป็นห้อง ๆ มีทั้งห้องครัวห้องหมักไวน์ มีโบสถ์ ห้องโถงสำหรับใช้ประชุม มีบ่อน้ำและระบบระบายอากาศที่ดี แต่อากาศค่อนข้างบางเบาเพราะอยู่ลึกและทางเดินบางช่วงค่อนข้างแคบจนเดินสวนกันไม่ได้

ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านชมการแสดงพื้นเมือง “ระบำหน้าท้อง”หรือ Belly Dance เป็นการเต้นรำที่เก่าแก่อย่างหนึ่งเกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 6000 ปี ในดินแดนแถบอียิปต์ และเมดิเตอร์เรเนียนนักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่าชนเผ่ายิปซีเร่ร่อนคือคนกลุ่มสำคัญที่ได้อนุรักษ์ระบำหน้าท้องให้มีมาจนถึงปัจจุบัน และการเดินทางของชาวยิปซีทำให้ระบำหน้าท้องแพร่หลายมีการพัฒนาจนกลายเป็นศิลปะที่โดดเด่น สวยงามจนกลายมาเป็นระบำหน้าท้องตุรกีในปัจจุบัน (ในช่วงเทศกาลโควิด การแสดง อาจจะมีการยกเลิกโดยไม่แจ้ง ล่วงหน้า)

วันที่ 6
เมืองคัปปาโดเกีย-กรุงอิสตันบูล - ชมโรงงานทอพรม-โรงงานจิวเวอร์รี่ และ เซรามิค- หุบเขาอุซิซาร์-หุบเขาแห่งเทพนิยายสีชมพู-AVANOS VILLAGE- บินภายใน | TK2015 (ASR-IST 18.20-19.50) เมืองอิสตันบูล

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านเข้า ชมโรงงานทอพรม สิ่งท่อขึ้นชื่อของประเทศตุรกี เป็นพรมท่อมือ สามารถเลือกชมเลือก ซื้อได้ตามอัธยาศัย

จากนั้น นำท่านชมวิว หุบเขาแห่งเทพนิยายสีชมพู (Devrent Valley) เป็นหุบเขาที่ถูกธรรมชาติสร้างสรรค์เป็นรูปต่างๆ มีภูมิทัศน์ที่สวยงามและคล้ายคลึงกับพื้นผิวบนดวงจันทร์ ซึ่งรอบๆบริเวณนี้ เต็มไปด้วยหินรูปทรงต่างๆ จำนวนมาก โดยธรรมชาติเป็นผู้สร้างขึ้น เช่น รูป อูฐ, งู, แมวน้ำ, พระแม่มารีย์ และ ภูมิประเทศบริเวณนี้เป็นสีชมพู เป็นเอกลักษณ์และเป็นจุดเด่นที่ทำให้ หุบเขาแห่งนี้ มีชื่อเสียง เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว

จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูป หุบเขาอุซิซาร์ (UCHISAR VALLEY) หุบเขาคล้ายจอมปลวกขนาดใหญ่ ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งหุบเขาดังกล่าวมีรูพรุน มีรอยเจาะ รอยขุด อันเกิดจากฝีมือมนุษย์ไปเกือบทั่วทั้งภูเขา เพื่อเอาไว้เป็นที่อาศัย และถ้ามองดี ๆ จะรู้ว่าอุซิซาร์ คือ บริเวณที่สูงที่สุดของบริเวณโดยรอบ ดังนั้นในอดีตอุซิซาร์ ก็มีไว้ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเอาไว้สอดส่องข้าศึกยามมีภัยอีกด้วย

กลางวัน : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านแวะ ชมโรงงานจิวเวอร์รี่และโรงงานเซรามิค อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึก

ได้เวลาอันสมควรนำทุกท่านเดินทางสู่สนามบิน Kayseri Erkilet Airport (ASR)

18.20 น. : เหิรฟ้าสู่ เมืองอิสตันบูล (ISTANBUL) โดยสายการบิน Turkish Airlines เที่ยวบินที่ TK2015 ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 1.20 ชั่วโมง (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

19.50 น. : เดินทางถึง เมืองอิสตันบูล (ISTANBUL)

ค่ำ  : บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

วันที่ 7
กรุงอิสตันบูล-สุเหร่าสีน้ำเงิน-ฮิปโปโดรม-พระราชวังทอปกาปึ-สุเหร่าเซนต์โซเฟีย GRAND BAZAAR

