21.30 น. : พร้อมกันที่ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบิน AIR ASIA X (XJ) มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯคอยอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและติดแท็คกระเป๋า
00.55 น. : ออกเดินทางออกสู่ ประเทศญี่ปุ่น โดย สายการบิน AIR ASIA X (XJ) เที่ยวบินที่ XJ612 (ค่าทัวร์ไม่รวมค่าอาหารบนเครื่อง บนเครื่องมีจำหน่าย)
08.40 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกา ของท่านเป็นเวลาท้องถิ่น เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย) นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร สำคัญ!!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนจะมีโทษจับและปรับ
พาทุกท่านเดินทางสู่ โอซาก้า Osaka เป็นเมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 และมีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ พาทุกท่าน ถ่ายภาพด้านหน้ากับ ปราสาทโอซาก้า Osaka Castle ปราสาทเก่าแก่ของญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นที่พำนักของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ผู้รวมญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งเดียวในสมัยนั้น ใช้เวลาตั้งแต่เริ่มก่อสร้างจนถึงเสร็จสมบูรณ์ยาวนานกว่า 16 ปี เป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น ในปัจจุบันปราสาทโอซาก้าก็ยังคงได้รับการดูแลให้อยู่ในสภาพที่น่าเกรงขามและยิ่งใหญ่ จนนับว่าเป็นหนึ่งในสามปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น (ค่าทัวร์ไม่รวมค่าเข้าปราสาท)
เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง(มื้อที่1) บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง Yakiniku
จากนั้นพาทุกท่านตะลุยหิมะที่ Rokko Snow Park เปิดให้บริการทุกปีตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม อยู่ใกล้กับโอซาก้าและโกเบ เพลิดเพลินกับการเล่นสกีและสโนว์บอร์ด มีพื้นที่สำหรับเล่นหิมะโดยเฉพาะ และไม่ต้องกังวลหากพาเด็กๆมาด้วย ที่นี้มี “สโนว์แลนด์” แบ่งออกเป็นสองส่วน พื้นที่หนึ่งสำหรับเลื่อนหิมะและอีกส่วนสำหรับเล่นหิมะ เป็นเนินเขาเล็กๆ เด็กๆจึงสามารถเล่นสกีคนเดียว หากท่านไม่ได้เตรียมความพร้อมหรืออุปกรณ์มา ที่นี้ยังมีร้านค้าคอยให้บริการ อุปกรณ์ เครื่องแต่งกาย มีของสำหรับเล่นหิมะให้เด็กๆ และยังมีโซนร้านอาหารในบริเวณนั้นอีกมากมาย (ค่าทัวร์รวมค่าเข้า Rokko Snow park และ Sled 1 อันต่อ 2 ท่าน ไม่รวมค่าอุปกรณ์อื่นๆ ของเล่น หรือค่าเข้าในโซนต่างๆ)
จากนั้นพาทุกท่านเดินทางสู่ เมืองโกเบ Kobe และ อิสระช้อปปิ้งที่ Kobe Harbor land คือย่านท่องเที่ยวติดท่าเรือที่ตั้งอยู่ระหว่างสถานีรถไฟ JR Kobe และบริเวณท่าเรือโกเบที่เพียบพร้อมไปด้วยแหล่งช้อปปิ้งอย่างมากมาย เช่น Umie และ MOSAIC, พิพิธภัณฑ์เด็กอังปังแมน โกเบ ภายในมีร้านค้าเล็กๆขายเสื้อผ้า และศูนย์รวมความบันเทิงอื่นๆ อีกหลายหลาย ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งช้อปปิ้งริมน้ำ รวมไปถึงจุดชมวิวที่เราสามารถชมความงดงามจากทิวทัศน์ของเมืองโกเบและสัมผัสความโรแมนติกของเมืองนี้ และสามารถมองเห็น โกเบ พอร์ท ทาวเวอร์ (Kobe Port Tower) ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันได้อีกด้วย
