21:00 น. : เรียนเชิญคณะพร้อมกันที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 เคาน์เตอร์ C เคาน์เตอร์สายการบินไทย ประตูทางเข้าหมายเลข 2 เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกบริเวณเคาน์เตอร์
หมายเหตุ : เคาน์เตอร์เช็คอินปิดบริการก่อนเครื่องออกอย่างน้อย 60 นาที หลังผู้โดยสารได้รับบัตรขึ้นเครื่องแล้ว กรุณาทำการตรวจสอบหมายเลขประตูขึ้นเครื่องกับหน้าจอ มอนิเตอร์ก่อนขึ้นเครื่องอีกครั้ง เนื่องจากประตูขึ้นเครื่องอาจเปลี่ยนแปลงได้เนื่องมาจากเหตุผลของทางสนามบินและสายการบิน เรียนเชิญผู้โดยสารพร้อมกัน ณ ห้องผู้โดยสารประตูขึ้นเครื่องก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 30 นาที
23:55 น. : ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินแห่งชาติสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 670 (เวลาท้องถิ่นประเทศญี่ปุ่นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับเป็นเวลาท้องถิ่นเพื่อนัดหมาย)
08:20 น. : เดินทางถึงประเทศญี่ปุ่น ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสนามบินชินชิโตเซะ บนเกาะฮอกไกโด เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองของญี่ปุ่น ภายหลังจากผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระเรียบร้อย
09:30 น. : นำท่านเดินทางสู่เมือง “อาซาฮีคาวะ” (ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 2:30 ชั่วโมง) ตัวเมืองอาซาฮีคาวะนับเป็นเมืองที่มีขนาดความใหญ่ติดอันดับที่สองของจังหวัด ซึ่งตั้งอยู่บริเวณส่วนกลางของเกาะฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางการเดินทางเยี่ยมเยือนยังภูมิภาคต่าง ๆ ของเกาะฮอกไกโดอีกด้วย
นำท่านสู่ “หมู่บ้านราเม็งชื่อดัง” นับย้อนหลังไปต้นสมัยโชวะ ขณะนั้นฮอกไกโดราเม็งได้กำเนิดขึ้นในเมืองซัปโปโรโดยการผสมผสานบะหมี่หลายชนิดของจีน ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ราเม็งที่เป็นต้นแบบเฉพาะของอาซาฮีคาวะก็ได้กำเนิดขึ้นจากความคิดสร้างสรรค์ต่าง ๆ เช่น การทำให้น้ำซุปร้อนอยู่ได้นานโดยเคลือบผิวหน้าด้วยน้ำมันหมู น้ำซุปรสซีอิ้วที่เคี่ยวด้วยกระดูกหมูและน้ำสต๊อคซีฟู้ด เช่น นิโบะชิ (ปลาซาร์ดีนแห้ง) และเส้นบะหมี่ที่มีส่วนผสมของน้ำน้อยกว่า และด้วยเหตุนี้ หมู่บ้านราเม็งอาซาฮีคาวะได้เปิดเดือนสิงหาคม ปี ค.ศ. 1996 เนื่องด้วยผู้คนเริ่มกล่าวถึง ความอร่อยของอาซาฮีคาวะราเม็งและเพื่อเผยแพร่อาหารที่เป็นความภาคภูมิใจของเมืองอาซาฮีคาวะนี้ให้เป็นที่รู้จักยิ่งขึ้น หมู่บ้านอาซาฮีคาวะราเม็งแห่งนี้จะประกอบด้วยร้านราเม็งที่มีชื่อเสียงโด่งดัง 8 ร้านที่ต่างแข่งขันกันทำราเม็งเพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ของตนเองให้อร่อยที่สุด เพื่อสืบทอดมรดกทางปัญญาที่ ถ่ายทอดมา และยกระดับคุณภาพและมาตรฐานราเม็งอาซาฮีคาวะเพื่อให้เป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บริการท่านด้วยเมนูขึ้นชื่อที่สุดอีกเมนูหนึ่งของภูมิภาคที่อยู่เหนือสุดของญี่ปุ่น บนเกาะฮอกไกโด ด้วยเมนูราเม็งพื้นเมืองขึ้นชื่อ ณ หมู่บ้านราเม็งอาซาฮีคาวะ