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

** ข้อกำหนด โปรดแต่งกายด้วยชุดสุภาพ สำหรับการเข้าชมสุเหร่า และ จำเป็นต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าชม**

สุภาพสตรี : ควรสวมกางเกงขายาวคลุมข้อเท้า เสื้อแขนยาวคลุมข้อมือ มิดชิดไม่รัดรูป และเตรียมผ้าสำหรับคลุมศีรษะ  สุภาพบุรุษ : ควรสวมกางเกงขายาว และ เสื้อแขนยาว ไม่รัดรูป

จากนั้นนำทุกท่านชม สุเหร่าสีน้ำเงิน (BLUE MOSQUE) หรือ SULTAN  AHMET MOSQUE ถือเป็นสุเหร่าที่มีสถาปัตยกรรมเป็นสุดยอดของ 2 จักรวรรดิ คือ ออตโตมันและไบเซนไทน์ เพราะได้รวบรวมเอาองค์ประกอบจากวิหารเซนต์โซเฟียผนวกกับสถาปัตยกรรมแบบอิสลามดั้งเดิม ถือว่าเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในตุรกี สามารถจุคนได้เรือนแสน ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 7 ปี ระหว่าง ค.ศ.1609-1616 โดยตั้งชื่อตามสุลต่านผู้สร้างซึ่งก็คือ Sultan Ahmed นั้นเอง

จากนั้นนำทุกท่านสู่ จัตุรัสสุลต่านอะห์เมตหรือฮิปโปโดรม (HIPPODROME) สนามแข่งม้าของชาวโรมัน จุดศูนย์กลางแห่งการท่องเที่ยวเมืองเก่า สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิ เซปติมิอุสเซเวรุสเพื่อใช้เป็นที่แสดงกิจกรรมต่างๆของชาวเมือง ต่อมาในสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนตินฮิปโปโดรมได้รับการขยายให้กว้างขึ้นตรงกลางเป็นที่ตั้งแสดงประติมากรรมต่าง ๆซึ่งส่วนใหญ่เป็นศิลปะในยุคกรีกโบราณในสมัยออตโตมันสถานที่แห่งนี้ใช้เป็นที่จัดงานพิธีแต่ในปัจจุบันเหลือเพียงพื้นที่ลานด้านหน้ามัสยิดสุลต่านอะห์เมตซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาโอเบลิกส์3 ต้น คือเสาที่สร้างในอียิปต์เพื่อถวายแก่ฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 3 ถูกนำกลับมาไว้ที่อิสตันบูลเสาต้นที่สอง คือ เสางู และเสาต้นที่สาม คือเสาคอนสแตนตินที่ 7

จากนั้นนำทุกท่านชม พระราชวังทอปกาปึ (TOPKAPI PALACE) ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าซึ่งถือเป็นเขตประวัติศาสตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1985 พระราชวังทอปกาปึ สร้างขึ้นโดยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 ในปี ค.ศ.1459 บนพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 4 ลานกว้าง และมีอาคารขนาดเล็กอีกจำนวนมาก ณ จุดที่สร้างพระราชวังแห่งนี้สามารถมองเห็นช่องแคบบอสฟอรัสโกลเดนฮอร์นและทะเลมาร์มาร่าได้อย่างชัดเจน ในช่วงที่เจริญสูงสุดของอาณาจักรออตโตมัน พระราชวังแห่งนี้มีราชวงศ์และข้าราชบริพารอาศัยอยู่รวมกันมากถึงสี่พันกว่าคนนำท่านเข้าชมส่วนของท้องพระโรงที่เป็นที่จัดแสดงทรัพย์สมบัติข้าวของเครื่องใช้ส่วนพระองค์เครื่องเงินต่างๆ มากมาย