อิสระให้ท่านช้อปปิ้ง หรือเดินเล่นชมสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น Harbor Walk พื้นที่เดินเล่นชมวิวกินลมทะเล ทางเดินไม้ที่ทอดยาวอยู่ระหว่าง Signal Tower และบริเวณ Brick Warehouses โกดังอันสวยงามสไตล์วินเทจที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ในศตวรรษ 18 หรือ Love’s Post Box ตู้ไปรษณีย์แห่งรักอันเป็นที่นิยมในการส่งจดหมายรัก ถือเป็นจุดถ่ายรูปหวานๆของเหล่าคู่รัก
เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่2)
ที่พัก: Kobe Hotel Fruit Flower Onsen 3* หรือ ระดับใกล้เคียงกัน ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5 วันก่อนเดินทาง หลังอาหารไม่ควรพลาดประสบการณ์ สัมผัสวัฒนธรรม การอาบน้ำแร่ออนเซ็น (Onsen) น้ำแร่ในสไตล์ญี่ปุ่น ให้ท่านได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม ซึ่งชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าน้ำแร่ธรรมชาตินี้มีส่วนช่วยเรื่อง ระบบการหมุนเวียนของเลือดดีขึ้น การบรรเทาอาการปวดเมื่อยต่างๆ และช่วยผ่อนคลายความเครียดและร่างกายได้เป็นอย่างดี โดยน้ำออนเซ็นของที่นี้จะเป็นสีน้ำตาลแดง เรียกว่า ”คินเซน” (คิน แปลว่า ทอง) เป็นน้ำแร่ขึ้นชื่อ ที่มีธาตุเหล็กผสมอยู่เยอะจึงทำให้เปลี่ยนจากสีใสมาเป็นสีน้ำตาลแดง คินเซ็นมีคุณสมบัติในการรักษาอุณหภูมิและสามารถฆ่าเชื้อต่างๆได้ คุณภาพของที่นี้มีธาตุเหล็กและเกลือสูงมีผลกับอาการปวดหลัง ปวดข้อ พักฟื้นเมื่อยล้า ฯลฯ และยังมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคผิวหนังที่มีลักษณะเป็นภูมิแพ้และเรื้อรัง เป็นน้ำพุร้อนที่หายากที่สุดในโลกที่มีส่วนผสม 7 ใน 9 อย่างที่กระทรวงสิ่งแวดล้อมกำหนดให้เป็นน้ำพุร้อนบำบัด
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่3)
จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ เกียวโต Kyoto มีความสำคัญในฐานะอดีตเมืองหลวงที่รุ่งเรืองอย่างยาวนานร่วมหนึ่งพันปี เป็นเสมือนจุดกำเนิดของความเป็นญี่ปุ่นที่ทุกคนรู้จัก ทั้งวัดวาอารามศาลเจ้าเก่าแก่ เกอิชา และย่านเมืองเก่าที่เรียงรายด้วยบ้านเรือนไม้ เที่ยวชม ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ Fushimi Inari เป็นศาลเจ้าที่มีความเก่าแก่มากกว่าพันปี สร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.711 บนยอดเขา Inariyama หรือที่คนไทยเรียกกันว่า ศาลเจ้าแดง หรือ ศาลเจ้าจิ้งจอก เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต (Kyoto) มีชื่อเสียงโด่งดังจากประตูโทริอิ (Torii Gate) หรือเสาประตูสีแดงที่เรียงตัวกันข้างหลังศาลเจ้าจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริ ผู้คนเชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธ์ โดยเทพอินาริจะเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ การเก็บเกี่ยวข้าว รวมไปถึงพืชผลไร่นาต่างๆ และมักจะมีจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่กาย ดังนั้นบริเวรศาลเจ้าจึงมีรูปปั้นจิ้งจอกอยู่มากมาย ถ่ายภาพด้านหน้า ศาลเจ้าเฮอัน Heian Shrine สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1895 เนื่องในโอกาสที่นครเกียวโตมีอายุครบ 1,100 ปี
จุดเด่นคือ ด้านหน้าของศาลเจ้ามีประตูโทริอิยักษ์สีแดง เป็นเสาที่โดดเด่นและเป็นอีกจุดหนึ่งที่ผู้ชมนิยมมาถ่ายรูปทั้งก่อนเข้าชมศาลเจ้าและตอนเดินกลับ ตัวศาลเจ้าถอดแบบมาจากพระราชวังอิมพิเรียล แต่ได้ถูกย่อส่วนลง ตัวอาคารสร้างด้วยไม้ทาสีแดงสดรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบเฮอันซึ่งได้รับอิทธิพลจากจีน มีเจดีย์มังกรฟ้าและเจดีย์พยัคฆ์ขาว ตั้งอยู่ริมฝั่งซ้ายและขวา บริเวณ ด้านหลังของศาลเจ้า จะมีสวนขนาดใหญ่ที่โอบล้อมบริเวณวัด ภายในสวนมีต้นไม้หลากหลายพันธุ์ บ่อน้ำที่ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น ให้บรรยากาศร่มรื่นย์ (ค่าทัวร์ไม่รวมค่าเข้าศาลเจ้าเฮอัน)
เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่4) Japanese set
จากนั้นนำท่านสัมผัสประสบการณ์ พิเศษ พิธีชงชาแบบญี่ปุ่น ให้ท่านได้เรียนรู้วิธีชงชาแบบธรรมเนียมญี่ปุ่น และท่านสามารถเลือกซื้อชารสชาติต่างๆได้ อีกทั้งยังได้เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้ามากมาย Kyoto Shikido Duty free แหล่งช้อปปลอดภาษี ที่รวบรวมสินค้าราคาพิเศษ และมีชื่อเสียงที่เห็นแล้วต้องรู้ว่ามาจากประเทศญี่ปุ่นแน่นอน เช่น เครื่องสำอาง ครีมบำรุงต่างๆ อาหารเสริม ขนม ชาเขียว และอื่นๆอีกมากมาย อีกทั้งยังมีพื้นที่ให้บริการสำหรับนั่งพักผ่อนทานอาหารหรือขนมอีกด้วย สินค้ายอดนิยม ยกตัวอย่างเช่น ครีมของแบรนด์ Karen ทั้งครีมบำรุงผิวหน้า ผิวกาย ผลิตภัณฑ์สำหรับล้างหน้า และครีมกันแดด ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับร้านค้าพรีออเดอร์ในประเทศไทยเช่นกัน โดยเฉพาะ ครีมกันแดดน้ำนม Karen Sunscreen ที่มีเนื้อครีมบางเบา และ ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เหมาะสำหรับทุกผิว ทาได้ทั้งผิวหน้าและลำตัว มีส่วนผสมจากน้ำนมและเชอรี่ จากนั้นพาทุกท่านไปชม วัดคิโยมิสุเดระ Kiyomizu temple หรือที่คนไทยรู้จักกันดีว่า วัดน้ำใส เป็นชื่อในภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า “น้ำบริสุทธิ์” เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากในเกียวโต และได้เป็นหนึ่งในมรดกโลกด้วย นักท่องเที่ยวส่วนมากมาเพื่อสักการะ และ ขอพรจากองค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม ซึ่งเป็นพระประธานของวัด นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นที่ประดิษฐานของเทพเอบิสึผู้เป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยมั่งคั่ง
เย็น : อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก: Hotel in Shinsaibashi / Namba / Dotonburi หรือระดับใกล้เคียงกัน ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5 วันก่อนเดินทาง
เนื่องจากที่พักตั้งอยู่ใกล้ ย่านชินไซบาชิ ย่านช้อปปิ้งขนาดมหึมาระยะทางกว่า 600 เมตร เต็มไปด้วยร้านขายยา ร้านเครื่องสำอาง ร้านขายเสื้อผ้า ร้านปลอดภาษี (Duty Free) ร้าน 100 เยน คาแรคเตอร์ช้อปไปจนถึงร้านอาหารและคาเฟ่มากมายก็รวมตัวกันอยู่ที่นี่ ย่านร้านค้าชินไซบาชิซุจิมีจุดเริ่มต้นที่สะพานเอบิสึ ที่อยู่ตรงกลาง โดทงโบริ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับจุดถ่ายรูปยอดฮิต ป้ายกูลิโกะ (รูปคนชูแขน)
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่5)
อิสระท่องเที่ยวหนึ่งวัน แนะนำทุกท่าน
อิสระอาหารเที่ยงและเย็นตามอัธยาศัย
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่6)