บ่าย : นำท่านชมความน่ารักของเหล่าบรรดาสัตว์นานาพันธุ์ ณ สวนสัตว์ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ณ “สวนสัตว์อาซาฮิยาม่า” สวนสัตว์ที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมที่สุดของญี่ปุ่นเพราะเป็นสวนสัตว์ที่แตกต่างจากสวนสัตว์อื่น ๆ โดยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชมสวนสัตว์แห่งนี้สูงถึง 3 ล้านคนต่อปี จุดเด่นของสวนสัตว์แห่งนี้ คือ ความไม่ธรรมดาของสัตว์ต่าง ๆ ที่ไม่ได้ถูกกักขังอยู่ในกรง ในแบบที่เคยเห็นในสวนสัตว์ทั่วไป ท่านจะได้เห็นความคิดสร้างสรรค์อันยอดเยี่ยมในการออกแบบ ที่อยู่ของสัตว์ ด้วยแนวความคิดที่ว่าสัตว์ต่าง ๆ ควรจะได้อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีและ เป็นไปตามธรรมชาติของสัตว์นั้น เพื่อให้มีความสุขเสมือนอยู่บ้านที่ปลอดภัยของตัวเอง อีกทั้งยังแฝงกิจกรรมที่สามารถใกล้ชิดสัตว์ต่าง ๆ ได้มากยิ่งขึ้น อาทิเช่น การทำแทงค์รูปกระบอกทรงสูงยื่นขึ้นไปในบ่อของแมวน้ำซึ่งเราสามารถเห็นการเคลื่อนไหว และการว่ายน้ำอย่างคล่องแคล่วของแมวน้ำได้ใกล้ชิดที่สุด
พิเศษ ชมริ้วขบวนพาเหรดที่งดงามที่เหล่าบรรดาเจ้าเพนกวินน้อยใหญ่ต่างชักแถวเดินตามหัวหน้าฝูง เป็นระยะทางยาวเพื่อยั่วยวนอวดสายตานักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชมสวนสนุกแห่งนี้ แน่นอนว่าท่านจะถูกมนต์สะกดไปกับความน่ารักและยกกล้องขึ้นมาบันทึกภาพและบันทึกวิดิโอของความน่ารักของเจ้าตัวน้อยอย่างลืมตัว (ขบวนพาเหรดจะจัดแสดงเพียงละ 2 รอบ คือ รอบ 11:00 น. และ 14:30 น. ซึ่งขบวนพาเหรดนี้อาจจะถูกระงับการแสดงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เนื่องมาจากสถานการณ์ของหิมะ และสภาพอากาศที่อาจจะไม่เอื้ออำนวยแต่การเดินพาเหรด หรือหิมะตกหนัก)นำท่านเดินทางสู่เมือง “โซอุนเคียว” (ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 1:00 ชั่วโมง) ตลอดสองข้างทางท่านจะสามารถชมวิวทิวทัศน์สวยงามสองข้างทางดั่งจิตรกรที่รังสรรค์ขึ้น จัดเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติได้สรรสร้างขึ้นมา ท่านจะได้พบกับหน้าผาหินที่มีความสวยงาม ซึ่งมีความยาวถึง 24 กิโลเมตร มีความสูงถึง 150 เมตร ในช่วงฤดูหนาวถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งและหิมะขาวสะอาด นำท่านเข้าสู่ที่พัก SOUN KAKU GRAND HOTEL หรือเทียบเท่า
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม บริการท่านด้วยบุฟเฟ่ต์นานาชาติหลากชนิดที่มีอาหารให้ท่านได้เลือกสรรตามความต้องการ ซึ่งวัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหารนั้นล้วนเป็นของท้องถิ่นทั้งสิ้น (ไม่อั้น)
กิจกรรม ให้ท่านได้อิสระและดื่มด่ำไปกับการชื่นชมเทศกาล แสง…สี…เสียง ครั้งที่ 45 เทศกาลน้ำแข็งเมืองโซอุนเคียว ตื่นตาไปกับโดมน้ำแข็งขนาดยักษ์ และการประดับไฟ ไลท์อัพอย่างงดงามในยามค่ำคืน ที่จะช่วยเติมสีสันให้ฤดูหนาวนี้ของท่านอบอุ่นมากยิ่งขึ้น จัดเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีกิจกรรม ร่วมกับเมือง ซึ่งจะจัดขึ้นเพียงปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น
เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านชม “น้ำตกริวเซ” และ “น้ำตกกิงกะ” น้ำตกที่อยู่เคียงคู่กันและมีความสวยงามของเมือง โซอุนเคียว เป็นน้ำตกในตำนานแห่งทางช้างเผือกของญี่ปุ่น… นำท่านเดินทางสู่เมือง “โทมามุ” เมืองโทมามุนับเป็นรีสอร์ทขนาดใหญ่ที่ให้นักท่องเที่ยวได้ใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติอย่างเต็มที่ ไม่ว่า จะเป็นภูเขาหรือป่าไม้ในฤดูร้อน หรือจะเป็นทิวทัศน์สีขาวโพลนของหิมะในฤดูหนาว เกล็ดน้ำแข็ง ที่เกาะอยู่ตามต้นไม้ และหมู่บ้านน้ำแข็ง ที่มีโรงแรมน้ำแข็ง ช่วยสร้างบรรยากาศโรแมนติกให้คู่รัก ได้เป็นอย่างดี
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย : นำท่านเดินทางสู่ “ลานหิมะ” นับเป็นลานสกีที่ตั้งอยู่ในบริเวณเมืองโทมามุ ให้ท่านได้อิสระและเพลิดเพลินกับการเล่นกระดานเลื่อนได้ตามอัธยาศัย ณ ดินแดนแห่งนี้ที่ซึ่งเป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ มีกิจกรรมนอกเหนือจากการเล่นหิมะมากมาย เป็นลานสกีที่มีชื่อเสียงและมีฉากเป็นภูเขาที่สวยงาม ท่านจะได้สนุกกับลานหิมะขาวโพลน ท่านที่สนใจจะเช่าอุปกรณ์เครื่องเล่นสามารถติดต่อหัวหน้าทัวร์ล่วงหน้า (ช่วงเวลาเปิดและปิดของลานหิมะขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศและฤดูกาลในแต่ละวัน)
ให้ท่านอิสระเล่นในลานหิมะ ถ่ายรูปหรือพักผ่อนตามอัธยาศัย หรือเลือกกิจกรรมสนุกๆ ที่ท่านสนใจ ※กระดานเลื่อนบนหิมะ รวมอยู่ในรายการทัวร์แล้ว
หมายเหตุ : บางกิจกรรมที่ทางลานสกีจัดไว้อาจปิดให้บริการเนื่องจากสภาพภูมิอากาศและเพื่อความปลอดภัย
นำท่านเข้าสู่ที่พัก TOMAMU HOSHINO HOTEL หรือเทียบเท่า
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม… บริการท่านด้วยบุฟเฟ่ต์นานาชาติหลากชนิด ที่มีอาหารให้ท่านได้เลือกสรรตามความต้องการ ซึ่งวัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหารนั้นล้วนเป็นของท้องถิ่นทั้งสิ้น (ไม่อั้น)
เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมือง“โอตารุ” เมืองโรแมนติคอีกแห่งบนเกาะฮอกไกโด ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของซัปโปโร ตัวเมืองหันหน้าออกสู่อ่าวอิชิกะริ เป็นเมืองท่าหลักของอ่าวมายาวนาน มีอาคารเก่าแก่มากมาย และมีการอนุรักษ์พื้นที่คลองไว้อย่างสวยงาม อีกทั้งยังมีหมู่บ้านประมงปลาเฮอร์ริ่ง
พลาดไม่ได้กับสถานที่สำคัญของเมืองโอตารุ จุดที่มีชื่อเสียงของเมือง คือ “คลองโอตารุ” คลองที่ในอดีตเคยใช้สำหรับการลำเลียงสินค้าเพื่อค้าขาย แลกเปลี่ยน และเก็บสินค้า จากบริเวณเรือสินค้า ไปยังโกดังสินค้า ปัจจุบันมีความยาว1,140 เมตร และมักมีรายการทีวีมาถ่ายภาพสวย ๆจากบริเวณโดยรอบของคลองแห่งนี้เป็นประจำทำให้คลองแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองโอตารุปัจจุบัน…
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย : นำท่านชม “พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี” บ้านไม้สถาปัตยกรรมแบบยุโรป เป็นสถานที่เก็บหีบเพลงตัวแรกที่มาถึงประเทศญี่ปุ่น ภายในอาคารมีสองชั้น มีหีบเพลงมากมาย ด้านบนเป็นห้องต่าง ๆ แสดง กล่องเพลงรุ่นแรก ๆ ที่นำมาจากยุโรปในรูปทรงที่มีความหลากหลาย และไม่สามารถประเมินราคาได้ ให้ท่านได้อิสระกับการเลือกชม หรือเลือกที่จะประกอบกล่องตนตรีของท่านเองพร้อมเมโลดี้อันไพเราะ บริเวณด้านหน้าของอาคารหลังมี “นาฬิกาไอน้ำโบราณ” ที่มีเพียงสองเรือนในโลก (ประเทศแคนาดา และประเทศญี่ปุ่น) ซึ่งจะส่งเสียงเป็นเมโลดี้ และพ่นไอน้ำออกมาเพื่อบอกเวลา จุดนี้เป็นสถานที่ที่ห้ามพลาดในการยืนรอเพื่อถ่ายภาพคู่กับนาฬิกาไอน้ำโบราณ ในจังหวะที่มีไอน้ำพวยพุ่งออกมาพร้อมเสียงดนตรีไพเราะ นอกจากนี้ท่านสามารถเลือกซื้อของที่ระลึก ประเภทเครื่องแก้วในหลากหลายรูปแบบ ด้วยเทคนิคการทำงานแบบพื้นบ้านแต่สามารถสร้างรายได้ในชุมชน ที่สำคัญลวดลายของสินค้าแต่ละใบเกิดจากจินตนาการในขณะทำงานจนเป็นความชำนาญ และเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นไม่ซ้ำกัน ซึ่งท่านสามารถซื้อแก้วที่มีเพียงใบเดียวในโลกด้วยฝีมือการเป่าแก้วที่ น่าทึ่งเป็นอย่างยิ่ง…
นำท่านอิสระช้อปปิ้งย่าน “ทานุกิโคจิ” ย่านที่คึกคักและมีชีวิตชีวาที่สุดของเกาะฮอกไกโด แห่งนครซัปโปโร ยิ่งโดยเฉพาะในช่วงยามค่ำคืน เหล่าบรรดาป้ายไฟโฆษณา บนตึกต่าง ๆ จะถูกเปิดไฟสลับสีแข่งขันคล้ายประชันสินค้ากัน รอบบริเวณนี้มีร้านอาหาร ภัตตาคาร สถานบันเทิงเริงรมย์ยามค่ำคืนราตรี ทั้งไนท์คลับ บาร์ คาราโอเกะ รวมกันมากกว่า 4,500 ร้าน ซึ่งตั้งอยู่ในตรอกซอกซอยน้อยใหญ่… นำท่านชมเทศกาลยิ่งใหญ่ระดับโลก “เทศกาลน้ำแข็งเมืองซัปโปโร ครั้งที่ 74” ซึ่งจัดขึ้นราวต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี นาน 1 สัปดาห์ จากสวนดอกไม้ที่สวยงามในฤดูร้อนกลายเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลที่มีผลงานแกะสลักน้ำแข็งอันวิจิตรตระการตา จากผู้เข้าร่วมประกวดจากทั่วประเทศและนานาชาติ บนลานที่เต็มไปด้วยหิมะในช่วงที่หนาวเหน็บที่สุดในรอบปี ปลายสุดด้านตะวันออกของสวนมีหอคอยทีวีทาวเวอร์ เป็นหอคอยส่งกระจายสัญญาณโทรทัศน์ สูง 147.2 เมตร มีจุดชมวิวอยู่ที่ระดับความสูง 90 เมตร จึงมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองซัปโปโรได้อย่างเต็มตา… ย้อนกลับไปเมื่อ พ.ศ. 2493 กลุ่มนักเรียนมัธยมได้ร่วมกันสร้างรูปปั้นจากหิมะขึ้นกลางสวนโอโดริจำนวน 6 ตัว ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวเมืองเป็นอย่างมาก ต่อมากองกำลังทหารที่ทางการส่งมาป้องกันประเทศ ได้เข้าร่วมสร้างรูปปั้นจากหิมะด้วยงานจึงยิ่งใหญ่กว่าเดิม ผู้คนจากทางใต้จึงเดินทางมาชมงานมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งปัจจุบันทางการจึงได้ยกระดับให้เป็นงานระดับโลก…
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร… บริการท่านด้วยเมนูอัพเกรด ซาชิมิปู ขาปูย่าง กราแตงปู
หม้อไฟปู พร้อมผักสดเทมปุระ นิกิริปู ซุป ผักดองและของหวาน
เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านผ่านชม “สวนโอโดะริ” สวนสาธารณะที่มีลักษณะเป็นเกาะกลางถนนขนาดใหญ่ ซึ่งมีความกว้าง 105 เมตร ยาว 3.8 กิโลเมตร ในช่วงต้นของสวนสาธารณะมีเสาทาวเวอร์ทีวีขนาดใหญ่เหมาะแก่การถ่ายรูป ช่วงหน้าร้อนจะเป็นแหล่งที่พักผ่อนหย่อนใจแก่คนทั่วไป ช่วงฤดูหนาวใช้เป็นสถานที่จัดเทศกาลหิมะที่มีการแกะสลักหิมะอย่างสวยงามสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาทุกปี
นำท่านผ่านชม “หอนาฬิกาโบราณ” อายุกว่า 130 ปี ซึ่งปัจจุบันยังคงเป็นนาฬิการที่สามารถ บอกเวลาได้เที่ยงตรงและแม่นยำมาตลอด อดีตใช้เป็นสถานศึกษาทางด้านการเกษตรแห่ง เกาะฮอกไกโด