กลางวัน :  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำทุกท่านชม สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (SAINT SOPHIA)หรือ โบสถ์ฮาเจีย โซเฟีย1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ปัจจุบันเป็นที่ประชุมสวดมนต์ของชาวมุสลิม ในอดีตเป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์พระเจ้าจักรพรรดิคอนสแตนติน เป็นผู้สร้างเมื่อประมาณคริสต์ศตวรรษที่13 ใช้เวลาสร้าง 17 ปี เพื่อเป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์แต่ถูกผู้ก่อการร้ายบุกทำลายเผาเสียวอดวายหลายครั้งเพราะเกิดการขัดแย้งระหว่างพวกที่นับถือศาสนาคริสต์กับศาสนาอิสลามจวบจนถึงรัชสมัยของ  พระเจ้าจัสตินเนียนมีอำนาจเหนือตุรกีจึงได้สร้าง โบสถ์เซนต์โซเฟีย ขึ้นใหม่ ใช้เวลาสร้างฐานโบสถ์ 20 ปี ตัวโบสถ์ 5 ปี เมื่อประมาณปี พ.ศ. 1996 (ค.ศ 1435) พระองค์ต้องการให้เป็นสิ่งสวยงามที่สุดได้พยายามหา สิ่งของมีค่าต่างๆมาประดับไว้มากมาย สร้างเสร็จได้มีการเฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ ต่อมาเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทำให้แตกร้าวต้องให้ช่างซ่อมจนเรียบร้อยในสภาพเดิมเมื่อสิ้นสมัยของจักรพรรดิจัสตินเนียน ถึงสมัย พระเจ้าโมฮัมเหม็ดที่ 2 มีอำนาจเหนือตุรกี และเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลามจึงได้ดัดแปลงโบสถ์หลังนี้ให้เป็นสุเหร่าของชาวอิสลาม

จากนั้นนำท่านสู่ ตลาดในร่ม (KAPALI CARSISI หรือ COVERED BAZAAR) หรือ แกรนด์บาซาร์ (GRAND BAZAAR) เป็นตลาดเก่าแก่ สร้างครั้งแรกในสมัยสุลต่านเมห์เม็ดที่ 2 เมื่อปี ค.ศ. 1461 ตลาดนี้กินเนื้อที่กว่า 2แสนตารางเมตร ประกอบด้วยร้านค้ากว่า 4,000ร้าน ขายของสารพัด ตั้งแต่ทองหยอง เครื่องประดับ พรม เครื่องเงิน เครื่องหนัง กระเบื้อง เครื่องทองแดง ทองเหลือง สินค้าหัตถกรรม ของที่ระลึก ฯลฯ ที่นี่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงตั้งราคาสินค้าเอาไว้ค่อนข้างสูง ควรต่อรองราคาให้มาก

ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

วันที่ 8
เมืองอิสตันบูล-ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส-ตลาดสไปซ์มาร์เก็ต-BALAT&FENER-SHOPPING ISTIKLAL STREET & TAKSIM SQUARE

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำทุกท่าน ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส จุดที่บรรจบกันของทวีปยุโรปและเอเชีย ซึ่งทำให้ประเทศตุรกีได้รับสมญานามว่า ดินแดนแห่งสองทวีป ช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญเนื่องจากเป็นเส้นทางเดินเรือที่เชื่อมทะเลดำทะเลมาร์มาร่า เราจะได้เห็นป้อมปืนที่ตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบได้แก่ Rumeli Castle และ Anatolia Castle โดยจุดชมวิวที่สำคัญคือสะพาน แขวนบอสฟอรัส เพื่อให้รถยนต์สามารถวิ่งข้ามฝั่งยุโรปและเอเชียได้ สร้างเสร็จในปี ค.ศ.1973 มีความยาวทั้งสิ้น 1,560 เมตร และได้กลายเป็นสะพานแขวนที่ยาวเป็นอันดับ 4 ของโลกในสมัยนั้น (ปัจจุบันตกไปอยู่อันดับที่ 21) ขณะที่ล่องเรือพร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศสองข้างทาง ซึ่งสามารถมองเห็นได้ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังโดลมาบาเช่และบ้านเรือนของบรรดาเหล่าเศรษฐีที่สร้างได้สวยงามตระการตา

กลางวัน : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านสู่ ตลาดสไปซ์มาร์เก็ต (SPICE MARKET)หรือตลาดเครื่องเทศ ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึก เครื่องประดับ ชา กาแฟ ผลไม้อบแห้ง ขนมของหวานขึ้นชื่อและถั่วหลากหลายชนิดให้เลือกสรร