จากนั้นนำทุกท่านไป สักการะพระพุทธรูปสำริดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น วัดโทไดจิ Todaiji เมืองนารา สักการะหลวงพ่อโตไดบุตสึในวิหารไม้ใหญ่ที่สุดในโลก วัดโทไดจิ ความหมายตามตัวอักษรคือ วัดใหญ่แห่งทิศตะวันออก ตั้งอยู่ที่เมืองนารา ภูมิภาคคันไซ ถือเป็นโบราณสถานที่มีความเก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น วัดโทไดจิ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 752 ในช่วงที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองมากๆ สิ่งก่อสร้างที่สำคัญของวัดนี้ คือ วิหารไม้หลังใหญ่ ไดบุตสึเดนซึ่งเป็นที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อโตไดบุตสึ เป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีความสูง 157 ฟุต ความยาว 187 ฟุต แม้ว่าวิหารไม้ที่เห็นในปัจจุบันนี้มีขนาดเพียงแค่ 2 ใน 3 ของวิหารหลังเดิมที่เคยถูกไฟไหม้ไปจากภัยสงคราม แต่ก็ยังคงมีความยิ่งใหญ่จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก บริเวณใกล้เคียงกัน มี สวนกวางนารา Nara deer park บริเวณทางเดินเข้าสู่ประตูใหญ่ของวัดโทไดจิเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึกมากมาย สวนกวางแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1880 เป็นสวนขนาดกว้างใหญ่ มีพื้นที่ทั้งหมดราว ๆ 660 เฮกตาร์ ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาพรรณ สนามหญ้า สระน้ำ ศาลเจ้า วัด พิพิธภัณฑ์ เส้นทางศึกษาธรรมชาติ รวมทั้งสวนสวยในโซนต่าง ๆ จุดเด่นของสวนนาราที่นักท่องเที่ยวมุ่งมาเที่ยวชมก็คือ ฝูงกวางซีกา ที่มีมากกว่า 1,200 ตัว
เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่7) Japanese set
พาทุกท่านตะลุยช้อปปิ้ง ศูนย์รวมแหล่งร้านค้าขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยสถานที่ต่างๆ ซึ่งนอกจาก LALAPORT EXPOCITY ที่มีร้านค้าอยู่ประมาณ 300 ร้านและยังมีสถานที่ที่ให้ความสนุกสนานเพลิดเพลินมากมาย และชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย มีทั้งแบรนด์ชั้นนำระดับโลกและแบรนด์ที่หรูหราแต่เข้าถึงได้ มีทั้งร้านบูติกชั้นนำ ร้านกีฬาและร้านค้ากลางแจ้ง ไปจนถึงสถานเสริมความงามและสุขภาพ เสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับ เด็กเล็ก วัยรุ่น รวมไปถึงวัยทำงาน อีกทั้งสินค้าและบริการในชีวิตประจำวัน เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องครัวมากมาย และ รินคู พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท Rinku Premium Outlets ได้ถูกออกแบบมาโดยได้แรงบัลดาลใจมาจากบรรยากาศท่าเรือตอนใต้ของอเมริกา จำลองเป็นเสมือนเมืองท่าแห่งการช็อปปิ้งที่ยิ่งใหญ่ ภายใต้การแตกแต่งที่ดูหรูหรามีสไตล์และรวบรวมแบรนด์ดังมากถึง 210 ร้าน ครบครันทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน เช่นแบรนด์ Dolce & Gabbana, Armani, Kate Spade New York, Coach, United Arrows, NIKE, Adidas และ Royal Copenhagen ยังมีมุมให้นั่งพักผ่อนอย่างศูนย์อาหารที่คัดร้านดีร้านอร่อยให้นั่งทานอีกด้วย
เย็น : อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่8) เดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯ ประเทศไทย
09.50 น. : ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดย สายการบิน AIR ASIA X (XJ) เที่ยวบินที่ XJ613 (ค่าทัวร์ไม่รวมค่าอาหารบนเครื่อง บนเครื่องมีจำหน่าย )
13.50 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
หมายเหตุ : กรุณาอ่านศึกษารายละเอียดทั้งหมดก่อนทำการจอง เพื่อความถูกต้องและความเข้าใจตรงกันระหว่างท่านลูกค้าและบริษัท ฯ และเมื่อท่านตกลงชำระเงินมัดจำหรือค่าทัวร์ทั้งหมดกับทางบริษัทฯ แล้ว ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ทั้งหมด