นำท่านเยี่ยมชม “โรงงานช็อคโกแลตอิชิยะ” โรงงานช็อคโกแลตท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อของบริษัท คือ คุ้กกี้ SHIROI KOIBIO ของฝากที่นิยมของฮอกไกโด (คุ้กกี้เนยสอดไส้ช็อกโกแลตขาว) ภายในบริเวณโรงงาน ประกอบด้วย ร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์โรงงานช็อกโกแลต พร้อมจำหน่ายช็อกโกแลตหลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ยังมีสนาม SHIROI KOIBITO PARK สนามฟุตบอลที่เคยเป็นสถานที่แข่งขันฟุตบอลท้องถิ่น J-LEAGUE อีกด้วย…
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย : นำท่านเดินทางสู่ “เนินเขาแห่งพระพุทธเจ้า” ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเมืองซัปโปโร ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของสุสาน Makomanai Takino Cemetery ที่สร้างเสร็จพร้อมเปิดให้เช้าชมได้เมื่อปลายปี 2015 มีความโดดเด่นเนื่องจากเป็นองค์พระพุทธรูปขนาด 13.5 เมตร หนัก 1,500 ตัน ครอบไว้ด้วยโดมทรงกลมใต้ดิน โดยบริเวณสถานที่ดังกล่าวได้รับการออกแบบโดย Tadao Ando สถาปนิกชื่อดังของญี่ปุ่น โดยบริเวณทางเข้าจะมีสระน้ำ และอุโมงค์ความยาว 40 เมตร เป็นทางเดินทอดนำสายตาเข้าไป นอกจากนั้นในบริเวณดังกล่าวยังมีร้านกาแฟและร้านอาหารเล็กๆ รวมทั้งรูปปั้นหินจำลองของโมอายแห่งเกาะอีสเตอร์ และรูปปั้นหินจำลองของสโตนเฮนจ์ ให้ได้เดินชมกันก่อนกลับอีกด้วย… นำท่านเดินทางสู่ “มิซุยเอ้าท์เล็ต” แหล่งช้อปปิ้งสำหรับผู้ที่รักการช้อปปิ้ง สินค้าแบรนด์เนม สถานที่นี้เหมาะสมกับความต้องการของท่านอย่างสมบูรณ์แบบ เนื่องจากมีร้านค้ามากกว่าหนึ่งร้อยร้านค้า แบรนด์ยี่ห้อต่าง ๆ จากฝั่งอเมริกาและยุโรป อาทิ TIMBERLAND, BROOKS BROTHERS, COACH, COLE HAAN, ONITSUKA TIGERS, ADIDAS และ อีกมากมายให้ท่านได้เลือกสรร…
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร…บริการท่านด้วยเมนูบุฟเฟ่ต์ชาบูชาบูเนื้อหมูและเนื้อวัวที่คัดสรร เนื้อสัตว์เป็นอย่างดี พร้อมเสิร์ฟด้วยข้าวสวยญี่ปุ่นร้อนระอุเม็ดนุ่ม และเครื่องดื่มซอฟท์ดริ้งค์(ไม่อั้น)
เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรมเช้า นำท่านสู่สนามบินนานาชาติชินชิโตะเซะ บนเกาะฮอกไกโด เกาะใหญ่อันดับสองของประเทศญี่ปุ่น
นำท่านเดินทางสู่เมือง “ชิโตเซะ” เมืองเล็ก ๆ ซึ่งห่างจากตัวเมืองซัปโปโรประมาณ 45 กิโลเมตร ซึ่งมีท่าอากาศยานนานาชาติชินชิโตะเซะ เปิดบริการเมื่อปี ค.ศ. 1991 ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองชิโตะเซะ และโทะมะโกะไม ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบนเกาะฮอกไกโด และมีเที่ยวบินตรงสู่ 30 เมืองทั่วญี่ปุ่น เป็นศูนย์กลางของการคมนาคมทางอากาศที่สำคัญบนเกาะ
10:00 น. : เหินฟ้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิ (ประเทศไทย) โดยสายการบินแห่งชาติการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 671
15:50 น. : เดินทางถึงท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิประเทศไทย โดยสวัสดิภาพพร้อมภาพความประทับใจ
สำคัญ…เงื่อนไขและรายละเอียดของการเดินทาง (กรุณาอ่านรายละเอียดทุกข้อ)