จากนั้นให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศใหม่ ไม่เหมือนใครกับการชมเมืองอีสตันบูล รูปแบบสไตล์เมืองเก่า นั้นคือ ย่าน BALAT & FENER ชุมชนชาวยิวเก่าแก่ กว่า 100 ปี ที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองเก่าของกรุงอีสตันบูล โดยอยู่ฝั่งบริเวณเขตยุโรป ท่านจะได้สัมผัสความคลาสสิคของตึกเก่า ที่ปลูกสร้างตามแนวสันเขาเล่นระดับแบบมีเอกลักษณ์ และที่สำคัญยังสวยงาม ด้วยสีสันสดใส สะดุดตา น่ามอง จนทำให้เกิดเป็นมุมถ่ายรูป ชิคๆ เก๋ๆ มากมายในเขตชุมชนแห่งนี้ และน่าแปลกใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากความสงบเงียบ และเป็นมิตรของผู้คนในย่านนี้ ทำให้ท่านแทบไม่เชื่อเลยว่ากำลังเดินเที่ยวอยู่ ณ เมืองอิสตันบูล จนชุมชนนี้ได้ถูกขนานนามจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนว่า ซิงเกวเตเล่ แห่งตุรกี

จากนั้น นำทุกท่าน เดินเที่ยวชม ISTIKLAL STREET หรือที่เรียกว่า Grand Avenue Of Pera เป็นเส้นทางที่มีชื่อเสียงและดีที่สุดแห่งหนึ่งในเมือง อิสตันบูล ตั้งอยู่บนย่านเก่าแก่ ซึ่งถนนเส้นนี้ ทอดยาวจาก จัตุรัส ทักซิม (TAKSIM SQUARE) ไปจนถึงสถานี เบโยกลู (BEYOGLU STATION) เป็นถนนคนเดินที่หรูหรา ยาว 1.4 ก.ม. มีร้านค้า ร้านอาหาร ชื่อดัง ให้ทุกท่านได้เยี่ยมชมอย่างเพลิดเพลิน และมีอาคารที่รายล้อมด้วย อาคารยุค ออตโตมัน ตอนปลาย มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เป็นที่ดึงดูด นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบ เป็นอย่างมาก จากนั้น อิสระให้ทุกท่านได้เพลิดเพลินกับการ เดินชอปปิ้ง ถ่ายรูป ย่าน TAKSIM SQUARE เป็นสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงและนับว่าเป็นหัวใจ ของ เมืองอิสตันบูลเลยทีเดียว ซึ่ง ไฮไลท์ของ TAKSIM SQUARE อีกอย่างหนึ่ง ก็คือ รถรางสีแดงสด ที่วิ่งจาก จัตุรัส ทักซิม ไปตามถนน ใกล้กับ สถานีทูเนล ซึ่งเป็นสถานีรถไฟใต้ดิน ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเป็นอันดับสอง

ค่ำ : äให้ทุกท่าน รับประทานอาหารค่ำอิสระ (ไม่รวมในโปรแกรมทัวร์) 

วันที่ 10
กรุงเทพฯ | TK68 IST-BKK
เงื่อนไข
  • ค่าบัตรโดยสารโดยเครื่องบินไป-กลับ พร้อมคณะ ชั้นประหยัด (Economy Class) ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง (Upgrade) หรือ เปลี่ยนแปลง วันเดินทางกลับ (Change Date) ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม
  • ค่าภาษีน้ำมัน ภาษีสนามบินทุกแห่งที่มี
  • ค่าธรรมเนียมการโหลดกระเป๋าสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องบิน โดยสายการบิน Turkish Airlines อนุญาตให้โหลดกระเป๋าสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องบินได้ ท่านละ 1-2 ชิ้น โดยมีน้ำหนักรวมกันไม่เกิน 30 กิโลกรัม กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง Hand Carry (น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม)
  • ค่ารถโค้ชปรับอากาศตลอดเส้นทาง ตามรายการที่ระบุ (ยังไม่รวมทิปคนขับรถ)
  • ค่าโรงแรมที่พักระดับมาตราฐานตามที่รายการระบุ (พักห้องละ 2 ท่าน หรือ 3 ท่าน ต่อห้อง กรณีที่โรงแรมมีห้องพัก 3 ท่าน Triple ว่าง) กรณีมีงานเทรดแฟร์ การแข่งขันกีฬา หรือ กิจกรรมอื่นๆ ที่ทำให้โรงแรมตามรายการที่ระบุเต็ม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ ในการปรับเปลี่ยนโรงแรมที่พักไปเป็นเมืองใกล้เคียงแทนโดยอ้างอิงมาตรฐานคุณภาพและความเหมาะสมเดิมโดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ
  • ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการระบุ กรณีไม่รวมจะชี้แจงไว้ในโปรแกรมชัดเจน
  • ค่าอาหารตามที่รายการระบุ โดยทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ
  • ค่าจ้างมัคคุเทศก์คอยบริการ และ อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  • ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงิน 1,000,000 บาท ค่ารักษาพยาบาล 500,000 บาท วงเงินคุ้มครองอาหารเป็นพิษ (โดยแพทย์จะต้องระบุในใบรับรองแพทย์ว่า ”อาหารเป็นพิษเท่านั้น”)
  • (หมายเหตุ:ค่าประกันอุบิติเหตุสำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 เดือน และ ผู้ใหญ่อายุมากกว่า 75 ปีทางบริษัทประกันฯจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพียงครึ่งหนึ่งของสัญญาฯ)
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าทำหนังสือเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าโทรศัพท์ทางไกล ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าซักรีด มินิบาร์ในห้อง รวมถึงค่าอาหาร เครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มนอกเหนือรายการ และ ค่าพาหนะต่างๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ (กรุณาสอบถามอัตราค่าบริการจากหัวหน้าทัวร์ก่อนการใช้บริการทุกครั้ง)
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% กรณีต้องการออกใบเสร็จรับเงินในนามบริษัท
  • ค่ายกขนกระเป๋าเดินทางท่านละ 1 ใบ โดยเฉลี่ย 1 USD / ท่าน กรณีใช้บริการ BELL BOY ของแต่ละโรงแรม
  • เป็นธรรมเนียมปฏิบัติในการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวควรทิปแก่มัคคุเทศก์ท้องถิ่น+คนขับรถและหัวหน้าทัวร์ที่คอยบริการเราโดยประมาณ 90 USD (เด็กอายุตั้งแต่ 2 ขวบขึ้นไป จำเป็นต้องจ่ายทิปเท่ากับผู้ใหญ่) ทิปจะยกเว้นเฉพาะ เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี (Infant) ทั้งนี้ท่านสามารถให้ทิปได้มากกว่านี้ได้ ตามความพึงพอใจและความเหมาะสมของท่าน
  • ค่าธรรมเนียมการยื่นขอวีซ่า กรณีผู้เดินทางที่ถือหนังสือเดินทางต่างประเทศ (ไม่ใช่หนังสือเดินทางไทย) อัตราค่าบริการ และ การขอวีซ่า กรุณาติดต่อกับเจ้าหน้าที่เป็นกรณีพิเศษ เพื่อขอคำแนะนำในการยื่นคำร้องขอวีซ่า
  • อัตราค่าเข้าห้องน้ำจุดแวะพักรถระหว่างเดินทางไปแต่ละเมือง ประมาณ 1-2 ลีล่า /1ห้องน้ำ
  • ประกันโควิด ที่ประเทศ ตุรกี (ถ้าท่านใดสนใจ ติดต่อ ซื้อ เพิ่มเติมได้ที่ บริษัทฯ)
  • ค่าตรวจ RT-PCR ก่อนเข้าประเทศทั้ง 2 ประเทศ (ถ้ามี)
  • ค่า Package Test & Go และ ค่าตรวจ Covid โดย RT-PCR ตามที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งลูกค้า สามารถทำการเลือกและจองเองได้ตามความพึงพอใจ (ถ้ามี)

**ราคานี้ สงวนการเดินทาง จำนวน 15 ท่านขึ้นไป**

**ราคานี้เป็นราคาโปรโมชั่นไม่สามารถสะสมไมล์ได้**

** อัตรานี้ ยังไม่รวมค่าทิปคนขับรถ หัวหน้าทัวร์ และมัคคุเทศก์ท้องถิ่น **

** หากท่านที่ต้องออกตั๋วภายใน (เครื่องบิน ,รถทัวร์ ,รถไฟ) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งก่อนทำการออกตั๋วเนื่องจากสายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ท หรือ เวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า **

Share on social networks
โปรแกรมทัวร์ที่น่าสนใจ
  • มิ.ย.65 - ธ.ค.65
  • 8 วัน 5 คืน
เริ่มต้น 73,888 บาท
  • ต.ค.65 - ธ.ค.65
  • 7 วัน 5 คืน
เริ่มต้น 63,900 บาท
  • สามารถกำหนดวันเดินทาง และเลือกสายการบินได้เอง
  • 8 วัน 5 คืน
เริ่มต้น 53,900 บาท